นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาติดตาม ตรวจสอบการใช้เงินตามพระราชกำหนด 3 ฉบับเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคมที่ได้รับผลกระทบจากระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท กล่าวถึงเหตุวุ่นวายในประชุมนัดแรกในการเลือกประธานกรรมาธิการฯ ว่า ส่วนตัวเชื่อว่ากรรมาธิการทุกคนทำงานในฐานะกรรมาธิการ ไม่ควรแยกฝ่ายค้าน หรือ ฝ่ายรัฐบาล ซึ่งตนเห็นว่า นายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ถือเป็นผู้ที่เหมาะสม เพราะจากการฟังการอภิปรายในสภาฯ ถือว่า เป็นผู้ที่ปรารถนาดีในการรักษางบประมาณจากภาษีของประชาชน ถ้ารัฐบาลอยากให้มีการตรวจสอบอย่างเป็นธรรมจำเป็นต้องใจกว้าง เพราะจะทำให้ตำแหน่งประธานสง่างามมากขึ้น ตนจึงเสนอชื่อนายกนกเป็นประธาน
ส่วนนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ที่ได้รับการโหวตเลือกให้เป็นประธาน ตนก็เห็นว่ามีความเหมาะสมเช่นกัน เพราะมีความรู้ความสามารถ แต่ส่วนตัวมองว่าการเป็นประธานจะไม่สง่างาม เพราะอยู่ในพรรคแกนนำรัฐบาล อาจถูกมองว่าเข้ามาเพื่อรักษาผลประโยชน์ให้กับรัฐบาลหรือไม่ และทำให้ภาพลักษณ์ของกรรมาธิการฯที่ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบจะถูกตั้งข้อกังขาจากสังคม
"เราเคารพเสียงข้างมาก เมื่อผลออกมาเช่นนี้ เชื่อว่าพอถึงเวลาทำหน้าที่ทุกคนก็พร้อมทำหน้าที่ในฐานะกรรมาธิการฯ ตอนนี้ไม่ควรตั้งป้อม เพราะเพิ่งเริ่มเท่านั้น การเป็นหนี้ครั้งนี้ ไม่ใช่ 2-3 ปี แต่เป็นหนี้เป็นสิบๆปี เพราะฉะนั้นจะต้องพิจารณาให้รอบคอบ รอบด้านที่สุด เราต้องทำให้เห็นว่าเรามีจุดยืนในการรักษาผลประโยชน์ให้กับประชาชน"
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะกลายเป็นความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายณัฐวุฒิ เชื่อว่าไม่เกิดความขัดแย้ง เพราะเป็นเพียงมุมมองของกรรมาธิการฯ ซึ่งตนเองเห็นว่าควรได้คนที่มีความเป็นกลางและเป็นที่ยอมรับจากสังคม เพราะไม่อยากให้สังคมมองว่าเป็นตัวแทนมาจากรัฐบาล และจะมาตรวจสอบการใช้เงินของรัฐบาลได้อย่างไร แต่ในที่ประชุมกรรมาธิการฯ ก็มีการเกรงๆ กันอยู่ เพราะมีสัญญาณมาจากรัฐบาลตั้งแต่แรกว่าจะมีคนเข้ามาก่อนแล้ว อย่างไรก็ตามส่วนตัวเชื่อว่าการทำงานของกรรมาธิการฯก็จะเดินไปได้ไม่ถึงกับไม่เป็นเอกภาพ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แค่เริ่มต้นก็เหมือนจะวุ่นวายแล้ว และก่อนลงมติโหวตเลือกประธานก็มีข่าวออกมาว่ามีการล็อบบี้ด้วย นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การล็อบบี้ก็เป็นเรื่องปกติ เพราะการที่ส่งคนมาก็หวังที่จะได้ตำแหน่งทั้งนั้น แต่ส่วนตัวไม่มีใครมาล็อบบี้ หรือมีใครอยู่เบื้องหลัง เพราะตนมีแนวทางการทำงานที่ชัดเจน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี