ดีเดย์1มิ.ย.ผ่อนปรนระยะ3
บิ๊กตู่ขอเป็นวันดีๆ
แต่ยังห่วงคนไทยไร้วินัย
จัดปาร์ตี้วันเกิด-มั่วเสพยา
หวนระบาดใหม่ระลอก2
ไทยพบติดเชื้อเพิ่ม4คน
มาจากตปท.อยู่ในที่กักตัว
นายกฯขอให้ 1 มิถุนายน เป็นวันดีเดย์ผ่อนเฟส 3 ขอให้หลังจากนี้คนไทยรักตัวเอง รักครอบครัวและรักคนอื่นด้วยถึงจะผ่านวิกฤติไปได้ ยันใช้พ.ร.ก.บริหารคุมระบาด ไม่ได้ต้องการคงอำนาจไว้นานที่สุด ย้ำจะทยอยผ่อนคลายมาตรการ
เฟส 4 หลายกิจกรรม อยากให้ปชช.มีรายได้ แต่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ ไม่สบายใจข่าวเช่ารร.จัดเลี้ยงวันเกิดพี้ยา
ชี้ไม่รักษาวินัยแบบนี้ทำระบาดรอบสอง ขณะที่ไทยติดโควิดเพิ่ม 4 กลับจากต่างประเทศทั้งหมด อยู่ในสถานที่กักตัวรัฐ มท.1 มอบนโยบายผู้ว่าฯทั่วปท.กำชับประชาชนห้ามการ์ดตก “กทม.” มีมติผ่อนปรน
กิจการกิจกรรม17แห่ง แต่ยังคุมเข้มปฎิบัติตามมาตรการสาธารณสุข
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) แถลงความคืบหน้าของสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ติดเชื้อเพิ่ม4กลับจากตปท.ทั้งหมด
โดยพญ.พรรณประภากล่าวว่า สถานการณ์ในประเทศไทยไม่พบผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม สะสม 57 ราย รักษาหายสะสมที่ 2,963 ราย อยู่ในการรักษาที่โรงพยาบาล (รพ.) 61 ราย และพบผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มใหม่ 4 ราย สะสมอยู่ที่ 3,081 ราย พบในกรุงเทพมหานคร (กทม.) และนนทบุรี 1,722 ราย ภาคเหนือ 95 ราย ภาคกลาง 411 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 111 ราย ภาคใต้ 738 ราย โดยผู้ป่วยอายุน้อยสุด 1 เดือน อายุมากสุด 97 ปี โดยเฉลี่ยคืออายุ 39 ปี พบผู้ป่วยมากในอายุ 20-29 ปี ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ เป็นผู้ป่วยที่อยู่ในสถานกักกันโรคของรัฐ ( State Quarantine )
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 4 ราย ได้แก่ ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State Quarantine รายแรกกลับจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพศหญิง อายุ 37 ปี พนักงานนวด เมือง Ajman เดินทางมาถึงวันที่ 24 พฤษภาคม เข้าพักโรงแรมในกทม. และพบอาการป่วย หายใจลำบาก ปวดศีรษะ ปวดท้อง ต่อมาวันที่ 29พฤษภาคม ตรวจพบเชื้อ เข้ารักษาใน รพ.เลิศสิน 2.มาจากตุรกี 2 ราย เพศชาย อายุ 18 และ 19 ปี เป็นนักศึกษา เมือง Istunbul เดินทางมาถึงวันที่ 29 พฤษภาคม เข้าพักโรงแรม จ.ชลบุรี โดยตรวจพบเชื้อ แต่ไม่มีอาการ เข้ารักษา รพ.บางละมุง จ.ชลบุรี 3.มาจากชาอุดิอาระเบีย 1 ราย เพศชาย อายุ 22 ปี เป็นนักศึกษา เมืองอับชา เดินทางจากกรุงริยาด – กัวลาลัมเปอร์ แล้วเดินทางเข้าประเทศไทยทางด่านปาดังเบชาร์ โดยรถบัสถึงไทยวันที่ 21 พฤษภาคม เข้าพัก State Quarantine ใน จ.นราธิวาส ต่อมาวันที่ 21 พฤษภาคม ตรวจไม่พบเชื้อ ตรวจซ้ำวันที่ 29 พฤษภาคม จึงพบเชื้อ และเข้ารักษา รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาส
ส่วนสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศไทย 1.โดยผู้ป่วยที่ติดเชื้อในประเทศสะสม 2,444 ราย คิดเป็นร้อยละ 79.32 และ 2.ผู้ป่วยที่มาจากต่างประเทศ 637 ราย คิดเป็นร้อยละ 20.68 โดย อยู่ในสถานกักกันโรคฯ 144 ราย คิดเป็นร้อยละ 22.61
“จะพบว่าช่วงแรกของประเทศไทยเป็นการป่วยติดเชื้อมากจากต่างประเทศ ช่วงเดือนมีนาคมเป็นการติดเชื้อในประเทศ ต่อมาระยะหลัง 4 เมษายน ที่ห้ามเครื่องบิน บินเข้าราชอาณาจักรไทย จึงทำให้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากต่างประเทศและในประเทศลดลง และระยะนี้เป็นการติดเชื้อของผู้ที่อยู่ในสถานกักกันโรคฯ “ พญ.พรรณประภา กล่าว
มท.1มอบนโยบายผู้ว่าฯผ่อนเฟส3
วันเดียวกัน ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานประชุมซักซ้อมแนวทางปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนฝ่ายเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ผู้แทนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้แทนกรมควบคุมโรค และผู้แทนสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (GISTDA) เข้าร่วมประชุมผ่านระบบ Video Conference ไปทั่วประเทศ มีผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และนายอำเภอทั่วประเทศ ร่วมประชุม
ย้ำรับรู้วิถีชีวิตใหม่ห้ามการ์ดตก
พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมซักซ้อมการปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรน ระยะ 3 จากการปฏิบัติช่วงที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนร่วมกันป้องกัน สกัดกั้น ยับยั้ง การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และประชาชนร่วมมือดีมาก ทำให้ไม่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่ม และเราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีเป็นประเทศหนึ่งในโลก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ต้องช่วยกันเน้นย้ำสร้างการรับรู้กับประชาชนให้รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน ด้วยการสวมหน้ากาก ล้างมือ และรักษาระยะห่างทางสังคมตลอดเวลา “อย่าการ์ดตก” สิ่งเหล่านี้คือ สูตรหลักที่ทุกคนต้องทำ ต้องรักษาสุขอนามัย และป้องกันตนเองเพื่อเตรียมเข้าสู่การผ่อนคลาย ให้เป็น New Normal
เตรียมพร้อมฟื้นฟูศก.-ท่องเที่ยว
“ที่ผ่านมาระยะ 1 และ 2 เราทำได้ดีมาก และระยะต่อไปจะเข้าสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการท่องเที่ยวที่จะต้องมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศ ดังนั้น ถ้าทุกคนทำตามมาตรการควบคุมโรคควบคู่ไปกับเศรษฐกิจได้ ก็จะเป็นโอกาสทองของประเทศไทย”พล.อ.อนุพงษ์กล่าว
และว่า ด้านการใช้งบประมาณป้องกันแก้ปัญหา และการฟื้นฟูที่กำลังจะเกิดขึ้น ทุกส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องบริหารจัดการให้เป็นไปด้วยความโปร่งใสเคร่งครัด ทุกหน่วยงานต้องร่วมมือกันใช้งบประมาณที่มีอยู่ไม่มาก ให้ดีที่สุด แก้ปัญหาให้ดีที่สุด เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของประเทศ และประชาชน ทั้งจัดทำโครงการ และจัดซื้อจัดจ้าง ต้องไม่มีการทุจริต เพราะคนที่ได้รับผลกระทบคือ ประเทศชาติและคนไทยทุกคน ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอต้องสอดส่องดูแล หากพบสิ่งใดจะก่อให้เกิดความเสียหาย ต้องเรียกดู ตรวจสอบโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีการร้องเรียนต้องเร่งไปกำกับดูแล และเชิญชวนประชาชนช่วยกันตรวจสอบ ร้องเรียน และแจ้งเบาะแสมายังศูนย์ดำรงธรรม และลงไปดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย และถ้าทุกคนทำได้โอกาสทองในการฟื้นฟูเศรษฐกิจก็จะเกิดขึ้น
ใช้งบโปร่งใส-รณรงค์ใช้ไทยชนะ
พล.อ.อนุพงษ์กล่าวด้วยว่า ขอให้ทุกส่วนราชการดำเนินงานและใช้จ่ายงบประมาณการฟื้นฟูด้วยความโปร่งใส และร่วมกันปฏิบัติงานตามมาตรการผ่อนคลายให้รัดกุม เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาด และสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในการเดินทางสัญจรข้ามพื้นที่ภายในประเทศ รวมทั้งสร้างการรับรู้และรณรงค์ให้ผู้ประกอบการและประชาชนใช้แอปพลิเคชั่นไทยชนะ เป็นเครื่องมือในการเฝ้าระวังและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อสามารถทำมาหากินได้อย่างปกติและก้าวสู่การดำเนินชีวิตประจำวันรูปแบบใหม่ (New Normal) และให้ความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยทำได้ อย่างที่เราได้ทำร่วมกันมาโดยตลอด
กทม.คลายล็อค17กิจการ-กิจกรรม
ส่วนที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงผลประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร มีพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.)เป็นประธานการประชุม ร่วมกับหน่วยงานองค์กรต่างๆรวม 26 องค์กรว่า ที่ประชุมมีมติ ให้ผ่อนปรนเปิดกิจกรรมและกิจการต่างๆระยะที่3 เพื่อให้สอดรับกับคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019(โควิด-19) หรือศบค. รวม 17 แห่ง
หลังกพบว่า10 วันที่ผ่านมายอดผู้ป่วยเพิ่มมีตัวเลขเป็น 0 โดยเดือนนี้พบผู้ป่วยเพียง 9 คน เปรียบเทียบกับเดือนที่แล้วพบผู้ป่วย 497 คน คิดเป็น 55 เท่า ของเดือนที่แล้ว กทม.ขอบคุณประชาชนที่ช่วยกันทำให้สถานการณ์ดีขึ้น โดยกิจกรรมและกิจการที่กรุงเทพมหานครผ่อนปรนให้ดำเนินการตามมาตรการบังคับและข้อแนะนำได้ในระยะที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ประกอบด้วย 2 ส่วนหลักคือ
ชาบูปิ้งย่างเฮ-ให้นั่งกินร่วมกันได้
ส่วนแรก กิจการผ่อนปรนอยู่แล้ว แต่เพิ่มเติมกิจกรรมพร้อมมีมาตรการประกอบด้วย 1 .ร้านอาหารและเครื่องดื่มในทุกสถานที่กำหนด รวมทั้งร้านชาบู ปิ้งย่าง อนุโลมให้รับประทานอาหารร่วมกันได้ โดยไม่ต้องใช้ฉากกั้น แต่ต้องเว้นระยะห่าง 1 เมตร ในแต่ละโต๊ะเพื่อไม่ให้โต๊ะในร้านหนาแน่นมากเกินไป 2.ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอล์ ขยายเวลาเปิดถึง 21.00 น. โดยกรุงเทพมหานครได้พูดคุยกับผู้ประกอบการให้บริหารจัดการภายในร้าน สามารถปิดก่อนเวลาได้และต้องให้พนักงานกลับกลับทันเวลาเคอร์ฟิว 23.00 น. 3.ร้านเสริมสวย แต่งผม หรือตัดผม สามารถแต่งผมได้ทุกประเภท อาทิ ทำสีผม แต่จำกัดเวลาให้บริการไม่เกิน 2 ชั่วโมง และทำความสะอาดร้านและอุปกรณ์ตามรอบ โดยผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
เสริมความงามฟิตเนสเล่นได้หมด
4.คลินิกเวชกรรม เสริมความงาม สถานเสริมความงาม สถานบริการสักผิวหนัง เจาะผิวหนัง เจาะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย ให้บริการได้ในทุกกิจกรรม แต่จำกัดเวลาให้บริการไม่เกิน 2 ชั่วโมง โดยผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ ต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะผู้ให้บริการต้องสวมหน้ากากป้องกันใบหน้า (เฟสชิลด์) ด้วยเพื่อลดการแพร่เชื้อขณะให้บริการ รวมถึงให้กิจการลงทะเบียนและยืนยันการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคสถานที่ราชการกำหนด 5.ฟิตเนสทั้งในห้างและนอกห้าง อนุญาตให้เปิดได้ทั้งหมดและเปิดให้เล่นได้ทุกกิจกรรม แต่ผู้ให้บริการต้องจำกัดจำนวนผู้เล่น และให้เว้นระยะห่างระหว่างเครื่องเล่นอย่างน้อย 2 เมตร จำกัดให้เล่นได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมงและงดเว้นอบตัวหรืออบไอน้ำ
ศูนย์เด็กเล็กเปิดเฉพาะจนท.ทำงาน
ร.ต.อ.พงศกรกล่าวต่อว่า ส่วนที่ 2 กิจการที่ได้รับการผ่อนปรนเพิ่ม ประกอบด้วย 6.ผ่อนผันใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา ให้ใช้เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียน แต่ยังไม่ให้มีการเรียนการสอน ส่วนโรงเรียนเอกชน นอกระบบประเภทวิชาชีพ ศิลปะและกีฬา ตามประเภทกีฬาที่ได้รับการผ่อนคลายไปแล้ว ได้แก่ แบดมินตัน ตะกร้อ ปิงปอง ยิมนาสติก ฟันดาบ ปีนผา ฟุตบอล ฟุตซอล บาสเกตบอล วอลเลย์บอล ชกมวย ดำเนินการได้และทั้งครูและนักเรียน ต้องสวมหน้ากาก ห้ามแข่งขัน
7.การจัดแสดงสินค้า และนิทรรศการในศูนย์ประชุม ศูนย์แสดงสินค้า สถานที่ขนาดไม่เกิน 20,000 ตารางเมตรดำเนินการได้ จำกัดจำนวนคนสูงสุด 5,000 คน ต้องจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมตามขนาดพื้นที่ไม่น้อยกว่า 4 ตารางเมตรต่อคน ต้องให้เว้นระยะห่างทั้งนั่งและยืนไม่น้อยกว่า 1 เมตรและเปิดให้บริการได้ถึง 21.00 น. 8.ศูนย์พระเครื่อง พระบูชา และสนามพระเครื่อง พระบูชา อนุญาตให้เปิดดำเนินการได้ แต่ต้องไม่จัดสัมมนา จัดประกวดและรวมกลุ่มคน เพื่อจองเช่าพระเครื่อง พระบูชา วัตถุมงคล 9.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เด็กก่อนวัยเรียน อนุญาตให้เปิดได้เฉพาะเจ้าหน้าที่เข้ามาปฏิบัติงานที่จำเป็น แต่ยังไม่เปิดให้มีการเรียนการสอนหรือรับฝากเลี้ยงรายวัน (ไป-กลับ)
นวดไทยสปาทำได้-เว้นนวดหน้า
10.สถานประกอบการนวดเพื่อสุขภาพ นวดแผนไทย สปาเพื่อสุขภาพ เปิดดำเนินการได้ แต่งดการนวดบริเวณใบหน้า งดการอบตัวอบสมุนไพรแบบรวม จำกัดระยะการให้บริการไม่เกิน 2 ชั่วโมง ผู้ประกอบการพนักงาน ผู้ใช้บริการสวมหน้ากากตลอดเวลายกเว้นขณะอบตัวสมุนไพร อบไอน้ำ และ ให้กิจการลงทะเบียนและยืนยันการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่งราชการกำหนด ส่วนสถานประกอบกิจการอาบน้ำและอาบ อบ นวด ยังไม่อนุญาตให้เปิดบริการ
สนามกีฬาเล่นเพื่อออกกำลังไม่มีแข่ง
11. สถานที่ฝึกซ้อมมวย โรงยิมหรือค่ายมวย ให้เปิดได้เฉพาะเพื่อการฝึกซ้อม การชกลมโดยไม่มีคู่ชก การชกแบบล่อเป้า และต้องไม่มีการแข่งขันและไม่มีผู้ชม 12 สนามกีฬา ให้เปิดเฉพาะกิจกรรม เพื่อการออกกำลังกาย หรือฝึกซ้อมในประเภทกีฬา ได้แก่ ฟุตบอล ฟุตซอล บาสเกตบอลและวอลเลย์บอล ต้องไม่เป็นการแข่งขัน และต้องมีผู้ร่วมกิจกรรมที่อยู่ในบริเวณสนามกีฬา ไม่นับรวมผู้เล่นอีกไม่เกิน 10 คน
13.สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง สเก็ตหรือโรลเลอร์เบลด และการละเล่นอื่นๆให้เปิดเฉพาะกิจกรรมเพื่อการออกกำลังกายหรือการฝึกซ้อมเท่านั้นและต้องมีการเว้นระยะห่างทั้งยืนและนั่งไม่น้อยกว่า 1 เมตร 14.สถาบันลีลาศหรือสอนสลีลาศ ผู้ใช้บริการตามขนาดห้องเกณฑ์ไม่น้อยกว่า 5 ตารางเมตรต่อผู้ใช้บริการ 1 คน
งดจัดแสดงดนตรีคอนเสิร์ตไปก่อน
15.สระน้ำ เพื่อเล่นกีฬาหรือกิจกรรมทางน้ำในบึง เช่น เจ็ตสกีไคท์เซิร์ฟ เครื่องเล่นประเภทบานาน่าโบ๊ท โดยขณะทำกิจกรรมให้เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1.5 เมตร 16. โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ ให้จำกัดผู้ร่วมกิจกรรมได้ไม่เกิน 200 คน งดเว้นจัดแสดงดนตรี หรือคอนเสิร์ต หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่อาจมีความเสี่ยงต่อการรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล 17.สวนสัตว์ หรือสถานที่จัดแสดงสัตว์ ให้เปิดได้โดยให้ลงทะเบียนเพื่อจองคิวเข้าใช้บริการ และให้ควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการ
จัดจนท.สุ่มตรวจหลังคลายล็อค
ร.ต.อ.พงศกร กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือ ให้ประชาชนลงทะเบียนเวลาเข้าใช้บริการตามสถานที่ผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะ หรือจดบันทึกตามที่สถานประกอบกิจการ หากผู้ประกอบการใดไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่ราชการกำหนด แจ้งผ่านช่องทางแพลตฟอร์มไทยชนะได้ ซึ่งหลังจากนี้ กรุงเทพมหานครจะจัดเจ้าหน้าที่ชุดบูรณาการ ออกสุ่มตรวจสถานประกอบกิจกรรมและกิจการที่ได้รับการผ่อนปรนให้ดำเนินการตามมาตรการและข้อกำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคต่อไป
สบส.เข้มร้านสปานวดเล็งสุ่มตรวจ
ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อม เพื่อเปิดกิจการสถานประกอบการ สปา ร้านนวดเพื่อสุขภาพที่มีอยู่ประมาณ 10,500 แห่งว่า ผู้ประกอบการมีหน้าที่เตรียมความพร้อม เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ ทั้งผู้ให้และผู้รับบริการ หน้ากากอนามัย เจลล้างมือแอลกอฮอล์ พนักงานต้อนรับเว้นระยะห่างกับผู้รับบริการ 1เมตร จุดนวดต้องจัดให้ระยะห่างอย่างน้อย 1.5 เมตรระหว่างกัน ห้องให้บริการนวดต้องเป็น 1 คนต่อ 1 ห้อง ส่งเสริมให้ชำระเงินแบบออนไลน์ จัดระบบระบายอากาศที่ดี ส่วนผู้รับบริการต้องปฏิบัติตัว ดังนี้ สวมหน้ากากตลอดการใช้บริการ ล้างมือก่อนและหลังรับบริการ ขณะรับบริการไม่ชวนพูดคุยในสิ่งที่ ไม่จำเป็น ระหว่างรับบริการมีใครไอมีน้ำมูก ต้องหยุดบริการทันที แม่บ้านในสถานประกอบการต้องจัดการขยะตลอดเวลาทำความสะอาด ปลอกหมอนผ้าปู ห้ามสะบัด ต้องม้วนออกจากตัวเองและเก็บมิดชิด นอกจากนี้ ยังมีระบบลงทะเบียนเปิดสถานประกอบการ เพื่อตรวจสอบหลักเกณฑ์ตามทิ่สบส.ให้ไว้ เมื่อตรวจสอบแล้วจะได้ใบผ่านให้สถานประกอบการและประเมินทุก7 วัน โดยผู้ใช้บริการร่วมให้ความเห็นได้
เสริมความงามฉีดหน้าห้ามเกิน1ชม.
ทันตแพทย์อาคมกล่าวต่อว่า พนักงานนวดที่กลับมาจากต่างประเทศ ทุกคนต้องได้รับการกักตัว 14วัน ไม่นับการถูกกักตัวจากต่างประเทศมาก่อน ที่สำคัญไทยกำลังยกระดับร้านนวดร้านสปาให้เป็นที่ยอมรับทั่วโลก จำเป็นอย่างยิ่งที่คนไทยทุกคนต้องช่วยจับตาสร้างความมั่นใจให้คนไทยและชาวต่างชาติ จากข้อมูลของกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ขณะนี้ไทยมีร้านนวดเพื่อสุขภาพ สปาเพื่อสุขภาพ 10,500 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็น สปาเพื่อสุขภาพ 9400 แห่ง เป็นร้านนวดเพื่อสุขภาพ 900 แห่ง นวดเพื่อความงาม 200แห่ง ซึ่งทุกแห่งต้องได้รับการประเมินความพร้อมก่อนจะให้บริการ สำหรับข้อกังวลเรื่องสถานเสริมความงามฉีดโบท๊อกซ์ ฟิลเลอร์ ก็มีระบบให้บริการไม่ต่างกัน คลีนิคเวชกรรมเสริมความงามเองก็ต้องจัดระบบป้องกันการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ที่สำคัญต้องนัดหมายให้บริการไม่เกิน 1ชั่วโมงและรักษาความสะอาดเข้มงวด
นายกฯไม่สบายใจไม่รักษาวินัย
เวลา 16.00 น.ที่รัฐสภา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกล่าวหลังประชุมสภาพิจารณาร่างพ.ร.ก.เงินกู้ 3 ฉบับ วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาทถึงการเริ่มผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ระยะ 3 วันที่ 1 มิถุนายนว่า อยากให้คำว่าเริ่มดีเดย์ เป็นวันดีดี ไม่ใช่วันที่จะกลับไปอยู่ที่เก่าที่เดิม ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ปล่อยใจ ไม่ใส่หน้ากากอนามัย ไม่รู้ระยะห่าง เมื่อเช้าเห็นข่าวแล้ว ไม่สบายใจที่มีคนกลุ่มหนึ่งไปเช่าโรงแรม จัดเลี้ยงวันเกิด ที่เห็นมีเรื่องของยาเสพติดด้วย นี่แหละจะเป็นสถานที่แพร่ระบาดหลับมาอีกครั้งหนึ่ง ถ้าทุกคนไม่รักษาวินัย
ขอให้1มิย.เป็นวันดีเดย์ผ่อนเฟส3
“ถ้าทุกคนไม่รักตัวเอง ก็ขึ้นอยู่กับพวกท่าน แต่ขอให้รักครอบครัวของท่าน รักประชาชนของท่าน สิ่งที่ทำมา ไม่ใช่ทำได้โดยรัฐบาลอย่างเดียว ทุกคนต้องร่วมมือกัน แต่ถ้า ยังมีบางคนไม่ร่วมมือ ผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร อาจมองตัวอย่างจากต่างประเทศก็ได้ ซึ่งไม่ใช่วัฒนธรรมของคนไทย อย่าพวกเราก็ใส่หน้ากากทุกคน อย่างน้อยก็เป็นปราการชั้นที่ 1 ให้เราไม่ติดการแพร่ระบาด ถ้าเราเป็นก็ไม่แพร่ให้คนอื่น นี่คือ รักตัวเอง และรักคนอื่นด้วย จำไว้คนไทยต่อจากนี้ ต้องรักตัวเอง รักครอบครัว รักคนอื่นด้วย นั่นแหลาะประเทศไทยจะผ่านวิกฤตไปได้ด้วยดี ก็ขอให้วันที่ 1 มิถุนายน เป็นวันดีเดย์”นายกฯกล่าว และย้ำว่า รัฐบาลจำเป็น ต้องตัดสินใจบนความเสี่ยงพอสมควร แต่จากการพิจารณา สิ่งที่รัฐบาลทำมาโดยตลอด 3 เดือน เรา ควบคุมได้ ในระดับที่ดีพอสมควร แต่ถ้าไม่ดี เกิดระบาดขึ้นใหม่ ก็ต้องย้อนหลับไปทำใหม่เป็นจุดๆ ไป คงไม่ใช่ตนต้องการคงอำนาจตรงนี้ไว้ให้นานที่สุด แต่เป็นอำนาจใช้บริหารเท่านั้น ไม่ได้ละเมิดหรือลงโทษใคร เพราะบางทีการไม่ลงโทษทำให้ทุกคนเคยตัวเหมือนกัน เพราะผ่อนผันไปเรื่อย
ยันเฟส4ยังทยอยผ่อนมาตรการ
ผู้สื่อข่าวถามถึง การผ่อนคลายระยะที่ 4 จะเป็นการทยอยผ่อนคลายใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จากนี้จะเป็นการทยอยผ่อนคลายมาตรการ ซึ่งมีหลายอย่าง คือ อยากให้ประชาชนมีรายได้ แต่อะไรที่เสี่ยงมากๆ ก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ ส่วนต้องรอ 14 วัน เหมือนหลักการเดิมหรือไม่ ค่อยๆผ่อนขอให้รอพิจารณาก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี