1 มิถุนายน 2563 ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเป็นห่วงรัฐบาลในการพิจารณาการใช้จ่ายเงินตามข้อกำหนดของพระราชกำหนดเงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท ว่าอาจไม่ตรงกับเป้าหมายของการใช้เงินกู้ก้อนนี้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับอัตราหนี้มหาศาลของประเทศที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยยกตัวอย่างอุปสรรคที่จะทำให้เกิดความผิดพลาดได้คือ ความเข้าใจต่อปัญหาที่แตกต่างกันระหว่างชาวบ้านกับข้าราชการประจำ หรือรัฐบาล
“ผมขอยกตัวอย่างของปัญหาที่พบสัก 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ 1 คือภัยแล้ง ในเรื่องนี้ข้าราชการประจำ และรัฐมนตรี มองเห็นว่าประชาชนเดือดร้อน และต้องให้ความช่วยเหลือ ข้าราชการประจำและรัฐมนตรี จึงนำเมล็ดพันธุ์ ต้นกล้าไม้ ปุ๋ย ไปแจกเพื่อให้ชาวบ้านนำไปปลูกต่อ ส่วนชาวบ้านก็มองว่า ภัยแล้งนั้นเกิดจากการไม่มีน้ำใช้เพื่อการเกษตร จึงต้องการได้แหล่งน้ำที่สามารถทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี จากประเด็นนี้ก็ชัดเจนว่า ความเข้าใจต่อปัญหาที่แตกต่างกัน ย่อมนำไปสู่การแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการที่แตกต่างเช่นเดียวกัน
เรื่องที่ 2 เป็นปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ประชาชนมุสลิมยากจน ดังนั้น ข้าราชการในพื้นที่จึงนำแพะไปให้เลี้ยง เพื่อหวังสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้าน ผ่านไป 2 เดือนหลังจากที่ชาวบ้านรับมอบแพะมาเลี้ยง ข้าราชการก็ทราบว่า ชาวบ้านไม่มีแพะแล้ว แต่ก็ไม่ปรึกษาหาความอะไร เพราะถือว่าตัวเองได้ทำหน้าที่เสร็จสิ้นแล้ว และสรุปเอาเองว่า ชาวบ้านขาดความรับผิดชอบ ทั้งๆ ที่สาเหตุของชาวบ้านที่แพะหมดเพราะเอามาทำกินเป็นอาหาร เนื่องจากไม่สามารถหาอาหารมาให้แพะกินได้ หรือกลัวแพะจะตายเพราะโรค ดังนั้น เมื่อได้รับแพะมา โดยไม่ได้ให้วิธีเลี้ยงหรือคำแนะนำในการดูแล ชาวบ้านก็เลยเลือกที่จะเชือดแพะเป็นอาหาร เพราะคิดว่าน่าจะเป็นทางที่น่าจะเกิดประโยชน์มากที่สุด ดีกว่าเสี่ยงเลี้ยงให้เป็นโรคตาย หรือสิ้นเปลืองเงินทอง แรงงาน และเวลาในการหาอาหารมาให้แพะกิน”
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังย้ำว่า “แน่นอนว่า ข้าราชการประจำ และรัฐมนตรี สามารถที่จะมีความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาที่จะแก้ไขได้ แต่ต้องขอให้ตรวจสอบความเป็นจริงของปัญหานั้นตรงกับประชาชนในพื้นที่จริง เพื่อให้เกิดความมั่นใจอย่างสูงสุดว่า เรากำลังจะใช้เงินกู้มหาศาลนั้น เพื่อทำให้ปัญหาของประชาชนหมดไป หรือสามารถสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่พวกเขาได้ ไม่ใช่เพียงแค่การใช้งบประมาณให้หมดไปตามลายลักษณ์อักษรที่กำหนดไว้ในสัญญา
ดังนั้น ปัญหาของชาวบ้าน ต้องมาจากมุมมองและความคิดของชาวบ้าน อนาคตของพวกเขา ต้องมาจากความต้องการที่พวกเขากำหนด นี่คือโจทย์การใช้เงินกู้รอบนี้ของภาครัฐ ส่วนกระบวนการและเทคนิคในการพาไปสู่เป้าหมายของชาวบ้านให้สำเร็จ ต้องมาจากคนที่รู้จริงและทำเป็น ด้วยองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ที่ไม่ใช่ทำทุกอย่างด้วยสามัญสำนึก”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี