"คราฟท์เบียร์"บุกสภา! โวยโดนหมายเรียกโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ "เท่าพิภพ"ชง"พรบ.สุราก้าวหน้า"หวังปลดล็อกไม่เอื้อนายทุน
เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2563 ที่รัฐสภา นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล และ นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เขต 1 จ.เชียงราย ในนามโฆษกกรรมาธิการการสาธารณสุข ร่วมรับหนังสือ จากกลุ่มชาวคราฟท์เบียร์ รวมถึงผู้ประกอบการสุราทางเลือกรายย่อย นักวิจารณ์เครื่องดื่ม จากกรณีที่ได้รับหมายเรียกดำเนินคดีแล้วกว่า 400 ราย ภายหลังผู้ประกอบการร้านอาหารกลับมาเปิดกิจการตามปกติ และได้บอกกล่าวถึงการกลับมาดำเนินธุรกิจผ่านทางสื่อออนไลน์ เพื่อแจ้งกับผู้บริโภคว่าสามารถจำหน่ายสินค้าได้ และปัจจุบันมีสินค้าใดบ้างที่มีการจำหน่าย เพื่อให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอีกครั้ง แต่เจ้าหน้าที่รัฐและบุคคลบางกลุ่มได้ทำการแจ้งความ และมีการออกหมายเรียกในข้อหามีการกระทำอันเข้าข่ายเป็นความผิดฐานโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตามมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551
โดย นายศุภพงษ์ พรึงลำภู ตัวแทนผู้ยื่นหนังสือ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้คือ การบังคับใช้กฎหมายโฆษณามีขอบเขตมากเกินไป มีผลกระทบต่อประชาชน เราเข้าใจความห่วงใยของภาครัฐที่ห่วงใยต่อผลกระทบของสังคม เเต่การโฆษณาสินค้าประเภทสุราและเครื่องดื่ม มันมีข้อจำกัดที่ซับซ้อน ส่งผลให้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 32 นั้น ไม่สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ที่มีข้อจำกัด ไม่สามารถให้เราได้จำหน่ายอย่างเสรี และถูกใช้คำว่าห้ามโฆษณาเกินจริง อย่างกรณีที่ตนโดนดำเนินคดี จากการใช้คำว่า "ชื่อดัง" ซึ่งทางกฎหมายระบุว่า เป็นการโฆษณาเกินจริง เราเห็นว่าข้อกฎหมายดังกล่าวมีข้อความไม่ชัดเจน ทำให้มีการใช้ดุลพินิจของเจ้าพนักงานเกินความจำเป็น ประกอบกับมีอัตราค่าปรับสูงเกินควร จึงเป็นการกีดกันทางการค้ามิให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถแข่งขันกับรายใหญ่ที่มีศักยภาพในการจ่ายค่าปรับได้ จึงเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการเร่งพิจารณาหาแนวทางแก้ไขและเยียวยาสถานการณ์โดยเร่งด่วน
ด้าน นายเท่าพิภพ กล่าวว่า จากการที่ตนได้ยื่นร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า เพื่อปลดล็อกสุราพื้นบ้าน เพื่อเป็นการสร้างอาชีพให้ประชาชน ไม่เอื้อต่อผู้ประกอบการรายใหญ่ เพียงฝ่ายเดียวนั้น และจากกรณีข้างตน ตนเห็นว่าเป็นการควบคุมและกำกับประโยชน์ประชาชน และการควบคุมอำนาจเหล่านี้ คือการรวบอำนาจรัฐรวมศูนย์ ซึ่งพรรคก้าวไกล ได้ชูนโยบายนี้ไว้ ทั้งนี้ นี่เป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ เป็นการเอื้อให้กลุ่มทุนรายใหญ่ จำกัดสิทธิผู้ประกอบการรายย่อย ตนในฐานะผู้แทนราษฎร จะร่วมแก้ไขโครงสร้างรัฐราชการรวมศูนย์ เสนอแก้ไขกฎหมายเพื่อรัฐให้เคารพสิทธิมนุษยชน ตามรัฐธรรมนูญ
ขณะที่ นพ.เอกภพ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ตนติดตามมาตลอด เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ที่ใช้กฎหมายจากภาครัฐกระทำต่อประชาชน ที่เป็นผู้เดือดร้อน เหมือนเป็นการกลั่นแกล้ง เพื่อเอื้อผลประโยชน์ โดยทางกรรมาธิการการสาธารณสุข จะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาร่วมชี้เเจงเพื่อหาแนวทางในการแก้ไข ตนขอเรียกร้องให้ทางภาครัฐแก้ไข กฎหมาย และเล็งเห็นสิทธิมนุษยชน ตามรัฐธรรมนูญร่วมกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี