‘เพื่อไทย’หวดรัฐบาล‘บิ๊กตู่’จัดงบ 64 ตกยุค ไม่ตอบโจทย์ จี้เลือก 2 ทาง
5 กรกฎาคม 2563 ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช กรรมการกิจการพิเศษ และหัวหน้าศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรามักเห็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชอบพูดว่า ประเทศไทยต้อง “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” แต่หลังจากที่เราได้ศึกษาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ก็เริ่มไม่แน่ใจว่าร่างงบประมาณฉบับดังกล่าวจะสามารถแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจได้อย่าง “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” เพราะการยึดโจทย์เดิมๆ ไม่ได้ปรับให้เหมาะกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน และยังใช้ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณแบบเก่าๆไม่ทันต่อสถานการณ์ ในทางกลับกันสิ่งที่ประชาชนอยากเห็น คือ งบประมาณเพื่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศหลังโควิด-19 และควรเป็นงบประมาณเพื่อคนไทยทุกคน งบประมาณที่เขียนมาแบบนี้ ทำให้คนไทยอดคิดไม่ได้ว่าจะมีการเอื้อผลประโยชน์แก่กลุ่มใดหรือไม่
ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ควรจะต้องเป็นรัฐบาลที่หาเงินเป็น และใช้เงินเป็น ไม่ใช่รัฐบาลที่เก่งแต่กู้ และเพื่อให้งบประมาณในปีต่อๆเป็นไปตามเทรนด์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ก็ควรเข้าใจ 5 เทรนด์ใหญ่ที่จะทรงอิทธิพลในปี 2030 (5 Mega Trends) มีดังนี้
1.สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) คือ พฤติกรรมของผู้สูงอายุในอนาคตจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ผู้สูงอายุจะไม่อยู่บ้านเลี้ยงหลาน และมีสุขภาพที่ดีขึ้น ดังนั้นรัฐบาลควรส่งเสริมธุรกิจที่ผลิตสินค้าและการบริการซึ่งตอบโจทย์ผู้สูงอายุยุคใหม่
2.ความเป็นเมือง (Urbanization) คือ การที่เราสามารถใช้ชีวิตอยู่ที่ไหนก็ได้ และสามารถเชื่อมต่อกับสังคมได้ รัฐบาลควรสนับสนุนการทำงานที่บ้าน (Work From Home) และมีนโยบายลดหย่อนภาษีสำหรับบริษัทที่ให้พนักงานทำงานที่บ้าน หรือนโยบายเรียนที่บ้าน (Learn From Home) เฉพาะเด็กโต ส่งเสริมการเรียนจากที่บ้านให้มีคุณภาพและเข้าถึงเด็กทุกคน และนโยบายซื้อที่บ้าน (Buy From Home) โดยยกเลิกภาษีขายสินค้าออนไลน์เฉพาะคนไทยเป็นเวลา 1 ปี
3.การเติบโตของคนชั้นกลาง (Rise of Middle Income Class) คือ การที่กลุ่มชนชั้นกลางมีจำนวนมากขึ้น ทำให้กลุ่มคนที่มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น รัฐบาลควรสนับสนุนนโยบายท่องเที่ยวเพื่อลดหย่อนภาษี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ก่อนที่เศรษฐกิจจะแย่จนถึงจุดที่คนไทยไม่มีกำลังซื้อ
4.นวัตกรรม หรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สร้างตลาดและมูลค่าให้กับตัวผลิตภัณฑ์ (Disruptive Technologies) หากตลาดผลิตภัณฑ์เดิมไม่มีการปรับตัว ก็จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจนั้นถึงขั้นปิดกิจการ รัฐบาลควรส่งเสริมการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI หรือ Artificial Intelligence) เกษตรกรรมยุค 4.0 การทำธุรกรรมทางการเงินไม่ง้อธนาคาร (Financial Technology) และเมืองอัจฉริยะ (Smart City)
5.โลกที่หมุนบนแกนของความยั่งยืนและความรับผิดชอบทางสังคม (Sustainability and Social Responsibility) การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเร็วจะก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม ภัยพิบัติ และการขาดแคลนทรัพยากร รัฐบาลควรปฏิรูปการศึกษาเพื่อสร้างจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมให้ประชาชน สนับสนุนให้รัฐบาลโปร่งใสและตรวจสอบได้ (Open Data) ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนว่า รัฐบาลมีความรับผิดชอบต่อสังคม และส่งเสริมหลักสิทธิมนุษยชน
“คงถึงเวลาแล้วที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องตัดสินใจว่าอยากให้ประวัติศาสตร์บันทึกถึงตัวเองว่าอย่างไร เพราะนักวิชาการจำนวนมากได้ออกมาพูดแล้วว่าร่างงบประมาณปี 64 ไม่ตอบโจทย์กับวิกฤตเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน และ พล.อ.ประยุทธ์ คงเหลือแค่ 2 ทางออก ทางออกที่ 1 คือ ปรับ ครม.ใหม่ทั้งชุด เลือกคนที่มีความรู้ ความสามารถเฉพาะด้านนั้น ๆ มาทำงาน เพื่อให้งานที่ออกมามีประสิทธิผลสูงสุด หรือทางออกที่ 2 คือ ยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชน เป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเลือกใครเข้ามาบริหารประเทศต่อไป” ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี