วันจันทร์ ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
'อุตตม'ยันเจตนารมณ์'พรก.กู้เงิน'พยุงเศรษฐกิจ ปัดอุ้มนายทุนรายใหญ่บางกลุ่ม

'อุตตม'ยันเจตนารมณ์'พรก.กู้เงิน'พยุงเศรษฐกิจ ปัดอุ้มนายทุนรายใหญ่บางกลุ่ม

วันอาทิตย์ ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2563, 15.16 น.
Tag : กระทรวงการคลัง นายทุน พรก.กู้เงิน รมร.คลัง ไวรัสโคโรนา เศรษฐกิจ อุตตม สาวนายน โควิด-19
  •  

"อุตตม"ยืนยันเจตนารมณ์"พ.ร.ก.กู้เงิน"พยุงเศรษฐกิจ-รักษาเอสเอ็มอี ไม่ได้อุ้มนายทุนรายใหญ่บางกลุ่ม แต่เน้นประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก ช่วยให้ปรับตัวสู่"New Normal"

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 ที่รัฐสภา นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ชี้แจงต่อการอภิปรายของ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ถึงการจัดการเกี่ยวกับภัยโควิด โดยยืนยันว่า รัฐบาลไม่ต้องการเกิดผลกระทบรุนแรงจนกระทบเศรษฐกิจ จึงได้จัดการด้านสาธารณสุขเป็นอันดับแรกและดำเนินการไปได้ดี ส่วนด้านเศรษฐกิจเรามุ่งเน้นเรื่องการเยียวยาปัญหาขาดสภาพคล่องสำหรับประชาชน ผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs โดยมีมาตรการต่างๆ ออกมา และส่วนของการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม วันนี้รัฐบาลได้เริ่มดำเนินการ เพื่อให้มีความต่อเนื่องในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการรายเล็กเพื่อให้ก้าวสู่เศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่จะมาถึง ซึ่งไม่ใช่แค่การเอาเงินเยียวยาให้ประชาชนเท่านั้น แต่มีทั้งเรื่องเยียวยาและฟื้นฟูที่ได้พยายามให้ดำเนินการต่อเนื่องและสอดรับกับแผนพัฒนาประเทศยุทธศาสตร์การพัฒนาชาติ แต่ก็จำเป็นต้องมีตัวเงินใส่เข้าไปในแผนฟื้นฟู แต่จะไม่ใช่มาตรแต่เรื่องเยียวยา เพราะ ขณะที่ผู้ประกอบพยายามปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจรูปแบบใหม่หรือ New Normal ก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้สภาพคล่องในการปรับตัวเอง โดยรัฐบาลกำลังดำเนินการกับภาคส่วนต่างๆในการออกมาตรการที่ไม่ใช่ตัวเงินออกมา เช่นการเสริมทักษะสร้างงาน สร้างบุคลากร โดยเน้นในพื้นที่ในระดับชุมชนเป็นหลักโดยภาคเครือข่ายต่างๆไปพร้อมกัน มีพรก.เงินกู้เพื่อการเยียวยา 4 แสนล้านบาท มาสอดรับกับสิ่งเหล่านี้


"การดำเนินมาตรการเยียวยาเราพยายามให้ตรงเป้าหมายที่สุด ภายใต้ข้อจำกัดเรื่องความเร่งด่วนที่จะต้องเข้าไปดูแลอย่างรวดเร็ว ภายใต้ระบบของประเทศที่มีอยู่ และข้อมูลที่มี หลายอย่างเราอยากทำให้เร็วกว่านี้แต่ก็จำเป็นต้องเยียวยาให้ถูกคน และใช้งบประมาณอย่างรัดกุมคุ้มค่าเพราะเป็นเงินของชาติ จึงจำต้องใช้เวลา แต่เมื่อดำเนินการไปก็มีการปรับปรุง และรับฟังคำติชม ทักท้วงและปรับจนสามารถดำเนินการอย่างที่ได้เห็นผลแล้วในวันนี้สำหรับการดูแลกลุ่มต่างๆ ด้วยกลไกและมาตรการที่มีอยู่"

ส่วนประเด็นการกู้เงินและการบริหารจัดการภาระหนี้ของประเทศ ขอชี้แจงว่ากระทรวงการคลังโดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) มีแผนการระดับสากลเพราะมีประสบการณ์พอสมควร โดยจะใช้ตราสารการเงินในรูปแบบที่ดี เพื่อกระจายความเสี่ยง เพิ่มความสมดุลย์ ไม่กระทบส่วนใดของตลาดเงินมากเกินไป เช่นเครื่องมือระยะยาวมีการออกพันธบัตรรัฐบาล และพัมธบัตรออมทรัพย์ที่ออกไป โดยต้องการให้ประชาชนมีโอกาสได้ช่วยกันแก้ไขปัญหาโควิดครั้งนี้ โดยผ่านการซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ และยังเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ลงทุนในภาวะนี้ที่ดอกเบี้ยธนาคารต่ำ ประชาชนเข้าถึงกำหนดได้เพราะกำหนดซื้อได้อย่างต่ำ 1 พันบาท ไม่เกินคนละ 2 ล้านบาท เพราะต้องการให้กระจายไปถึงประชาชนรายย่อย

ส่วนการกู้ระยะสั้นก็มีเครื่องมืออื่นเช่น ตั๋วเงินคลัง สัญญาใช้เงินต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมามีการกู้ไปแล้ว 1.7 แสนล้านบาท ต้นทุนเฉลี่ย อยู่ที่ร้อยละ 1.5 เป็นอัตราที่สอดคล้องกับภาวะตลาดเงิน ตลาดทุนในปัจจุบัน หากในอนาคตมีการเปลี่ยนไปก็จะดูแลให้การระดมเงินผ่านการกู้ต่างๆให้สอดรับกับสภาวะของตลาดด้วย ส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2555 อัตราส่วนอยู่ที่ร้อยละ 40 แต่เราจำต้องกู้เพื่อมาสู้กับโควิดได้ ทำให้อัตราส่วนจำเป็นต้องขึ้นไปสูงขึ้น มิเช่นนั้นจะสู้ภัยไม่ได้ แต่หากไม่มีภัยนี้แล้วตนเชื่อว่าหนี้สาธารณะก็อยู่ในระดับร้อยละ 40 กว่าต่อไป

สำหรับประเด็นข้อกฎหมายที่ว่า พ.ร.ก.บีเอสเอฟ ฉบับที่ 3 ให้อำนาจ รมว.คลัง มากเกินควร ขอเรียนว่า ไม่ได้ให้อำนาจเกินควร เพราะในมาตรา 5 แม้จะให้อำนาจวินิจฉัยชี้ขาดเพื่อให้การดำเนินการตาม พ.ร.ก.ความสามารถดำเนินการได้โดยไม่เกิดอุปสรรคและความเสียหายต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งไม่อาจปล่อยให้เนิ่นนานล่าช้าในภาวะเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม การใช้อำนาจของรัฐมนตรีนี้ยังต้องอยู่ภายใต้หลักของการสุจริตโปร่งใส และการขัดกันของผลประโยชน์ แม้จะให้ถือว่าคำ "วินิจฉัย" ของรัฐมนตรีถือเป็นที่สุด แต่ก็ในเชิงบริหารเท่านั้น การใช้อำนาจการบริหารยังคงอยู่ภายใต้การตรวจสอบตามกระบวนการยุติธรรมของศาลตามหลักการแบ่งแยกอำนาจตามปกติ ไม่ได้ให้อำนาจสูงสุดแต่รัฐมนตรีเทียบเท่าศาล เนื่องจากการวินิจฉัยดังกล่าวไม่ได้ตัดสิทธิ์ในกระบวนการทางศาลแต่อย่างใด หากไม่เห็นด้วยกับการวินิจฉัยก็สามารถใช้กระบวนการทางศาลตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐมนตรีคลังได้ในทุกเวลา และรัฐมนตรีก็ต้องรับผิดชอบ

ส่วนมาตรา 19 วรรคหนึ่ง ที่มองว่าการกำหนดให้ ธปท.โดยความเห็นชอบของ รมว.คลัง มีอำนาจซื้อขายตราสารหนี้ภาคเอกชนที่ไม่ใช่ตราสารหนี้ออกใหม่นั้น เป็นการให้อำนาจรัฐมนตรีที่ขัดต่อมาตรา 77 วรรค 3 ของรัฐธรรมนูญ ขอชี้แจงว่ามาตรา 19 วรรคหนึ่ง มีการกำหนดเงื่อนไขในการใช้ดุลพินิจไว้ 2 เงื่อนไข คือ 1.ต้องเป็นกรณีที่ตราสารหนี้ประสบปัญหาสภาพคล่องอย่างร้ายแรงอันเนื่องมาจากโควิด19 และ 2.มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อการรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจและระบบการเงินโดยรวม ถือเป็นกรณีที่มีการกำหนดหลักเกณฑ์การใช้ดุลพินิจของ ธปท.และ รมว.คลัง ไว้แล้ว และยังกำหนดให้มีผู้พิจารณา 2 ขั้นตอน เพื่อความรอบคอบโดยผ่านการพิจารณาของ ธปท.และ รมว.คลัง ส่วนเรื่องระยะเวลาการใช้ดุลพินิจ เนื่องจากเป็นกรณีเร่งด่วน ซึ่งเป็นเงื่อนไขหลักของการพิจารณาของ ธปท.และ รมว.คลัง จึงจำเป็นต้องดำเนินการให้บริการในภาวะเช่นนี้ จึงยืนยันว่า บทบัญญัติมาตรา 19 ของ พ.ร.ก.นี้ ไม่ได้ต่อมาตรา 77 วรรค 3 แต่อย่างใด

"ผมขอยืนยันว่ากองทุนบีเอสเอฟไม่ได้อุ้มบริษัทใหญ่ หรือบริษัทที่ออกตราสารใด แต่มีความจำเป็นจริงที่เราต้องดูแลเสถียรภาพของระบบการเงิน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ออกหุ้นกู้เท่านั้นไม่ว่าขนาดแค่ไหน แต่สำคัญคือเกี่ยวข้องกับประชาชนที่ถือตราสารหนี้ที่มีจำนวนมากในปัจจุบัน การดำเนินการของกองทุนดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในกลไกการรักษามูลค่าเงินออม และเงินทุนของประชาชน และเป็นการช่วยเหลือผู้ออกหุ้นกู้โดยคิดดอกเบี้ยแพงเป็นพิเศษหากเทียบกับ พ.ร.บ.ฉบับที่ 2 หรือซอฟท์โลน ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ให้ดอกเบี้ยถูกเป็น แต่ฉบับที่ 3 จะให้ดอกเบี้ยแพงเป็นพิเศษถึงจะได้รับความช่วยเหลือ" นายอุตตม กล่าว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • วิเคราะห์เจาะลึกผู้ว่าฯ ธปท. คนใหม่ \'ดร.รุ่ง\' หรือ \'วิทัย\' ใครเหมาะคุมเสถียรภาพเศรษฐกิจ? วิเคราะห์เจาะลึกผู้ว่าฯ ธปท. คนใหม่ 'ดร.รุ่ง' หรือ 'วิทัย' ใครเหมาะคุมเสถียรภาพเศรษฐกิจ?
  • ประเทศเดียวในโลก! \'นายกฯ\'หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่\'หุ้น\'เขียวทั้งกระดาน ประเทศเดียวในโลก! 'นายกฯ'หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่'หุ้น'เขียวทั้งกระดาน
  • \'พิชัย\'รับเสนอชื่อ\'ผู้ว่า ธปท.\'ไม่ทัน ครม. สัปดาห์หน้า ปัดกระแสข่าวเลือกใคร ยังพิจารณาอยู่ 'พิชัย'รับเสนอชื่อ'ผู้ว่า ธปท.'ไม่ทัน ครม. สัปดาห์หน้า ปัดกระแสข่าวเลือกใคร ยังพิจารณาอยู่
  • ‘ภาคประชาชนหยุดพนัน’จัดไรเดอร์ส่งด่วน 53,900 รายชื่อ เรียกร้องทำประชามติ‘เอา-ไม่เอากาสิโน’ ‘ภาคประชาชนหยุดพนัน’จัดไรเดอร์ส่งด่วน 53,900 รายชื่อ เรียกร้องทำประชามติ‘เอา-ไม่เอากาสิโน’
  • ศก.ดิ่งเหว! ‘ศิริกัญญา’เผย 4 หน่วยงานหลักรับกลางวง กมธ. เย้ยรัฐบาลใหม่เตรียมแบกหนี้ ศก.ดิ่งเหว! ‘ศิริกัญญา’เผย 4 หน่วยงานหลักรับกลางวง กมธ. เย้ยรัฐบาลใหม่เตรียมแบกหนี้
  • ปชน.บี้ถาม‘คลัง-ธปท.’หนี้สาธารณะพุ่งแตะ69% เก็บภาษีต่ำเป้าต่อเนื่อง จะรับมืออย่างไร ปชน.บี้ถาม‘คลัง-ธปท.’หนี้สาธารณะพุ่งแตะ69% เก็บภาษีต่ำเป้าต่อเนื่อง จะรับมืออย่างไร
  •  

Breaking News

'เจิมศักดิ์'เทียบฟอร์ม 2 ตัวเต็งชิงผู้ว่าฯแบงก์ชาติ จับตาพลิกความคาดหมาย

'มิว ศุภศิษฎ์'เปิดใจโต้ข่าวลือคู่เลิก ลั่นสร้างเรือนหอ 2 หลัง งบ 100 ล้าน?

กระบะขนแรงงานเถื่อน! ซิ่งหนีแหกด่าน จอดทิ้งชายป่า27เมียนมาโดนรวบ

‘วิโรจน์’พร้อมยกมือให้‘นายกฯชั่วคราว’เพื่อผ่าน‘งบ 69’ แลกเงื่อนไขสิ้นปี‘ยุบสภา’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved