"พลังประชารัฐ"แบ่งขั้วระดมส.ส. "ธรรมนัส-วิรัช"แยกห้องสภาฯวัดกำลัง ด้าน"บิ๊กป้อม"ไม่เข้ากันครหาเลือกข้าง "ไผ่"สวด"สิระ"แฉพรรคแง่ลบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยังมีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีการแบ่งเป็น 2 ฝ่ายอย่างชัดเจน ระหว่างกลุ่มที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าและเลขาธิการพรรค กับกลุ่มที่ไม่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงของโควิด-19 โดยเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 31 พ.ค.ที่อาคารรัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ระดม ส.ส.จำนวน 50 คน อาทิ ส.ส.กาญจนบุรี ขอนแก่น พะเยา ตาก อุบลราชธานี กทม.บางเขต กำแพงเพชร บางเขต นครสวรรค์ บางเขต สมุทรปราการ บางเขต กทม.บางเขต และกลุ่ม ส.ส.ภาคใต้ มาประชุมที่ห้อง 419 แต่ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ซึ่งผนึกกำลังกับกลุ่มนี้ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย แต่นั่งทำงานอยู่ห้องข้างๆ กัน ขณะที่ในเวลาเดียวกัน นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานวิปรัฐบาล ได้เรียกประชุม ส.ส.ของพรรคเช่นเดียวกัน ที่ชั้น 6 อาคารรัฐสภา โดยมี ส.ส.ในกลุ่มนายวิรัช และ นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี 20 คน กลุ่มสามมิตร 20 คน กลุ่ม กทม.7 คน และกลุ่ม นายสันติ พร้อมพัฒน์ ร่วมประชุม
สำหรับวงประชุมที่ห้อง 419 ที่มี ร.อ.ธรรมนัส นั่งหัวโต๊ะนั้น 1 ใน ส.ส.ที่ร่วมประชุมเปิดเผยว่า ไม่ได้เพื่อแสดงพลังเพื่อสนับสนุนนายอุตตม หรือนายสนธิรัตน์ แต่ไม่เห็นด้วยที่จะมีการปรับ ครม.และเปลี่ยนแปลงผู้บริหารพรรคในช่วงของการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ขณะเดียวกัน ส.ส.ในกลุ่มนี้ยังมองว่า นายวิรัชทำงานเกินหน้าที่ประธานวิปรัฐบาล เพราะการเรียกประชุม ส.ส.ของพรรค เป็นหน้าที่ของหัวหน้าพรรค นอกจากนี้ ยังมีการวิเคราะห์ถึงอนาคตของนายวิรัช ที่ขณะนี้คดีทุจริตจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอล จ.นครราชสีมา งวดเข้ามาทุกที โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาสำนวนของคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการกับ ป.ป.ช.ซึ่งหากมีการสั่งฟ้อง และศาลฎีกาฯรับฟ้อง นายวิรัช รวมถึง นางทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา ซึ่งเป็นภรรยานายวิรัช และ นางทัศนาพร เกษเมธีการุน ส.ส.นครราชสีมา ซึ่งเป็นน้องสาวนางทัศนียา ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลในคดีเดียวกัน จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ และมีผลต่อตำแหน่งประธานวิปรัฐบาลด้วย
ขณะที่วงประชุมของนายวิรัช กลุ่มสามมิตร และกลุ่ม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ที่ชั้น 6 ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าและเลขาธิการพรรคนั้น มองว่า การที่ ร.อ.ธรรมนัส พยายามระดม ส.ส.เพราะเกรงว่า ตัวเองเป็น 1 ในรัฐมนตรีที่อาจจะถูกปรับออกจากตำแหน่งในการปรับ ครม.ครั้งหน้า จึงไปจับมือกับนายสนธิรัตน์ อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานยุทธศาสตร์พรรค พปชร.ที่เดินทางมาประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน ไม่ได้เข้าไปร่วมประชุมกับกลุ่มใดเลย เพราะเกรงว่า จะถูกมองว่าเลือกข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า วันเดียวกัน ยังมีการปล่อยภาพการพบกันของกลุ่มสามมิตร กับ พล.อ.ประวิตร โดยในภาพมี พล.อ.ประวิตร นั่งอยู่หัวโต๊ะ มี นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ นั่งอยู่ข้างๆ แต่จากการตรวจสอบพบว่า เป็นรูปพบกันตั้งแต่วันศุกร์ที่ 29 พ.ค.ผ่านมาแล้ว
ขณะที่ นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรค พปชร.กล่าวถึงกรณี นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรค พปชร.ระบุว่า การรวมกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ทำให้พรรคแตกแยก ว่า การประชุมครั้งนี้ไม่ได้เป็นการทำเพื่อให้ทำพรรคเกิดการทะเลาะกัน แต่เราคุยกันเพื่อสร้างความปรองดองให้ทุกคนทำงานไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ไม่ได้มีใครพูดถึงการแบ่งกลุ่มก๊วนภายในพรรค มีแต่มาพูดกันว่า จะทำอย่างไรให้ภาพลักษณ์ของพรรคออกมาในทางที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม นายสิระ ควรมาคุยกันในพรรค ไม่ควรออกมาพูดในแง่ลบข้างนอก น่าจะทำอะไรให้ดี ทำให้คนจดจำในทางที่ดี เพราะเวลาการเป็น ส.ส.เหลือน้อยแล้ว ส่วนเรื่องการปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี