สภาฉะเดือด!ฝ่ายค้านโวยรบ.จ้องกินรวบโควตา‘กมธ.ปราบโกง’
9 กรกฎาคม 2563 ที่รัฐสภา เกียกกาย มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญในคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมติชอบ แทนนายจุลพันธ์ โนนศรีชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ที่ลาออกจากตำแหน่ง โดยซีกรัฐบาลได้เสนอนายกฤษณ์ แก้วอยู่ ส.ส.เพชรบุรี พรรคพลังประชารัฐ เป็นกมธ.แทน แต่ซีกฝ่ายค้านได้เสนอนายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทำให้ต้องขอมติจากที่ประชุม
นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะ กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมติชอบ ลุกขึ้นอภิปรายว่า ตามข้อบังคับการประชุมข้อที่ 90 กมธ.สามัญ ตั้งจากผู้ที่เป็นสมาชิกจำนวนใกล้เคียงกับอัตราของสมาชิกแต่ละพรรคที่มีอยู่ในสภาฯ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะกมธ.ป.ป.ช.มีหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตประพฤติมิชอบของรัฐบาลโดยตรง ซึ่งที่ผ่านมาในกมธ.มีปัญหาเสมอ เนื่องจากฝ่ายรัฐบาลส่งคนเข้ามา จนมีปัญหาถกเถียง ทำให้การทำงานในเรื่องการตรวจสอบยากมาก โดยขณะนี้ กมธ.มีส.ส.รัฐบาล 8 คน แต่ส.ส.ฝ่ายค้านเหลือเพียง 6 คนเท่านั้น การเสนอสัดส่วนรัฐบาลเพิ่มจะเป็น 9 ต่อ 6 คน ซึ่งเชื่อว่าขัดต่อข้อบังคับการประชุมที่ 90 เพราะไม่ได้สัดส่วนตามสภาฯ
“ในการติดต่อเบื้องต้นได้มีการเจรจากันระหว่างวิป 2 ฝ่าย จนทำให้นายประเสริฐพงษ์ ลาออกจากกมธ.คุ้มครองผู้บริโภค เพื่อมาเป็นกมธ.ป.ป.ช. แต่หลังจากไม่กี่วันมานี้ กลับเปลี่ยนใจ โดยเสนอคนเข้ามาแข่งขัน จึงเชื่อว่าเป็นการเสนอโดยไม่ชอบ และไม่ชอบด้วยหลักการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติที่ตรวจสอบฝ่ายบริหาร เพราะหากในกมธ.ป.ป.ช.มีฝ่ายรัฐบาล 9 เสียง ฝ่ายค้าน 6 เสียง กมธ.จะตรวจสอบได้อย่างไร การเชิญผู้มาชี้แจงแต่ละครั้งก็จะไม่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งขัดหลักการถ่วงดุลอำนาจ จึงขอให้รัฐบาลถอนชื่อออกไป แต่ก็เชื่อว่า รัฐบาลจะใช้เสียงข้างมากที่จะไม่ยอม ทั้งที่ไม่ถูกต้อง” นายธีรัจชัย กล่าว
ด้านนายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นชี้แจงว่า เรื่องนี้มีการพูดคุยกันมานานแล้ว จนเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ตนได้ประสานงานกับวิปของพรรคก้าวไกล ซึ่งวิปก้าวไกลก็ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไร จึงนำมาสู่การแต่งตั้งในวันนี้ ส่วนในเรื่องสัดส่วน กมธ.ก็มีการบิดนิดหน่อย เนื่องจากมีสมาชิก ส.ส.อนาคตใหม่ 12 คน ถูกตัดสิทธิ ดังนั้นถ้าจะให้สัดส่วนตรงเป๊ะก็คงเลือกตั้งกมธ.กันใหม่ทั้งสภาฯ ขณะที่ นายสุชาติ ในฐานะประธานการประชุม ยืนยันว่า สัดส่วนของกมธ.ถูกต้อง ไม่ได้ผิดข้อบังคับ
ทำให้ นายธีรัจชัย ลุกขึ้นโต้ว่า หลังจากพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ สัดส่วนของกมธ.ย่อมเปลี่ยนแปลง แต่สัดส่วนกมธ.ป.ป.ช. ฝ่ายค้านมี 8 คน ฝ่ายรัฐบาลมี 7 คน แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นฝ่ายรัฐบาล 8 คน ฝ่ายค้าน 6 คนเท่านั้น จึงขอเสนอให้คำนวณสัดส่วนใหม่ทั้งหมดทั้งโควตา และกมธ. เพราะการใช้เสียงข้างมาก ไม่ใช้การแก้ปัญหา แต่การทำงานในสภา การตรวจสอบถ่วงดุลเป็นสิ่งสำคัญกว่า สิ่งที่เป็นปัญหา คือ หลังจากตกลงให้พรรคก้าวไกลได้โควตากมธ.ป.ป.ช. และนายประเสริฐพงษ์ ได้ลาออกจากกมธ.คุ้มครองผู้บริโภคฯ แต่ต่อมาเปลี่ยน เพราะรัฐบาลกลัวการตรวจสอบ หลังกมธ.ป.ป.ช.มีมติในการส่งเรื่องกรณีถวายสัตย์ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต่อประธานสภาฯ รัฐบาลจึงมีการเปลี่ยนตัว
กระทั่ง นายสุชาติ ตัดบทโดยให้ถอนวาระการแต่งตั้งกมธ.ทั้ง 4 คณะตามระเบียบวาระออกไปก่อน โดยในฐานะประธานกรรมการประสานร่วมประธานวิปรัฐบาล และประธานวิปฝ่ายค้าน ขอนัดประชุมในวันอังคารที่ 14 กรกฎาคม นี้ เพื่อยืนยันสัดส่วนกมธ.ว่า สภาฯไม่ได้ทำผิดข้อบังคับ และรัฐธรรมนูญ ทำให้นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นต่อว่า นายสุชาติ เพราะไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนวาระนี้ออกไป เพราะกำลังจะโหวตอยู่แล้ว และกมธ.ป.ป.ช.คณะนี้ กลายเป็นที่ทำงานของพรรคฝ่ายค้านไปแล้ว ซึ่งทำให้ประชาชนเข้าใจผิด เพราะไม่ว่ากมธ.ชุดไหนก็ตรวจสอบรัฐบาลทั้งนั้น จึงไม่ควรบิดเบือน ทำให้นายสุชาติ ตัดบทเพื่อดำเนินการประชุมต่อ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี