‘กรณ์-กล้า’ลุยยุทธศาสตร์ Soft Power ลับคมอาวุธให้เศรษฐกิจไทย
17 มิถุนายน 2563 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ได้คุยกับกลุ่มคนสร้างสรรค์งานภาพยนตร์ กลุ่ม Creative Entertainment ที่เป็นอีกหนึ่งใน 7 ขาหลักของยุทธศาสตร์ “Soft Power” ที่ทีมกล้าของเราให้ความสำคัญอย่างมากในการลุยเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจไทยในโลกอนาคต และว่าประเทศไทยเราเอง ทุกวันนี้มีศักยภาพเป็นอันดับต้นๆ ของโลกในเรื่อง Production ภาพยนตร์ เพราะเราต้นทุนดี มีทีมงานมืออาชีพ มีโลเคชั่นที่สวยงาม และหลากหลาย และที่สำคัญที่สุดเรามี DNA แห่งความสร้างสรรค์อย่างโดดเด่นอยู่ในตัว
“ทีมน้องๆ กลุ่มนี้ได้มานั่งคุยถกในประเด็นว่า เรารู้ว่าเรามีดี เรามีของ แต่เรายังขาดอะไรอีกหลายอย่าง และมีอะไรที่ภาครัฐควรสนับสนุนเพื่อผลักดันวงการภาพยนตร์ให้ไม่เพียงแต่สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างเป็นระบบ แต่ทุกคน (เราหมายรวมถึงทุกคน ทุกตำแหน่ง ทุกหน้าที่) ในวงการหนัง/ ละคร/ โฆษณา) ต้องได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมและเป็นธรรม เกือบสองชั่วโมงที่เราแลกเปลี่ยนความคิดกันแบบสนุกมาก มีอะไรให้คิดต่อ ทำต่อเยอะมาก” หัวหน้าพรรคกล้า กล่าว
นายกรณ์ ระบุด้วยว่า ดีใจที่วันนี้มีตัวจริงของวงการมายืนยันความคิดว่า ศักยภาพคนไทยและเมืองไทยเป็นได้มากกว่างาน Production แต่สามารถพัฒนาเป็น content creator ที่สร้างมูลค่าได้ไกลกว่านี้อีกมาก และในระหว่างรอ กกต.อนุมัติ “กล้า” ให้เป็น “พรรค” ที่สมบูรณ์ทางกฎหมาย ตนสนุกกับการพบปะกลุ่มคนสร้างสรรค์ที่มีประสบการณ์การลงมือทำจริงจากทุกรุ่น ทุกกลุ่ม ทุกรูปแบบ ใครต้องการนำเสนออะไรเพื่อให้ประเทศของเราไปข้างหน้า เข้ามาร่วมด้วยช่วยกันเต็มที่เลย
ในขณะที่เพจ “กล้า” ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวเนื่องกันว่า มีคนกล่าวไว้ว่า ถ้าวันนี้เราจะไปเอาเงิน 1,000 ล้านเข้าประเทศ เราไม่จำเป็นต้องผลิตและขายรถยนต์ 1,000 คัน เพียงแต่เราถือ ฟิลม์ไปม้วนเดียว เราก็ทำได้ ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนคงตั้งคำถามว่า ทำไมเราจะต้องทำเช่นนั้น
ทั้งนี้ หากแต่ลองคิดดูแบบง่ายๆ ในหลายๆประเทศอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริมอย่างเอาจริงจัง เช่น เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส อเมริกา ซึ่งต้องบอกว่าเนื่องจากประเทศต่างๆ เหล่านี้ต่างเล็งเห็นว่า อุตสาหกรรมในกลุ่ม creative entertainment อย่างอุตสาหกรรมภาพยนตร์นั้นมีส่วนสำคัญต่อการเผยแพร่วัฒนธรรมและส่งออกความคิดสร้างสรรค์ของประเทศให้ดำรงอยู่ ที่เริ่มจากการทำให้ตลาดในประเทศ (domestic market ) จนนำไปสู่ความพร้อมให้ถึงเป้าหมายแบบซอฟท์ซอฟท์ในการนำออกไปขายยังตลาดต่างประเทศ (international market ) ซึ่งไม่ต้องพูดถึงมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาลที่จะกลับเข้ามาในประเทศอย่างจำนวนมาก
จากการพบกับพี่ๆ ในแวดวงภาพยนตร์ ของทีมกล้า ทั้งพี่ผู้กำกับที่มีคุณภาพ พี่ๆที่เขียน content และพี่ทีมเบื้องหลัง production และได้รู้ว่าจริงๆแล้ว สำหรับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศของไทยนั้นมีศักยภาพอย่างมาก ทั้งการสร้างสรรค์ content ศักยภาพของบุคลากรในทุกๆด้าน ตั้งแต่ ทีมเขียนบท ทีมนีกแสดง ทีมตัดต่อ และอื่นๆ ที่พร้อมจะเติบโตพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนทำให้ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยนั้นเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจในระดับประเทศและต่างประเทศ จึงเกิดคำถามว่า “ทำไมเราไปไม่ถึงฝันสักที เพราะแน่นอนในอีกแง่มุมนึง ถ้าไม่รับฟังปัญหา แล้วการพัฒนาจะเกิดได้อย่างไร เพราะอย่างไรก็ตามปัญหาและอุปสรรคของอุตสาหกรรมก็ยังมีอยู่”
เพจกล้า ระบุถึง 2 ปัญหาและอุปสรรคที่สรุปได้หลังการพูดคุย คือ
1.บทบาทของรัฐในการสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยยังไม่ชัดเจนนัก ซึ่งแน่นอนคือ การรวบรวมและจัดระเบียบทรัพยากรในอุตสาหกรรม แผนที่ชัดเจนทั้งระยะสั้นและระยะยาว หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงไม่ทับซ้อน รวมไปถึง คนที่มี knowledge เฉพาะ ที่พร้อมจะผลักดันที่เข้าใจและอุตสาหกรรมเหล่านี้อย่างมีประสิทธิผล
2 .“เอาไปคนละบาท” หลักคิดของระบบราชการแบบล้าหลัง ลามไปถึงการขาดแคลนแหล่งเงินทุนในการสนับสนุนที่แท้จริง จริงๆคนเข้าใจว่า อุตสาหกรรมนี้ได้การรับการสนับสนุนจำนวนมากจากภาครัฐ แต่แท้จริงแล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเป็นการทำแบบไม่มีแผนให้เขา ไม่มีการวางยุทธศาสตร์ใดๆ เพียงแต่หว่านลงไป จนเหมือนกับเอาทุนไปละลาย เพราะหากอุตสาหกรรมนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างแท้จริง อย่างมีแผน มีการวัดผล จะเป็นการเปิดโอกาสทางการตลาดให้กับผู้สร้างภาพยนตร์ในประเทศด้วยอีกทางหนึ่ง ในการพัฒนา content ออกมาได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ
“เพราะหากพอทุกภาคส่วนให้ความสำคัญ ก็จะเป็นใบเบิกทางให้อุตสาหกรรม creative entertainment กลายเป็นอีกอุตสาหกรรมที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย ซึ่งรวมไปถึงไม่ว่าจะเป็น แฟชั่น เพลง สื่อโฆษณา ซี่รี่ย์ และอื่นอีกมากมาย แน่นอนว่า หากจะผลักดัน ก็ต้องมาพร้อมเป้าหมาย และ การวัดผลที่ต้องสูงและไปให้ถึง เพราะหากลองคิดดูว่า ถ้าวันนี้เป้าหมายของเราคือ “การทำให้หนังไทยได้ไปสู่การชิงรางวัล ออสการ์ “ หรือเป็นศูนย์กลาง hub ในการถ่ายทำหนังที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย” คงมีคนตั้งคำถามมากมาย และสงสัย ว่าจะทำได้จริงไหม จะไปได้ไกลขนาดไหน เพียงแต่อยากให้เปิดใจ ลองเชื่อในศักยภาพของคนไทยในอุตสาหกรรม creative entertainment ที่มีความมุ่งมั่นและหลงใหลในสิ่งที่ทำ เพราะการเริ่มต้นตอนนี้ จึงดีกว่าไม่ทำอะไรเลย” เพจ กล้าระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี