เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2563 นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว กล่าวถึงการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา เน้นการสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ที่เอื้อต่อประโยชน์ของกลุ่มทุนขนาดใหญ่มากกว่าจะช่วยให้ประชาชนคนระดับฐานรากยืนได้ด้วยตนเอง และเตือนว่าแม้จะควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้แล้ว แต่ต้องระวังปัญหาเศรษฐกิจที่ผู้คนจำนวนมากกำลังเดือดร้อน ดังนี้
“ ‘ประยุทธ์’ ทำเศรษฐกิจเจ๊งมากสุดในประวัติศาสตร์ “
บทความเฟสบุคกะลาธิปไตย
หอการค้าไทย ฟันธงเศรษฐกิจไทยปีนี้ติดลบ 8.8% พังมากสุดตั้งแต่ก่อตั้งประเทศ พังมากกว่าวิกฤติต้มยำกุ้ง ซึ่งเศรษฐกิจติดลบ 7.6%
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะเจ๊งไปอีก 3 ปี จึงจะกลับมาสู่ภาวะปกติเหมือนปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ระบาด
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประเมินความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยจากไวรัสโควิด-19 จะมีมูลค่าสูงถึงหลักล้านล้านบาท และจนถึงเดือน มิ.ย.นี้ คาดจะมีคนตกงานรวม 7 ล้านคน
ศูนย์วิจัยธนาคารกสิกรไทย คาดการณ์หนี้ครัวเรือนไทยในปี 2563 พุ่งสูงสุดแตะระดับ 80% ของ GDP ขณะที่หนี้สาธารณะของประเทศพุ่งสูงสุด จ่อทะลุกรอบความเสี่ยงที่ 60% ของ GDP
BloomBerg ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2563 เจ๊งมากสุดในอาเซียน
>>> ประยุทธ์ กล่าวว่า
“ได้ยินหลายท่านกล่าวว่า ผมทำเศรษฐกิจพัง จนต้องมากู้ ขอให้มองด้วยความเป็นธรรมว่า เศรษฐกิจในประเทศที่ผ่านมาก็อยู่ในระดับนี้ และตลอดระยะเวลา 6 ปีนี้ผมเข้ามาฟื้นฟูให้เศรษฐกิจดีขึ้นกว่ารัฐบาลชุดก่อนพอสมควร
ขณะนี้เศรษฐกิจของโลกตกต่ำ รวมกับปัญหาสงครามทางการค้า ไม่ใช่ความผิดรัฐบาล ผมอาจไม่เก่ง แต่ผมจริงใจในการแก้ปัญหา ผมถามว่าประเทศไทยจะอยู่ตรงไหน ไม่มีใครเก่งกว่าใครหรอก”
ผมเห็นว่า ในข้อเท็จจริง ตลอดระยะเวลา 6 ปีนี้ พลเอกประยุทธ์ไม่ได้มุ่งทำให้ประชาชนยืนบนขาตัวเองดีขึ้น ทำให้มีโอกาสเริ่มต้นชีวิตเท่าเทียมกันมากขึ้น หรือทำให้มีความสามารถจะปรับตัวไปตามพลวัตโลกได้ดีขึ้น
ตัวเลข GDP ที่มาจากสารพัดนโยบายกระตุ้นอุปโภคบริโภค ช้อปช่วยชาติ ชิมช้อปใช้ ...
ที่มาจากตลาดหุ้นบูมเพราะนโยบายผูกขาดพลังงานที่ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่กำไรดีแต่ประชาชนจนลง ...
ที่มาจากปล่อยให้เงินทุนไหลเข้ามาทำให้บาทแข็งและกระตุ้นการออกตราสารหนี้ไปพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และ ...
ที่มาจากสารพัดอภิมหาโครงการที่กระตุ้นการกว้านซื้อที่ดินเก็งกำไร วิ่งเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีม่วงเพื่อทำนิคมอุตสาหกรรม แต่ทำลายสิ่งแวดล้อมในพื้นที่แหล่งผลิตลูกพันธุ์สัตว์น้ำที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของชาติ ...
ตัวเลข GDP ที่คำพูดอ้างปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แต่การกระทำแท้จริงยึดปรัชญา Trickle Down Economy เหล่านี้ทำให้ฐานะของประชาชนเปราะบางอยู่แล้วก่อนหน้าโควิด
แต่การบริหารโควิด อันเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของพลเอกประยุทธ์นั้น ก็เริ่มต้นมาจากความหละหลวม ที่ปล่อยให้มีการจัดกีฬามวย ตัวเลขพุ่งขึ้น จนมีพยากรณ์แบบเว่อร์สุด เทียบกับกราฟอิตาลี ณ 15 เม.ษ. จะมีคนติดเชื้อถึงสามแสนคน
สามแสนที่สร้างความหวาดกลัวรุนแรงเกินไป!
แทนที่จะสะสมสร้างจิตสำนึกเฝ้าระวังในคนไทย นิสัยการใส่หน้ากาก ฯลฯ แบบค่อยเป็นค่อยไป กลับไปล็อคดาวน์เข้ม สับสวิชต์ปิดเศรษฐกิจบางส่วน
แทนที่จะสะสมสร้างความมั่นใจ ให้คนที่มีกำลังกลับไปใช้เงิน กลับคงไว้ซึ่งบรรยากาศสภาพความเกร็งความกลัว
บัดนี้ ชัยชนะในศึกโควิด กำลังนำไปสู่ปราชัยในศึกเศรษฐกิจ
คนผ่อนรถผ่อนบ้านบางส่วนจะสะดุด คนจ่ายค่าเช่าบางส่วนจะค้าง นักธุรกิจบางส่วนถึงกำหนดจ่ายหนี้จะชะลอ ร้านค้าเล็กๆ บางส่วนจะทะยอยปิด
ข่าวระบุ 'สมคิด'สั่งอุ้มหุ้นกู้เกรดต่ำย้ำธปท.-คลังใช้วิธีเหมือนภาวะปกติไม่ได้ “ต้องช่วยธุรกิจไทยที่มีศักยภาพและรักษาเขาเอาไว้” นายสมคิด กล่าว
แต่ถ้าระบบแบงค์ไม่ปล่อยสินเชื่อเพิ่ม เพราะเขาฟันธงว่า ธุรกิจนั้นไปไม่รอด ไม่สามารถปรับตัว ไม่อาจสู้กับมาตรการเข้ม และเอาชนะความหวาดกลัวของลูกค้า อันเป็นรากฐานแห่งชัยชนะด้านโควิดของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ...
รัฐบาลจะเอาภาษีประชาชนไปอุ้ม เหมือน 4 หมื่นล้านที่จัดสรรให้ ธปท. อุ้มตราสารหนี้ของบริษัทยักษ์ใหญ่ของอภิมหาเศรษฐี ก็คงไม่ได้
ระวังนะครับ สำหรับรัฐบาลที่มีรากฐานจากการปฏิวัติระบอบประชาธิปไตย ประชาชนอาจจะปฏิวัติรัฐบาลเสียเอง!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี