18กก.บริหารพรรคลาออก
พปชร.แตกยับ
บีบ‘อุตตม’พ้นเก้าอี้หัวหน้า
‘สุริยะ-สมศักดิ์’รุมถล่ม
เลือกกก.ชุดใหม่ใน45วัน
‘บิ๊กตู่’ย้ำยังไม่ปรับครม.
ชี้ประชาชนยังเดือดร้อน
“บิ๊กตู่” ย้ำยังไม่ปรับครม.เปลี่ยนกก.บห.เรื่องของ พปชร.เวลานี้ชาวบ้านยังเดือดร้อนมหาศาล ด้าน“บิ๊กป้อม”ไม่รู้ไม่เห็นกก.บห.ลาออกเกินครึ่ง ไม่รู้ใครนั่งหัวหน้าคนใหม่ขณะที่ “สมศักดิ์” แย้ม เดี๋ยวมีข่าวใหญ่ ยันกก.บห.ลาออกเกินครึ่งจริง ไม่รู้จะปรับครม.ด้วยหรือไม่ ‘ไพบูลย์’ยื่น18รายชื่อกก.บห.ไขก๊อกพ้นพรรค อ้างมีผลทันที1มิถุนายน ตามกฎข้อบังคับพรรค รอหัวหน้าพรรคเรียกถกตั้งกก.บห.ชุดใหม่ ด้าน‘ชวน’รับญัตติตั้งกมธ.วิสามัญ ตรวจสอบงบโควิดแล้ว
เมื่อวันที่ 1มิถุนายน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงปัญหาภายในพรรค พปชร.โดยกล่าวว่า “เป็นเรื่องภายในพรรค ไม่จำเป็นต้องเคลียร์’เมื่อถามย้ำว่า ในฐานะ ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ จึงเป็นที่ได้รับความเคารพนับถือจำเป็นจะต้องเข้าไปเคลียร์ เพื่อให้เกิดความสามัคคีกรมเกรียวร พล.อ.ประวิตร กล่าวสั้นๆว่า“กลมเกลียวอยู่แล้ว”
‘บิ๊กป้อม’ไม่รู้’พปชร.’แตกร้าว
ส่วนกระแสข่าวคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.กห.) ยื่นลาออกส่งผลให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงกก.กห.พรรคใหม่ พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธว่า ไม่รู้สิ เมื่อถามย้ำว่า ถ้าพรรคมีติเลือก พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรค พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า ไม่รู้ ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ไม่รู้เรื่อง เมื่อถามอีกว่า ได้รับทราบมาก่อนหรือไม่ว่ากก.บห.ลาออก พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี ไม่รู้เรื่อง เมื่อถามว่า ในฐานะเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคจะดำเนินการอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การดำเนินการเป็นเรื่องของเขา แต่กลมเกลียวกันอยู่แล้ว เมื่อถามย้ำว่า ถ้ากก.บห.พ้นสภาพ ส่งผลให้เลือกกก.บห.พรรคชุดใหม่ จะรับหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวปฏิเสธอีกว่า ไม่มี ไม่รู้
บิ๊กตู่ไม่ปรับครม.-ปชช.ยังเดือดร้อน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณี กก.กห.พรรคพปชร.ยื่นลาออก ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนกก.บห.ชุดใหม่ ว่า เป็นเรื่องของพรรค ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องมีการเลือกกันใหม่ เมื่อถามว่า ส่งผลให้ต้องปรับครม.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่เกี่ยวกับผมสักอัน เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ซึ่งจะพิจารณาเรื่องปรับครม.ด้วยตนเอง แต่ถึงวาระจำเป็นที่ต้องปรับหรือยัง เป็นเรื่องของผม ตอนนี้ยังไม่มี ยังไม่ถึงเวลาที่จะคิดเรื่องนี้ วันนี้ประชาชนเดือดร้อนอยู่มากมายมหาศาลและเป็นธรรมดาของพรรคเขา ที่จะปรับกก.บห.เป็นเรื่องของพรรคพปชร.ผมก็เห็นหลายพรรคเขาก็ปรับมาตลอด ครั้งนี้ก็อย่าลืมว่า เขาจัดตั้งมาก่อนเลือกตั้ง มันก็นานพอสมควรแล้ว ก็เป็นเรื่องของเขาที่จะพิจารณาต่างๆ อย่าเอาผมไปเกี่ยวเลย ผมไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค เป็นเรื่องของพรรค’
‘สมศักดิ์’แย้มมีข่าวใหญ่แน่นอน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะกก.บห.พรรคพปชร.ให้สัมภาษณ์ถึงความขัดแย้งภายในพรรคพปชร.ว่า ตนเข้าไปในห้องที่มีการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 31พฤษภาคม เพื่อพิจารณาเรื่องลงมติการพิจารณาร่าง พรก.กู้เงิน ส่วนรายละเอียดอื่นๆไม่ทราบ เนื่องจากเป็นเวลาที่คาบเกี่ยว เมื่อถามว่ามีข้อสังเกตว่าการประชุมพรรคเกี่ยวกับการลงมติ พรก.กู้เงินที่ชั้น4และชั้น6 ที่รัฐสภา เป็นการประลองกำลังกันหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ ไม่ได้อยู่ในสถานะที่ต้องรับทราบข้อมูล เพราะตนไปตามหน้าที่สส.ของพรรคที่พรรคเรียกให้มาประชุม เนื่องจากการลงมติพรก.ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับสถานภาพของรัฐบาล จึงมุ่งความสนใจที่เรื่องนี้ กรณีหลายคนมองว่าศึกภายในพรรคยังไม่จบ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเข้าใจในเรื่องกก.บห.ที่มีกระแสข่าวว่าลาออกแล้วให้เลือกตั้ง กก.บห.ชุดใหม่ เชื่อว่าวันนี้จะมีข่าวใหญ่เกี่ยวกับกก.บห.พรรค ขอให้ติดตาม คงมีเรื่องปรับเปลี่ยนกก.บห.พรรค คงได้เห็นชัดเจนในช่วงบ่าย
รอหัวหน้าคนใหม่ถกคัดกก.บห.
เมื่อถามว่า ถ้าเปลี่ยนแปลงกก.บห.จะให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคไปยื่นกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อเปลี่ยนแปลงรายชื่อกก.บห.ในวันเดียวกันนี้เลยหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขอให้ติดตามดู เพราะตนไม่ทราบรายละเอียด แต่ได้ยินแว่ว ๆมา ส่วนจะเป็นในส่วนของเลขาพรรคหรือระดับใด ไมทราบภาพรวม ตนเป็นเพียงหนึ่งในกก.บห.เท่านั้น เมื่อถามว่าหากปรับเปลี่ยนถือเป็นการตัดหางปล่อยวัดหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่น่าจะใช่ เพราะการปรับเปลี่ยนต้องประชุมและพิจารณาในวาระรายละเอียดต่างๆ ซึ่งผู้บริหารพรรค โดยเฉพาะหัวหน้าพรรคจะเป็นผู้กำหนดวาระการประชุม
ยังไม่รู้จะปรับครม.ด้วยหรือไม่
เมื่อถามย้ำว่า ข่าวใหญ่ที่ว่า กก.บห.จะลาออกเกินครึ่งจนส่งผลให้หัวหน้าพรรคพ้นสภาพหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่ทราบรายละเอียดลึกซึ้งขนาดนั้น แต่ว่าจะมีเรื่องทำนองนั้น เมื่อถามย้ำว่า กก.บห.ลาออกเกินกึ่งหนึ่งแล้วใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ ตอบว่าเข้าใจ ว่าเป็นเช่นนั้น เมื่อถามอีกว่า แล้วจะให้หัวหน้าลาออกหรือให้พ้นสภาพไปตามข้อบังคับพรรค นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบรายละเอียด มีแต่ข้อเท็จจริงที่แจ้งให้ทราบ เมื่อถามว่าหากจะมีการปรับเปลี่ยนภายในพรรคแล้วจะปรับเปลี่ยนในส่วนของคณะรัฐมนตรี(ครม.) ตามมาเลยหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ
‘ไพบูลย์’ยื่น18ชื่อกก.บห.ไขก๊อก
ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้พรรค พปชร.ได้ทำหนังสือถึงหัวหน้พรรค พปชร.พร้อมแนบรายชื่อกก.บห.จำนวน18คน โดยมีผลวันที่ 1มิถุนายน2563 เป็นตันไป จึงเป็นเหตุให้จำนวน กก.บห.ว่างลงเกินกึ่งหนึ่งของกก.บห.ทั้งหมด ทำให้ กก.บห.พรรคทั้ง 34คน พ้นจากตำแหน่ง เป็นไปตามข้อบังคับพรรค ข้อที่15(3)และตามข้อบังคับพรรค ข้อที่15 วรรคสาม กำหนตว่า กรณีกก.บห.พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ยกเว้น(2) ให้เลือกตั้ง กก.บห.ชุตใหม่ภายใน 45วัน นับแต่วันที่กก.บห.พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ”และตามวรรคสี่ กรณีมีเหตุให้กก.บห.พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะให้กก.บห.ที่พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง กก.บห.ชุดใหม่
รอหัวหน้าถกตั้งกก.บห.ชุดใหม่
ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงมีหนังสือฉบับนี้มาเพื่อขอให้ท่านในฐานะรักษาการหัวหน้พรรคพปชร.ได้เรียกประชุมรักษาการ กก.บห.โดยเร็ว เพื่อเร่งกำหนดวันประชุมใหญ่สามัญและให้มีการเลือกตั้ง กก.บห.ชุดใหม่ ภายใน 45วัน นับจากวันที่ 1มิถุนายน2563 ซึ่งเป็นไปตามข้องคับพรรคพลังประชารัฐ ข้อที่15 วรรค4 จึงเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการ สำหรับรายชื่อ กก.บห.ลาออก 18ราย ประกอบด้วย 1.นายสันติ พร้อมพัฒน์ 2.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ 3.นายสุพล ฟองงาม 4.นายธรรมนัส พรหมเผ่า 5.นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ 6.นายไผ่ ลิกค์ 7.นายนิโรธ สุนทรเลขา 8.นายสัมพันธ์ มะยูโซ้ะ 9.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 10.นายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ 11.นายชาญวิทย์ วิภูศิริ 12.นายสกลธี ภัทรยิกุล 13.นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ 14.นายสุรชาติ ศรีบุศกร 15.นายนิพันธ์ ศิริธร 16.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ 17.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน 18.นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ
อ้างพรรคอื่นยังเปลี่ยนแปลงได้
เมื่อถามว่า จะมีผลต่อการปรับครม.หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนคิดว่า กก.บห.ท่านที่ลาออกประสงค์ให้เป็นไปตามข้อบังคับ ซึ่งเป็นเรื่องภายในพรรค พปชร.ซึ่งการดำเนินการของพรรคการเมืองก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างนี้เป็นประจำอยู่แล้ว มีพรรค พปชร.ต่างหากที่ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะนี้ เพราะเราเป็นพรรคการเมืองใหม่ สส.มาจากหลายๆกลุ่ม ก็มีความจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อให้พรรคได้ตอบสนองความต้องการของสส.ที่เข้ามา เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะมาเป็นหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนไม่อยากกล่าวถึงเรื่องนั้น วันนี้เป็นเพียงการแถลงข่าวการลาออกของทั้ง 18ท่าน ส่งผลให้กก.บห.ทั้งหมดพ้นไปด้วยเท่านั้น ตนขอกล่าวถึงแค่ข้อบังคับเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาเราต้องจัดประชุมใหญ่กันทุกเดือนเมษายน แต่ได้เลื่อนมาอยู่แล้ว ดังนั้นก็จะเป็นโอกาสที่จะได้ดำเนินการตามข้อบังคับข้อที่15
ไม่ใช่การบีบ-แต่ยึดข้อบังคับพรรค
เมื่อถามว่า การลาออกของกก.บห.18คน เหมือนเป็นการบีบกก.บห.อีกฝั่งหนึ่ง นายไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่ เพราะเป็นไปตามข้อบังคับที่เมื่อ กก.บห.ลาออกเกินกึ่งหนึ่ง ส่งผลให้ทั้งชุดพ้นไปหมด ทั้งนี้พรรคการเมืองต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรค คิดว่าไม่มีปัญหาอะไรที่จะทำให้เกิดความเสียหายตามที่คาดการณ์กันไว้อย่างนั้น แต่ตนมั่นใจว่า ถ้าได้เลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จะทำให้พรรคพปชร.เข้มแข็งขึ้นกว่าเดิม และช่วยเหลือประชาชนให้ดีขึ้น
เมื่อถามว่า ส่วนตัวถ้า พล.อ.ประวิตร มาเป็นหัวหน้าพรรคโอเคหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ความเห็นส่วนตัว ตนชื่นชมท่านอยู่แล้ว ทุกคนที่เป็นสส.ล้วนแล้วแต่ชื่นชมและศรัทธาในตัว พล.อ.ประวิตร อยู่แล้ว พรรคเรามีหนึ่งเดียว แต่ส่วนที่สื่อไปแยกย่อยอะไรก็สุดแล้วแต่ เพราะเราบางวันในคนเดียวกันยังคิดไม่เหมือนกันเลย เรื่องนี้ขอให้ตามกันเป็นขั้นๆ ซึ่งถ้าประชุมแล้วตนน่าจะตอบคำถามได้มากกว่านี้
‘วิรัช’คาด10-11มิ.ย.ตั้งกมธ.วิสามัญ
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญติดตามตรวจสอบการใช้เงินกู้ ว่า จะหารือในที่ประชุมวิปครั้งหน้า ซึ่งมีแนวโน้มที่จะตั้งกมธ.วิสามัญฯโดยขณะนี้มี2พรรคได้ยื่นญัตติไปแล้วคือ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ซึ่งพรรคพปชร.ก็ไม่ขัดข้อง ส่วนที่มีการให้สัมภาษณ์คัดค้านก่อนหน้านี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวเชื่อว่าจะสามารถตั้งกมธ.วิสามัญฯได้ในวันที่ 10 หรือ 11มิถุนายนนี้ ซึ่งไม่น่าจะทันการประชุมสภาสัปดาห์นี้ เนื่องจากมีวาระที่ต้องพิจารณาเรื่องด่วนของรัฐบาลคือ พรบ.โอนงบฯประจำปี2563 วงเงิน 8.8หมื่นล้านบาทก่อน
ยันไม่มีเรียกประชุมประลองกำลัง
นายวิรัช กล่าวด้วยว่า ยืนยันว่าไม่มีปัญหาภายในพรรคร่วมรัฐบาล ดังจะเห็นได้จากการลงมติที่ผ่านมาซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันและเสียงของรัฐบาลก็มีความเข้มแข็งขึ้น อีกทั้งไม่เชื่อว่าจะเกิดปัญหาภายในจนทำให้รัฐบาลระส่ำระสาย ส่วนความขัดแย้งภายในพรรค พปชร.นั้น เชื่อว่าถึงเวลาสามารถพูดคุยกันได้ และตนเองก็ไม่เคยคิดวัดพลังกับใคร เพียงแต่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น การประชุมสส.ที่สภาฯเมื่อวันที่31พ.ค.ที่ผ่านมา ไม่ได้วัดกำลังกับใคร แต่เป็นการเรียกประชุมปกติ ที่เลื่อนมา เพราะวันอังคารจะงดการประชุม ส่วนวันพุธก็ติดวันหยุดราชการ จึงเลื่อนมาประชุมเมื่อวันที่ 31พฤษภาคที่ผ่านมาไม่มีอะไรแปลกประหลาดเลย จึงไม่คิดว่าปัญหาภายในพรรคพปชร.จะทำให้รัฐบาลระส่ำระสาย
‘ธรรมนัส’อ้างคุยสส.เรื่องช่วยปชช.
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีปรากฎข่าวภายในพรรคพปชร.มีการจัดประชุม 2วงหารือที่รัฐสภาเมื่อวันที่ 31พฤษภาคมที่ผ่านมา จนถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นศึกภายในและเป็นการประลองกำลังระหว่าง 2ขั้วอำนาจภายในพรรค ว่า ไม่เป็นความจริง ตนเพียงชวนเพื่อน สส.ประมาณ 50-60คน มาหารือถึงแนวทางช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกร หลังสถานการณ์โควิด-19 ก็ขอให้ร้องขอมาในหน่วยงานที่ตนกำกับดูแลและในห้องไม่มี นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคและนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค มีแต่ตนนำประชุมคนเดียว
เรื่องประลองกำลังความคิดบ้าๆ
“ไม่ใช่จัด 2กลุ่มที่ นายวิรัชรัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล เรียกประชุม สส.ถามว่าเรียกประชุมเพื่ออะไร เพราะการเรียกประชุมพรรค ควรดำเนินการโดยใช้ระบบพรรค ไม่ใช่ นายวิรัช คิดอยากจะเจอ สส.ก็เรียก คนเขาแอนตี้กันเยอะ ผมมองว่า การเรียกประชุมพรรควานนี้(31พฤษภาคม) ของนายวิรัช ไม่เกิดประโยชน์ ไม่มีเรื่องของชาวบ้านเลย ดังนั้นที่ผมชวน สส.มาพูดคุย ทั้งหมดคือคนรักพรรค ต้องการเห็นพรรคไปในทิศทางที่ดี ยืนยันว่า ผมไม่ได้อยากประลองกำลังกับใคร มีแต่คนอื่นอยากมาประลองกำลังกับผมจริงๆสส.เขาไม่ตกเป็นเครื่องมือใคร มีแต่ สส.บ้าๆบอๆ ที่ไร้สาระ ที่ทำแบบนี้”
‘ชวน’รับญัตติตั้งกมธ.ไว้แล้ว
วันเดียวกัน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นญัติติด่วนขอให้ตั้ง กมธ.วิสามัญติดตามตรวจสอบการใช้จ่ายเงินตามพรก.กู้เงิน 1.9ล้านล้านบาท ว่า มีการยื่นมาแล้ว แต่ถ้าจะตั้งกมธ.วิสามัญฯต้องผ่านการโหวตของสภาและญัตติดังกล่าวยังไม่ได้บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระ ซึ่งสัปดาห์หน้าวันพฤหัสบดีที่ 5มิ.ย.จะพิจารณาร่างพรบ.โอนงบประมาณปี 63 แต่ถ้าไม่จบไปต่อในวันที่ศุกร์ที่ 6มิ.ย. เมื่อถามว่า การตรวจสอบของกมะ.วิสามัญปกติ หากตั้งกมธ.วิสามัญฯจะเป็นการซ้ำซ้อนกันหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง ยุ่งยากอะไร สามารถตรวจสอบได้ ทั้งกรรมาธิการสามัญและวิสามัญที่จะต้องขึ้นใหม่ ที่สามารถตรวจสอบได้ภายในขอบเขตของแต่ละกรรมาธิการ ส่วนความซ้ำซ้อนจะอยู่ที่กรรมาธิการจะกำหนดไว้ตามภารกิจของกรรมาธิการนั้น ๆ
เพิ่งได้ยินแจก80ล้านโหวตพรก.
เมื่อถามถึงกรณี นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุมีการจ่ายเงิน 80ล้านบาทให้สส.แลกกับการลงมติผ่าน พรก.เงินกู้ทั้ง 3ฉบับ นายชวน กล่าวว่า ตนได้ยินเรื่องนี้เมื่อวาน(31พฤษภาคม) หากเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงคงปิดไม่มิด เป็นหน้าที่ของแต่ละฝ่ายต้องคอยดูกัน ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญต้องตั้งกมธ.มาตรวจสอบ เมื่อถามย้ำว่า จะทำให้เกิดความเสียหายต่อสภาหรือไม่ ประธานสภาฯกล่าวว่า ตนเห็นข่าวพาดหัวบางฉบับ ทุกฝ่ายต้องติดตามกันต่อไป แต่ส่วนตัวไม่เคยได้ยินมาก่อน ส่วนการตรวจสอบนั้น ผู้พูดก็ต้องติดตามต่อไปและฝ่ายที่ข้องใจก็สามารถตั้งกระทู้ถามได้
‘พิจารณ์’ชี้พูดในสภาแค่ป้องปราม
นายพิจารณ์ เชาวพัฒนาวงศ์ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่มีการกล่าวหาว่าที่พรรคก้าวไกลออกมาแฉถึงการให้เงินส.ส.หัวละ 80ล้านบาท โดยไม่มีหลักฐานว่า งบประมาณที่ตนได้ยินมาเมื่อช่วงเช้าวันที่ 31พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นการพูดคุยระหว่างสส.ด้วยกัน ทั้งในพรรค ฝ่ายค้านและรัฐบาลว่าจะมีการจัดสรรงบประมาณให้ 80ล้านบาทสำหรับสส.แต่ละคน ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่ไม่มี แต่มีมานานแล้วที่เรียกว่า งบส.ส.การพูดประเด็นนี้กลางสภา อย่างน้อยให้ประชาชนได้รับรู้ว่า มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น แม้สิ่งที่พูดจะไม่มีหลักฐาน แต่เชื่อว่าการออกมาพูดลักษณะนี้อย่างน้อยจะเป็นการป้องปรามหยุดยั้งสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น สำคัญที่สุดคือเราต้องตั้ง กมธ.วิสามัญฯเพื่อตรวจสอบเงินกู้เหล่านี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากสาวไปถึงตัวบุคคลได้พรรคจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ถอดถอนหรือไม่ นายพิจารณ์ กล่าวว่า เราจะดำเนินการให้ถึงที่สุด แต่ตอนนี้ขอใช้กลไกลจากคณะกรรมาธิการวิสามัญฯก่อน จึงขอให้ประชาชนที่พบเห็นพฤติกรรมเหล่านี้ส่งข้อมูลมายังพรรค เรายินดีนำไปดำเนินการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี