ฝ่ายค้านซัดเพ้อฝัน-ผลาญเงิน
ถล่มงบ’64ส่งท้าย
ขวางมหาดไทยซื้อฮ.ดับไฟป่า
จี้รัฐบาลรื้อทำใหม่ทั้งหมด
หวั่นล้มละลายด้านการคลัง
บิ๊กป๊อกโต้หวังยกมาตรฐาน
ช่วยบรรเทางานสาธารณภัย
“ฝ่ายค้าน” ถล่มงบ ’64 ส่งท้าย “วิสาร” อัด “ฉบับเพ้อฝัน ผลาญงบ จบด้วยโควิด” จี้มท.1 ตัดงบไม่จำเป็นออก แฉกรมการปกครองซื้อรถปิกอัพให้ “อส.” ใช้ แต่ “คุณนาย” ได้นั่งแทนซ้ำซื้อรถอัดอากาศ ทั้งที่เหตุ “หมูป่าติดถ้ำ”ไม่มีแล้ว “บิ๊กป๊อก” ลุกแจงยันจำเป็นต้องซื้อฮ.-รถดับเพลิง
หวังยกระดับกู้ภัยมาตรฐานสากล ใครโกงโดนฟันตาม กม.มีศาล-มีคุกรออยู่ ’จิราพร’จี้รื้อทำใหม่หมด หวั่นเป็นระเบิดเวลา ทำประเทศล้มละลายทางการคลัง-ขณะที่‘ไพบูลย์’เดือด ขอเลื่อนญัตติถอด’เสรีพิศุทธ์’พ้น ปธ.กมธ.ปราบโกง ดันทุรังชงปมถวายสัตย์ฯให้ปปช. คาดลงมติสัปดาห์หน้า ลั่นเอาผิดถึงที่สุด ไม่หยุดแค่ในสภา
เมื่อวันที่ 3กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการกำชับ สส.พรรค พปชร.ให้เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติ ร่างพระราชบัญญัติ (พรบ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ในวาระ 1 โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวย้อนถามว่า”ไม่น่าถามเลยนะ”ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า การประชุมเมื่อวานนี้ (2 กรกฎาคม) ฝ่ายค้านเกือบเสนอขอให้ประธานสภาฯนับองค์ประชุมเพราะสส.อยู่ในห้องประชุมน้อย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เขาก็อยู่ในห้องประชุมกันทั้งหมด อยู่กันรอบๆ ไม่ได้ไปไหน เขารู้กันอยู่แล้ว เขาโตแล้ว
เมื่อถามถึงโครงสร้างใหม่พรรค พปชร.เรียบร้อยแล้วหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบด้วยน้ำเสียงโมโห ว่า เรียบร้อย ก่อนจะย้อนถามสื่อว่ามาทำเองไหม ถามต่อว่า สส.ในพรรคพยายามจะเลื่อยขา นายสมคิดจาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี อยู่ตลอดเวลา พล.อ.ประวิตร ยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า ไม่มีหรอก
‘ไพบูลย์’ชงสภาฯปลด’เสรีพิสุทธ์’
ด้าน นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และกรรมาธิการ(กมธ.)การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาฯแถลงว่า การที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการฯ และกรรมาธิการรวม 8คน ได้มีมติเสนอเรื่องให้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ไต่สวนและเอาผิดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกต้อง เพราะการประชุมกมธ.ปปช.วันดังกล่าว เป็นช่วงเวลาที่กมธ.คนอื่นๆ ติดภารกิจอยู่และกมธ.ในสัดส่วนสส.พรรครัฐบาลไม่รู้เรื่อง โดยในสัดส่วนพรรครัฐบาล 3คน ได้งดออกเสียงในการลงคะแนน รวมถึงที่ผ่านมากมธ.ฯ เคยมีมติเสียงข้างมากแล้วให้ยุติการพิจารณาเรื่องการถวายสัตย์จึงเป็นที่มาของการเสนอญัตติให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ พ้นจากตำแหน่งประธานกมธ.ฯซึ่งได้บรรจุเข้าสภาตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำสั่งไม่รับคำร้องประเด็นนี้ ด้วยเหตุนี้จะได้ประสานงานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เลื่อนระเบียบวาระดังกล่าวขี้นมาให้ได้รับการพิจารณาในสัปดาห์หน้า
ฮึ่มเอาผิดทางกฎหมายอีกดอก
“เมื่อท่านไม่ยอมหยุด ผมต้องหยุดท่านโดยเสียงของสภา โดยญัตติที่ผมเสนอเข้าสภาระบุชัดเจนว่าการดำเนินการของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นการดำเนินการมิชอบ หากสภาฯ เห็นด้วยก็ย่อมมีผลผูกพันและมีผลให้มติที่ยื่นประธานสภาไปนั้นมิชอบด้วยกฎหมาย การพิจารณาของสภาฯเท่ากับเป็นการวินิจฉัยและรับรองไปด้วย หมดทางเลือกแล้ว เพราะต้องเป็นหน้าที่ของสภาฯเรื่องนี้จะไม่จบแค่ที่สภาฯเท่านั้น ตนเองได้เตือนหลายครั้งแล้วแต่กลับไม่ฟัง จึงจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย’นายไพบูลย์ กล่าว
อภิปรายพรบ.งบฯก่อนลงมติ
ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมพิจารณาร่าง พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 วงเงิน 3.3ล้านล้านบาท เป็นวันที่3 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรอบเวลาอภิปรายร่าง พรบ.งบฯ คาดจะลงมติเวลาประมาณ 23.00น.โดยเสียงข้างมากจะต้องได้เกินกึ่งหนึ่งหรือ 244 เสียงขึ้นไป ถ้าสภาฯรับหลักการ จะตั้งกรรมาธิการขึ้นมา 72 คน กำหนดให้แปรญัตติ 30 วัน จากนั้นจะเข้าสู่การพิจารณาวาระ2และ3 ให้แล้วเสร็จก่อน105วัน หรือจะครบกำหนดวันที่ 28 กันยายน
พท.อัดมท.ซื้ออุปกรณ์ไม่จำเป็น
ในการพิจารณา นายวิสาร เตะชะธีราวัฒน์ สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.)อภิปปรายว่าตนไม่มีความหวังกับ ครม.แต่มีความหวังที่สส.ทำงานอย่างเข้มแข็งตนนอนตาหลับแล้ว แต่การจัดทำงบปี 2564 เป็นงบประมาณที่ตกยุค เป็นการตั้งงบประมาณแบบเพ้อฝัน เพราะการจัดเก็บภาษีไม่มีทางได้เลย เพราะภาวะขณะนี้ รัฐบาลล็อกดาวน์ประเทศ ชาวบ้านเดือดร้อนหมด บริษัทไม่มีเงินเสียภาษี ตอนนี้ไม่ต้องคิดว่าจะฟื้นฟูเศรษฐกิจ ขอให้ประชาชนประครองชีวิตให้รอดก็ลำบาก โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย เรื่องที่ไม่ควรใช้งบประมาณ ขอให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ใช้ความกล้าหาญในการตัดงบบางตัวของกระทรวงมหาดไทย เช่น ศาลากลาง ศูนย์ราชการ ที่ว่าการ เพื่อเอาไปใช้อย่างอื่นได้
นายวิสารได้ย้ำว่าโครงการสะพานแบลี่ย์ จำเป็นต้องใช้หรือไม่ ถ้าเทียบประเทศไทยเป็นคนป่วยก็อยู่ในขั้นโคม่า มะเร็งระดับ4 หรือการจัดซื้อรถฉีดน้ำ รถกู้ภัย รถไฮโดรลิค รถอเนกประสงค์ ที่สำคัญรถผลิตอากาศจำนวน 6,000คัน จำนวนหลายร้อยล้านบาท ปรากฎว่าเกิดเหตุหมูป่าติดถ้ำที่ขุนน้ำนางนอน เมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่หาเรื่องซื้อ ดังนั้นขอให้ยกเลิก เพราะเป็นงบประมาณปี2564 รวมถึงหลังคาโค้งไร้โครงสร้าง ตัวละ10กว่าล้านบาท จึงขอให้ยกเลิก แล้วเอางบเหล่านี้ไปเป็นอาหารให้กับคนจนดีกว่า นอกจากนั้นโครงการไฟป่าเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลชุดนี้ตั้งไว้ แต่ไม่สำเร็จ การดับไฟป้าวิธีการง่ายๆชาวบ้านเขาใช้เครื่องพ่นยาและเขาต้องการเฉพาะเครื่องเป่าลมสำหรับทำแนวกันไฟ แต่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) จัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ 2ลำ มูลค่า 1,800ล้านบาท การจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ถือว่าเกินความจำเป็นในภาวะวิกฤตอย่างนี้ ตนว่าประเทศไทยต้องใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ตั้งฉายา’ฉบับเพ้อฝัน-ผลาญงบ’
‘ที่สำคัญรถปิ๊กอัพบางคัน กรมการปกครองซื้อไปให้กองอาสารักษาดินแดน (อส.)ใช้ทุกที่ และมีการล็อกสเปก เป็นที่รู้กันว่าเอายี่ห้ออะไรและเขาบอกว่า อส.ไม่ได้นั่ง มีแต่นาย แต่นายนั่งยังไม่เท่าไหร่ แต่มีคุณนายไปใช้ด้วย ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ จึงขอให้ยกเลิกงบเหล่านี้ แล้วเอามาใช้ที่จำเป็นและในยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ แก้ไขปัญหาไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม รวบอำนาจ ทำลายศักยภาพ เกียรติภูมิขอองประเทศไทยอย่างไม่เคยมีมาก่อนในปะวัติศาสตร์และขอเรียกงบฉบับนี้ว่า’ฉบับเพ้อฝัน ผลาญงบ จบด้วยโควิด’ซึ่งต้องดูว่านายกฯจะจบก่อนหรือคนไทยจะจบไปก่อน นายวิสาร กล่าว
‘บิ๊กป๊อก’แจวยันของต้องใช้ทั้งนั้น
จากนั้นพล.อ.อนุพงษ์ กล่าวชี้แจงว่า การจัดซื้ออุปกรณ์สำหรับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนั้น ทุกจังหวัดมมีความสำคัญ เมื่อเกิดภัยพิบัติใดก็ตาม เราไม่สามารถส่งเครื่องมือและอุปกรณ์ให้ทุกจังหวัดได้ ปภ.จึงจัดตั้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวม 18เขตทั่วประเทศ โดยให้จังหวัดที่อยู่ในแต่ละเขตใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆร่วมกัน ขณะที่การจัดซื้ออุปกรณ์ก็ทำเท่าที่จำเป็น และพยาายามรวมกันใช้อุปกรณ์ให้ประหยัดที่สุด ส่วนที่มีการอภิปรายถึงเรื่องสะพานแบลีย์นั้น ขอชี้แจงว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีใช้ในกรณีเกิดเหตุสะพานถูกตัดขาด เพื่อให้ประชาชนใช้สัญจรเป็นการชั่วคราว โดยสะพานนี้จะใช้งานนานพอสมควร เพราะจะถอนออกได้ต่อเมื่อมีงบประมาณมาสร้างสะพานใหม่ ส่วนรถอัดอากาศ เราไม่เคยมี แต่เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีใช้ในการกู้ภัย เพราะใช้เติมอากาศให้ผู้ประสบภัยกรณีเกิดเหตุในพื้นที่ที่จำกัด อาทิ เหตุการณ์เหมืองถล่ม หรืออาคารถล่ม
ย้ำมีฮ.ของตัวเอง-ไม่ต้องยืมใครใช้
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการดับเพลิงนั้น รถดับเพลิงที่เรามีอยู่ ฉีดน้ำกรณีอาคารสูงที่สุด 20ชั้น แต่อาคารในกรุงเทพฯหลายแห่งมีความสูงถึงร้อยชั้น รถดับเพลิงที่มีอยู่จึงไม่สามารถดับเพลิงกรณีเกิดเหตุไฟไหม้ในพื้นที่ที่อยู่สูงเกิน 20ชั้นและถ้าเป็นเหตุไฟไหม้ตึกสูงในต่างจังหวัด ก็ต้องยืมรถดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ไปใช้ ส่วนเฮลิคอปเตอร์ที่จะมีการจัดซื้อนั้น เป็นเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยทำได้ทั้งการขนน้ำไปเทดับไฟและยังมีเครื่องฉีดน้ำเข้าไปดับเพลิงในตึก ซึ่งเราไม่เคยมีเป็นของตัวเอง โดยที่ผ่านมา เราต้องไปขอยืมเฮลิคอปเตอร์จากกองทัพ แต่ทำได้แค่หิ้วน้ำไปดับ เพราะไม่ได้ติดตั้งเครื่องฉีดน้ำ ซึ่งในต่างประเทศ การบรรเทาสาธารณภัยต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ของฝ่ายพลเรือน ไม่ใช่ไปขอยืมจากกองทัพมาใช้ เราจึงต้องมีเฮลิคอปเตอร์นี้เพื่อให้การบรรเทาสาธารณภัยของเราเป็นไปตามมาตรฐานสากล
‘ใครโกง-คุณนาย นั่งรถ’เอาผิดแน่
ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าสส.ภาคเหนือรู้ดีว่า การยืมเฮลิคอปเตอร์กองทัพมาใช้ดับไฟ ทำได้แค่หิ้วน้ำมาดับไฟ แต่ไม่ตรงเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม มท.พยายามใช้งบฯให้ประหยัดที่สุดในการจัดซื้ออุปกรณ์กู้ภัย การที่เราขอซื้อเฮลิคอปเตอร์หลายลำไม่ได้ทำเพื่อตั้งเป็นกองบิน การจะซื้อ 6ลำ เป็นเพราะต้องมีไว้สลับกันใช้งาน กรณีต้องมีการซ่อมบำรุงและจะช่วยให้การเข้าไปดับไฟเป็นระลอกทำได้สะดวก อีกทั้งสามาถใช้ดับไฟบนภูเขาได้ ส่วนบริษัทใดจะชนะการประมูลนั้น เป็นเรื่องของปภ.พิจารณา ถ้าอยากได้ของดีก็ย่อมมีราคาสูง เรื่องจัดซื้อจะมีความโปร่งใสหรือไม่นั้น ผมยืนยันว่าไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรี สส.หรือท้องถิ่น ถ้าใครทำผิดก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย มีคุกรออยู่ จึงควรทำให้ประชาชนมั่นใจในกระบวนการนี้ ไม่ใช่ไปพูดให้ประชาชนรู้สิ้นหวังว่า มีแต่คนโกง ทำอะไรก็ได้ ทั้งที่มีศาลอยู่ ที่ผ่านมาก็เห็นแล้วว่ามีผู้ใหญ่นายโตทั้งหลายมีคดีทั้งนั้น หนีกันก็เยอะ คงไม่ต้องพูดอะไร ขอให้เป็นไปตามนั้น ถ้าบริษัทที่เขาได้ ได้ตามกฎหมาย ก็ไม่มีอะไรแปลก ส่วนรถปิ๊กอัพถ้ามีคุณนายไปนั่ง ทำผิดกฎหมาย ก็ว่ามา นายอำเภอ ผู้ว่าฯคนไหนทำอย่างนั้น เราจะได้เอาออกไป แล้วคนอื่นมาเป็น ยืนยันว่างบฯดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็น”พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
พท.จี้รื้อทำใหม่-หวั่นล้มละลายการคลัง
จากนั้น น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายว่า ตนไม่สามารถรับหลักการของร่าง พรบ.งบฯฉบับนี้ได้ เพราะรัฐบาลประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจคาดเคลื่อน จึงจัดสรรงบประมาณผิดพลาด ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันและในอนาคต รวมทั้งกำลังทำให้ประเทศสุ่มเสี่ยงที่ตกอยู่ในภาวะล้มละลายทางการคลังด้วย ทั้งนี้ 6ปีที่ผ่านมาประเทศไทยจัดทำงบประมาณโดยนายกฯ คนเก่า ที่คิดแบบเก่าและจัดทำงบฯแบบเก่า ผลที่ได้ครั้งนี้อาจจะเลวร้ายกว่าที่ผ่านมา เพราะใช้เงินจำนวนมากไม่ได้หมายความว่า จะพลิกฟื้นประเทศได้ แต่หัวใจสำคัญคือ มันสมองและคุณภาพการใช้เงินของรัฐบาล ถ้าใช้เงินไม่เป็น หนี้ก้อนนี้จะกลายเป็นการซ้ำเติมประเทศ ดังนั้นถ้ารัฐบาลไม่รื้อทำใหม่ทั้งหมด ร่างพรบ.งบประมาณฉบับนี้จะกลายเป็นระเบิดเวลาที่จะพาประเทศไปสู่การล้มละลายทางการคลังได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี