โพลล์สำรวจแก้ไขวิกฤติโควิด
‘ประยุทธ์’สอบผ่าน
ประชาชนพึงพอใจการทำงาน
ข่าวดี33วันไม่พบติดเชื้อในปท.
ศบค.แถลงสถานการณ์โควิด-19 ผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ ส่งผลให้ไทยไม่มีการติดเชื้อในประเทศต่อเนื่อง 33 วันแล้ว “เลขาฯ สมช.” ย้ำจำเป็นต้องคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากคลายล็อกเฟส 5 กิจการเสี่ยงสูงต้องมีกฎหมายดูแล ยืนยันตั้งแต่เลิกเคอร์ฟิวไม่มีการลิดรอนสิทธิ์ประชาชน “กรุงเทพโพลล์” เปิดเผยผลสำรวจ พบประชาชนพึงพอใจการบริหารจัดการไวรัสโควิด-19 เชื่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินมีส่วนในการควบคุมโรคร้ายอย่างมาก
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 27 มิถุนายน ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19(ศบค.) แถลงสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศไทยวันนี้ ว่าผู้ป่วยรายใหม่เป็นศูนย์ราย ในประเทศ ติดต่อกันเป็นวันที่ 33 และผู้ที่มาจาก State quarantine ไม่มีผู้ติดเชื้อเช่นเดียวกัน ทำให้ผู้ป่วยยืนยันสะสมคงที่ 3,162 ราย มีผู้หายป่วยแล้วเพิ่มขึ้น13ราย รวมยังคงอยู่ในโรงพยาบาล 51 ราย รักษาหายสะสม 3,053 ราย และผู้เสียชีวิตสะสม 58 ราย ส่วนสถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลกสะสมมีจำนวน 9,904,963 ราย ประเทศสหรัฐอเมริกาคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับ 1 ของโลก และประเทศไทยมีจำนวนผู้ติดเชื้อผสมเป็นอันดับที่ 95 ของโลก
เลขาสมช.ย้ำจำเป็นต้องคงพรก.ฉุกเฉิน
ทางด้าน พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ในรายการคนในข่าว ทาง Mcot FM 100.5 News Network ถึงการต่ออายุ พรก.ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน ในขณะที่กลุ่มและพรรคการเมืองเรียกร้องให้ยกเลิกเนื่องจากไม่พบเชื้อโควิดจากคนในประเทศว่า การไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศตลอดช่วงเวลา 30 กว่าวัน แสดงให้เห็นว่า พรก.ฉุกเฉิน เป็นกฎหมายที่ใช้ควบคุมและป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น กฎหมายนี้จึงยังคงมีความจำเป็นต้องบังคับใช้อยู่ เพราะในการประกาศกิจการผ่อนคลายเฟส 5 ประกอบด้วยสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด และโรงเรียน ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ถือเป็นกิจการที่มีความเสี่ยงสูง จึงควรมีกฎหมายคอยกำกับดูแลไว้ และหากจะบอกว่ามีพรบ.ควบคุมโรคติดต่อมาดูแลแล้ว ถือว่าไม่เพียงพอ เพราะพรบ.โรคติดต่อเหมาะใช้ในการแก้ปัญหากรณีมีการแพรร่รระบาด แตกต่างจากพรก.ฉุกเฉิน ที่ใช้สำหรับการป้องกันด้วย
ยันไม่มีการลิดรอนสิทธิ์ประชาชน
พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า กฎหมายโรคติดต่อให้เฉพาะเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขในการปฎิบัติงาน ซึ่งไม่เพียงพอ กับสถานการณ์อย่างที่เป็นอยู่ซึ่งต้องใช้ ตำรวจ และทหารเข้าไปร่วมด้วย หรือถ้ามีกฎหมายไหนที่ใช้ได้ดีกว่าพรก.ฉุกเฉิน ก็ขอให้บอกมา จะได้นำไปพิจารณาใช้ อยากบอกว่าอย่ารังเกียจรังงอนกับ พรก.ฉุกเฉินนักเลย
“ตั้งแต่ยกเลิกเคอร์ฟิว สำหรับประชาชนทั่วไป กฎหมายนี้ไม่ได้ไปริดรอนสิทธิเสรีภาพใครเลย เราไม่ได้ใช้ในเรื่องการเมือง จะเห็นจากวันที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมามีการชุมชุมเคลื่อนไหวการเมืองหลายพื้นที่ ก็ไม่ได้นำ พรก.ฉุกเฉินไปจับกุมหรือควบคุมใคร ดังนั้นต้องถามว่าทำไมต้องไปกังวลกับกฎหมายฉบับนี้มากนัก เราต้องดูที่ผลลัพธ์การจัดการโรค จะกลัว พรก.ฉุกเฉินหรือกลัวเชื้อโรคกันแน่” พล.อ.สมศักดิ์กล่าว
ปปช.ให้รัฐบาลสอบผ่านคุมไวรัส
กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “ประเมินความพึงพอใจต่อการบริหารจัดการ COVID-19” โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,214 คน พบว่า ในภาพรวมประชาชนให้คะแนนความพึงพอใจต่อการบริหารจัดการ COVID-19 ในด้านต่างๆ เฉลี่ย 3.79 จากคะแนนเต็ม 5 คะแนน ซึ่งแปลผลได้ว่ามีความพึงพอใจมาก โดยด้านที่ได้คะแนนมากที่สุดคือ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ COVID-19 ได้ 4.23 คะแนน (ความพึงพอใจมากที่สุด) รองลงมาคือ การบริหารจัดการ ควบคุม แก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ได้ 4.08 คะแนน (ความพึงพอใจมาก) การบริหารจัดการจัดการเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาให้กับประชาชนและการต่อต้านและป้องกันข่าวลวง (fake news) ได้ 3.43 คะแนนเท่ากัน (ความพึงพอใจมาก)
เชื่อพรก.ฉุกเฉินมีส่วนอย่างอย่างมาก
เมื่อถามว่ากังวลต่อการกลับมาแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในรอบ 2 มากน้อยเพียงใดพบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 50.5 มีความกังวลค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 49.5 กังวลค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด เมื่อถามต่อว่า พ.ร.ก. ฉุกเฉินมีส่วนต่อการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 มากน้อยเพียงใดพบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 76.7 มีส่วนต่อการควบคุมค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 23.3 มีส่วนต่อการควบคุมค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด
ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 66.3 เห็นว่าเป็นด้านความเป็นอยู่ของประชาชน รักษาระยะห่าง ใช้ชีวิต New Normal รองลงมาร้อยละ 42.8 เห็นว่าเป็นด้านเศรษฐกิจ การค้าต่างประเทศ และร้อยละ 32.5 เห็นว่าเป็นด้านการสาธารณสุข พัฒนาการรักษา วัคซีนป้องกัน
“เทวัญ”ถวายหน้ากากอนามัยให้พระสงฆ์
วันเดียวกัน นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ากราบนมัสการพระกิตติวิมล รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ และได้ถวายหน้ากากอนามัยให้พระสงฆ์และสามเณร เพื่อใช้ในการออกกิจนิมนต์หรือเดินทางไปเรียนปริยัติธรรม ก่อนจะเดินทางเข้ากราบสักการะพระพุทธรูปหลวงพ่อทันใจ และนมัสการพระครูสุนทรเจติยารักษ์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยคำ พร้อมถวายหน้ากากอนามัยและสนทนาธรรมหารือในการวางมาตรการรับผู้คนที่เข้ามาร่วมทำบุญจำนวนมากหลังจากมีการผ่อนคลายให้มีการเข้าไปทำบุญไหว้พระได้ รวมทั้งผลกระทบของพระสงฆ์ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19
ขอความร่วมมือทุกวัดใช้มาตรการเข้ม
นายเทวัญ กล่าวว่า แม้จะมีการผ่อนคลายให้เข้าวัดทำบุญได้ตามปกติ แต่ได้ขอความร่วมมือทุกวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะวัดที่มีผู้คนไปทำบุญจำนวนมากและใกล้วันสำคัญทางพุทธศาสนาทั้งอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ควรมีมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ทั้งการสวมใส่หน้ากากอนามัย มีจุดบริการเจลล้างมือ และการเว้นระยะห่าง
นอกจากนี้ยังเตรียมที่จะเยียวยาพระสงฆ์กว่า 2แสนรูป ที่ได้รับผลกระทบช่วงโควิด-19 ทั่วประเทศ ซึ่งจะถวายค่าใช้จ่ายรูปละ 60 บาทต่อวันเป็นระยะเวลา 3 เดือน เพราะหลายวัดไม่มีคนไปทำบุญบริจาคแต่ยังต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟและค่าบำรุงศาสนสถานต่างๆ คาดว่าจะใช้งบราว 1,000 ล้านบาท
พัทยาคุมเข้มตลาดทรีทาวน์สกัดมั่วสุม
จากกรณีที่มีกลุ่มคนจำนวนมากออกมาเกาะกลุ่มมั่วสุมกันบริเวณด้านหน้าตลาด เกรงจะเป็นแหล่งเพาะเชื้อสร้างภาพลักษณ์ในเชิงลบให้กับเมืองพัทยาเป็นอย่างมากตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 26 มิถุนายน พ.ต.ท.นิทัศน์ แหวนประดิษฐ์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ต.พลากร ตราชูนิตย์ สวป.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่กิจการพิเศษ ออกตรวจสอบบริเวณตลาดทรีทาวน์ ภายในซอยบัวขาวพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อเป็นการป้องกันการเกาะกลุ่มมั่วสุมและเป็นการกู้ภาพลักษณ์ให้กับเมืองพัทยา พบว่า ได้เสริมมาตรการป้องกันกลุ่มคนที่จะเข้ามารวมกลุ่มมั่วสุม โดยการใช้แผงเหล็กกั้นห้ามบุคคลเข้ามานั่งเกาะกลุ่มดื่มเครื่องดืมแอลกอฮอล์ในพื้นที่ของตลาด หากใครจะเข้ามาใช้บริการด้านในตลาดจะต้องผ่านจุดตรวจทางเข้าเท่านั้น
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้เพิ่มกำลังสายตรวจออกตรวจสอบ เพื่อป้องกันกลุ่มผู้หญิงที่จะออกมานั่งรวมตัวกันแฝงค้าประเวณีอีกด้วย และทางเจ้าหน้าที่ยังได้ประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มผู้ประกอบการให้เตรียมพร้อมตามมาตราการป้องกัน เพื่อรองรับการผ่อนปรนเฟส 5 ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี