มท.ขันน็อตพ่อเมืองทั่วไทยรับคลายล็อกโควิดเฟส4 สั่งฟื้นศก.-ให้ปชช.มีรายได้ กำชับเข้มคัดกรองแหล่งท่องเที่ยว ย้ำงบฯรัฐบาลหว่านโครงการช่วยปชช.ต้องมาจากความต้องการจริง
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2563 ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (VCS) เพื่อซักซ้อมแนวทางปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยมี นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกรุงเทพมหานคร ผู้แทนศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ผู้แทนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DEs) ผู้แทนกรมควบคุมโรค ร่วมประชุม และเป็นการประชุมผ่านระบบ Video Conference ไปยังศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทยในจังหวัด นายอำเภอ และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ร่วมประชุม
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการหารือซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติตามข้อกำหนดผ่อนคลายการบังคับใช้บางมาตรการในการป้องกันโรคโควิด-19 ระยะที่ 4 ซึ่งในขณะนี้ สถานการณ์การควบคุมแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ของประเทศไทย ไม่มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเวลา 22 วันแล้ว ด้วยความร่วมมือกันของทุกฝ่ายทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค รวมทั้งประชาชนคนไทยทุกคน ทำให้เราสามารถควบคุมได้สำเร็จในช่วงที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้ ได้เกิดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนในด้านเศรษฐกิจสูงมาก หลายคนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ยังไม่มีรายได้ ซึ่งระยะต่อจากนี้ถือเป็นช่วงที่สำคัญที่ต้องเตรียมการเพื่อช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจของพี่น้องประชาชน คือ การท่องเที่ยว และเพื่อให้การเตรียมการรองรับนักท่องเที่ยวในอนาคตต่อไปเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน จึงให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดเตรียมการและเร่งสร้างการรับรู้ความเข้าใจและรณรงค์ให้ประชาชนดำเนินชีวิตด้านเศรษฐกิจและรักษาสุขอนามัยเป็นพื้นฐานสำคัญใน 3 เรื่อง คือ 1.ต้องรักษาสุขอนามัยสูงสุด “อย่าการ์ดตก” สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ รักษาระยะห่างทางสังคม ให้เป็นมาตรการพื้นฐานอย่างเข้มแข็ง 2.การกักกันโรค (Quarantine) ต้องเข้มแข็ง และ 3.รณรงค์ให้ประชาชนและผู้ประกอบการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ทุกครั้งที่ใช้บริการ ให้เป็นชีวิตปกติแนวใหม่ เพื่อประโยชน์ในการตามสืบสวนโรคได้อย่างรวดเร็วทุกคนต้องช่วยกันทำเพื่อชาติ “เศรษฐกิจต้องเดิน คนต้องมีรายได้”
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขณะที่ในเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เป็นโอกาสอย่างยิ่งที่ต้องใช้ในการแก้สถานการณ์เศรษฐกิจซึ่งมีผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และผลกระทบด้านอื่นๆ จึงขอฝากให้คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.จ.) พิจารณาให้ดีว่าโครงการที่ขอรับการสนับสนุนเกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ในเรื่องการบริหารโครงการต้องเกิดความโปร่งใส และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะใช้เงินงบประมาณนี้ทำให้ประชาชนมีหนทางใช้ชีวิตที่ดีขึ้นในการทำมาหากิน ประกอบอาชีพ สร้างสรรค์สิ่งที่ดี สร้างโอกาสที่ดีต่อไป
ด้าน นายนิพนธ์ กล่าวว่า ขณะนี้เริ่มมีการเปิดสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและชายหาดซึ่งพบว่าบางพื้นที่ยังมีการคัดกรองไม่เข้มงวด จึงขอให้ในแต่ละพื้นที่ได้พิจารณาการจัดตั้งจุดคัดกรองเพิ่มเติม โดยเฉพาะชายหาดที่มีประชาชนนิยมไปพักผ่อนจำนวนมาก และขอให้ทุกจังหวัดส่งเสริมให้ประชาชนได้ทำเศรษฐกิจชุมชนและเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมให้ประชาชนทำการเกษตรที่สามารถจะเพิ่มผลผลิต สร้างรายได้ในครัวเรือนอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างรายได้ให้ครอบครัวได้
ขณะที่ นายฉัตรชัย กล่าวว่า งบประมาณที่ได้รับตามโครงการฯ เป็นงบประมาณที่รัฐบาลได้จัดสรรผ่านช่องทางคณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.จ.) โดยส่วนราชการในสังกัดทุกกระทรวงมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนทุกระดับ และองค์กรภาคประชาชนและประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน โดยทุกโครงการที่เสนอขอรับงบประมาณต้องเป็นโครงการที่เป็นความต้องการของประชาชนในพื้นที่
จากนั้น ผู้แทน ศบค. ผู้แทนกระทรวงดีอีเอส ผู้แทนกรมควบคุมโรค และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ได้นำเสนอแนวทางปฏิบัติและมาตรการการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรอบแนวคิดการผ่อนคลายการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร แนวทางปฏิบัติการผ่อนคลายกิจการ/กิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลายที่กำหนด มาตรการควบคุมการเดินทางเข้าราชอาณาจักรทั้งทางบก/น้ำ/อากาศ การเตรียมความพร้อมเปิดสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น และผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ภูเก็ต และเพชรบุรี ได้รายงานการดำเนินการจัดระเบียบสถานที่ท่องเที่ยวชายหาดและการสร้างการรับรู้กับประชาชน และผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วและจังหวัดตาก รายงานการดำเนินงานพื้นที่ชายแดนและการจัดการศึกษา
นอกจากนี้ ผู้แทนสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และผู้แทนสำนักงบประมาณ ได้ชี้แจงแนวทางการจัดทำโครงการภายใต้กรอบนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และกรอบระยะเวลาดำเนินการโดยทุกจังหวัดต้องส่งรายละเอียดโครงการตามแบบฟอร์มที่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมายังสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติภายในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ เพื่อคณะอนุกรรมการพิจารณารายละเอียดโครงการ และคณะกรรมการพิจารณาผลการกลั่นกรองโครงการของคณะอนุกรรมการ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
ทั้งนี้ รมว.มหาดไทย ยังกล่าวถึงเรื่องสาธารณภัยว่า ขณะนี้เรามีทั้งพายุฝนและภัยแล้ง สำหรับภัยแล้ง สถานการณ์คลี่คลายไป 15 จังหวัด ยังคงมีจังหวัดประสบภัยแล้ง 14 จังหวัด กระจายในหลายพื้นที่ จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยกันดูแลพี่น้องประชาชน นอกจากนี้ สำหรับสถานการณ์พายุฝนในพื้นที่ 8 จังหวัด โดยเฉพาะในเขตเมือง ขอให้เตรียมการระบายน้ำ การพร่องน้ำ การขุดลอกคู คลอง ให้มีความพร้อม และในพื้นที่ภูเขา หากเกิดฝนตกหนักติดต่อกัน ต้องเตรียมการแจ้งเตือน ติดตาม และประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมให้อพยพคนออกโดยทันทีก่อนจะเกิดภัย เรือเล็กห้ามออกจากฝั่ง เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทุกคน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี