‘4กุมาร’ลาออก! ประกาศไขก๊อก-หยุดภารกิจการเมืองในพปชร. แต่ยังเป็น รมต.ต่อ เรื่องปรับ ครม.เป็นอำนาจนายกฯ ประกาศภารกิจเรา 4 คนบรรลุแล้ว
เมื่อเวลา 12.15 น.วันที่ 9 กรกฎาคม 2563 ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) , นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน อดีตเลขาธิการพรรค , นายสุวิทย์ เมษิทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม อดีตรองหัวหน้าพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และอดีตกรรมการบริหารพรรค ร่วมแถลงลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค พปชร.
นายอุตตม แถลงว่า พวกตนทั้ง 4 คน ได้ปฏิบัติภารกิจทางด้านบริหาร และส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานในพรรคในช่วงที่ผ่านมา และในวันนี้ได้ตัดสินใจ ยุติบทบาททางการเมืองของพวกเรา ในฐานะสมาชิกของพรรค พปชร.
“ที่มาที่ไปคือ 2 ปีที่ผ่านมา พวกเราได้เป็นแกนนำจัดตั้งพรรคร่วมกัน โดยมีความตั้งใจจะเข้ามาทำงานเพื่อประเทศชาติ และมีเจตนารมณ์สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้นำประเทศ และพาประเทศก้าวข้ามสถานการณ์ในช่วงนั้น หลายอย่างที่เกิดขึ้น พปชร.มีความก้าวหน้า สานต่อนโยบายการสร้างพรรค ให้เป็นสถาบันทางการเมือง เรามีคนมาจากหลากหลายสาย จนถึงวันนี้ถือได้ว่าภารกิจของพวกตนทั้ง 4 คน ลุล่วงไปแล้ว” นายอุตตม กล่าว
นายอุตตม กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ พปชร. ก็มีผู้บริหารชุดใหม่ พรรคจะเดินหน้าต่อไปได้ จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมที่พวกตนจะหยุดภารกิจในพรรค แต่เราจะยังทำงานต่อไป ในด้านบริหารตามภารกิจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯ คือจะยังทำหน้าที่ในครม.ต่อไป แต่เราจะยังสนับสนุนกิจกรรมของพรรคในเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชนโดยรวม
ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พวกตนไม่ใช่นักการเมือง วันที่พวกตนเดินเข้ามาตั้งพรรค เป็นช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของบ้านเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับเปลี่ยนผ่านประเทศ ณ ขณะนั้น เรามีความเชื่อมั่นว่าพล.อ.ประยุทธ์ คือ ผู้เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นผู้นำประเทศในช่วงรอยต่อ นั่นคือที่มาที่พวกตนทั้ง 4 คน ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีในขณะนั้น แล้วมาทำงานการเมือง และเราได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ให้ทุกอย่างเดินหน้าได้อย่างที่ตั้งใจ
“มาบัดนี้ ตนมองว่าบทบาทหน้าที่ทางการเมืองย่อมมีความเปลี่ยนแปลง พวกตนไม่มีความคิดที่จะยึดติดกับบทบาทใดบทบาทหนึ่ง เราคือคนทำงาน อะไรที่เป็นประโยชน์ เราทุ่มเทเต็มที่ ในหน้าที่ของเรา เราไม่มีความยึดติดทางการเมือง ว่าจะต้องเป็นตลอดไป หรือพยายามที่จะอยู่ในหน้าที่ให้ได้มากที่สุด เราจะหน้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ส่วนบทบาทนั้นจะดำเนินการไปอย่างไร สิ้นสุดเมื่อไร เป็นเรื่องที่พวกเราไม่ได้ยึดติด” นายสนธิรัตน์ กล่าว
เมื่อถามว่า จะมีการตั้งกลุ่มหรือพรรคการเมืองอื่นอีกหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ยังไม่มีความคิด วันนี้ขอทำงานทุกอย่างที่มีให้เต็มที่
เมื่อถามว่า ได้แจ้งเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า การแถลงวันนี้เป็นเรื่องของพรรค ไม่ใช่เรื่องของฝ่ายบริหาร
เมื่อถามอีกว่า ไม่ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีด้วยใช่หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงในอนาคต เป็นเรื่องที่เข้าใจกันได้ ทุกคนเข้าใจกันดี พวกตนจะทำหน้าที่ที่เรามีอย่างเต็มที่ หากจะมีการปรับเปลี่ยนใดๆในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็เป็นเรื่องของอำนาจนายกฯ
เมื่อถามว่า การแถลงวันนี้ได้แจ้งให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ทราบล่วงหน้าหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า วันนี้ ถือว่าเราได้แถลงอย่างเป็นทางการ ข่าวสารคงไปถึงพร้อมๆกัน
เมื่อถามว่า เมื่อไม่ได้เป็นสมาชิก พปชร.แล้ว ตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคจะยังเหมือนเดิมหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ตรงนี้ไม่ใช่เรื่องที่เราจะมาพูดจากันได้ เพราะไม่ได้อยู่ในขอบเขต
ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวเสริมว่า ระหว่างบทบาทในพรรคกับบทบาททางฝ่ายบริหาร เรามี 2 บทบาท เราแยกแยะ คือ บทบาทในพรรคเราทำหน้าที่จนกระทั่งถึงวันนี้ ส่วนบทบาทฝ่ายบริหาร ในฐานะรัฐมนตรีนั้น เราจะทำหน้าที่จนถึงที่สุด ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับนายกฯ จะใช้ดุลยพินิจ เราจะไม่ไปก้าวล่วง เพราะอยู่นอกขอบเขตที่เราจะพิจารณา
เมื่อถามว่า มีอะไรจะฝากถึงสมาชิกพรรค พปชร. หรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า “พวกผมภูมิใจ ที่เป็นส่วนหนึ่งของ พปชร. พวกเราภูมิใจ จากคนที่ไม่เคยทำงานการเมือง แล้วเข้ามาทำงานการเมือง และมีส่วนสร้างพรรคการเมืองขึ้นหนึ่งพรรค จนเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล สิ่งที่เราอยากเห็นคือพรรคพลังประชารัฐมีความเข้มแข็ง ที่จะเดินหน้าเป็นสถาบันทางการเมือง เพื่อให้ประชาชนได้มีความหวังต่อพรรคการเมือง แล้วท่านสมาชิกพรรคทั่วประเทศนั้น
“ความผูกพันคือสายใยที่ไม่ได้หายไป การลาออกจากพรรคของพวกเรา ไม่ได้หมายความว่าเราตัดขาดสายใยต่อกัน เราจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เราเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เราไม่มีความขัดแย้งหรือโกรธชังกันในเรื่องต่าง ๆ เป็นเพียงวิถีของการเดินไปข้างหน้า กลุ่มพวกเรามีความคิดแบบนี้ มีวิถีปฏิบัติแบบนี้ เราก็เลือกทางเดินในวิถีของเรา” นายสนธิรัตน์ กล่าว
เมื่อถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาทำให้ถอดใจการทำงานการเมืองหลังจากนี้หรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ตนกับนายอุตตม พูดตรงกันเสมอว่า การทำงานที่ผ่านมา คำว่าถอดใจไม่มี การทำงานเพื่อบ้านเมืองไม่ใช่เรื่องของตัวตน บุคคล และชีวิตของคนใดคนหนึ่ง มันคือหน้าที่ เราไม่ยึดที่ตัวเรา และตำแหน่ง แต่เรารู้ว่าปัจจุบันเราทำหน้าที่อะไร และจะทำให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่า ฝากความหวังไว้กับทีมบริหารชุดใหม่ที่นำโดย พล.อ.ประวิตร อย่างไรบ้าง นายอุตตม กล่าวว่า ตนเชื่อว่าทีมผู้บริหารชุดใหม่จะนำพรรคเดินหน้าต่อไปได้ ส่วนพวกตนนั้น สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อประชาาชนก็พร้อมที่จะสนับสนุน เมื่อถามว่า ก่อนที่จะตัดสินใจลาออก ได้หารือนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ในฐานะที่ปรึกษาทางใจหรือไม่ นายอุตตม ยิ้ม ก่อนจะส่งให้นายสนธิรัตน์ ตอบว่า ได้เรียนให้ท่านทราบแล้ว เพราะท่านเป็นที่ปรึกษาให้กับพวกเราเสมอมา จึงแจ้งให้ท่านทราบก่อนว่าพวกเราตัดสินใจแบบนี้ ซึ่งนายสมคิดได้ให้กำลังใจ และเคารพในการตัดสินใจพวกตน นายสมคิดไม่ได้บอกว่าพวกเราจะต้องทำอย่างไร แต่บอกว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกตนพิจารณา และตัดสินใจแล้ว ท่านเคารพการตัดสินใจ และให้กำลังใจ
เมื่อถามว่า หากมีการตัดสินใจทำงานการเมืองต่อจากนี้ จะไปด้วยกันทั้งหมดหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ในส่วนของพวกตนทั้ง 4 คน พวกเราผูกพันกันพอสมควร เราทำงานบริหารบ้านเมืองมาด้วยกัน และความผูกพันก็จะมีต่อไปแน่นอน
ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การทำงานการเมืองเป็นเรื่องของการเสียสละ ไม่ใช่เรื่องของตัวบุคคล ความตั้งใจความมุ่งมั่นในการทำงานให้บ้านเมืองเป็นเรื่องที่สำคัญ พวกตนทั้ง 4 คน ได้เข้ามาทำงานการเมืองอย่างเต็มที่ อนาคตเราไม่ทราบ หากมีโอกาสทำงานเพื่อบ้านเมืองที่ไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคการเมืองเสมอไป อะไรที่เป็นประโยชน์จากประสบการณ์ที่เรามี พวกเราคงไม่คิดว่าจะไม่ช่วย เรา 4 คนมีความผูกพันทำงานเป็นทีมเดียวกันมา มีอะไรก็ช่วยกันหารือ ส่วนจะทำงานร่วมกันในอนาคตหรือไม่ เราพร้อมทำในบทบาทที่มีประโยชน์ แต่ไม่ได้คิดเรื่องการทำพรรค ขีดเส้นใต้ตรงนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้ง 4 คน ได้มอบหมายให้ทีมงานไปยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองในวันเดียวกัน อย่างไรก็ตาม การลาออกดังกล่าว เป็นการลาออกก่อนวันประชุมใหญ่พรรคในวันพรุ่งนี้ (10 กรกฎาคม 2563) ที่มี พล.อ.ประวิตร นั่งเป็นประธานประชุมเป็นครั้งแรก หลังได้รับการเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ความทรงจำล้ำค่า! เปิดแถลงการณ์'4กุมาร' หลังประกาศลาพปชร.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี