นายกฯแจ้งข้อหารือผบ.ทบ.สหรัฐ กำชับทุกกระทรวงระวังใช้งบ
14 กรกฎาคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมนายกรัฐมนตรีได้แจ้งที่ประชุมให้ทราบถึงการเข้าพบของ ผบ.ทบ.สหรัฐอเมริกา ในการหารือไม่ได้มีการพูดถึงสถานการณ์ในทะเลจีนใต้และสงครามทางการค้าเป็นการพูดคุยถึงความสัมพันธ์และการลงนามในร่างเอกสารร่วมกันระหว่างกองทัพทั้ง 2 ประเทศ
นอกจากนี้ทาง ผบ. ทบ.สหรัฐชื่นชมการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19ของไทยด้วย การหารือส่วนใหญ่หารือทางด้านการทหาร ขณะเดียวกันนายกฯได้ฝากทูตสหรัฐฯ เรื่องความร่วมมือระหว่างไทยและสหรัฐฯในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด นายกฯฝากเชิญชวนนักลงทุนในสหรัฐฯ ให้เข้ามาลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ จากนั้นนายกฯยังแจ้งที่ประชุมให้ทราบข่าวดีที่รัฐบาลได้รับการจัดอันดับจากองค์การสหประชาชาติ เรื่องรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ที่ปีนี้เราได้ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 57 เพิ่มขึ้นมา 6 อันดับ จากเมื่อ 2 ปีที่แล้วอยู่ในอันดับที่ 73 ปี สะท้อนความสำเร็จยุทธศาสตร์ชาติด้านที่ 6
นางนฤมล กล่าวว่า นายกฯยังฝากทุกกระทรวงให้เน้นเรื่องแผนยุทธศาสตร์ชาติ เพราะหลังจากที่ไปพบสื่อมวลชนด้านสิ่งพิมพ์สะท้อนให้เห็นว่า เรื่องแผนยุทธศาสตร์ยังต้องทำความเข้าใจเพิ่มขึ้นผ่านสื่อมวลชนไปยังพี่น้องประชาชนว่ายุทธศาสตร์ชาติมีอะไรบ้าง และฝากทุกกระทรวงพัฒนาแผนงานให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติด้วย เน้นย้ำว่าแผนงานต้องยึดโยงกันพร้อมกำชับทุกกระทรวงระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณโดยเฉพาะแผนฟื้นฟูใน พ.ร.ก.เงินกู้ ซึ่งได้รับการจับตามองจากทุกฝ่ายและขอให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ นายกฯฝากเริ่มโครงการสำคัญทั้งหลายที่ นำลงไปพัฒนาพื้นที่เขตจังหวัดชายแดนภาคใต้อยากให้เน้นการพัฒนาเพื่อที่จะแก้ปัญหาความไม่สงบ
นางนฤมล กล่าวว่า ขณะเดียวกันมีข่าวดีเกี่ยวกับการผลิตวัคซีนสำหรับโควิด นายกฯฝากกระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม แพทย์ พยาบาล นักวิจัยทั้งหลายรวมถึงการเตรียมการเรื่องความพร้อมในการทดสอบวัคซีน โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูร รองนายกรัฐมนตรีและรมวสาธารณสุขระบุว่าจะต้องมีการทดลองใน 5,000 เคส อาจจะมีข้อจำกัดในประเทศไทยเพราะ ยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวนไม่มาก อาจจะขอความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอยู่ในแผนที่จะดำเนินการต่อไป
นางนฤมลกล่าวว่า ขณะเดียวกันยังมีเรื่องการประมวลผลข้าราชการ เช่น ก.พ.ร.น่าจะมีการพิจารณาประเมินผลแยกกันสำหรับข้าราชการในแต่ละประเภทในมิติต่างๆไม่ว่าจะเป็นผลงาน วิสัยทัศน์ ทัศนคติ ต้องมีเกณฑ์ที่แตกต่างกันออกไป ที่นายกฯเน้นย้ำกับครม.คือการรับฟังความคิดเห็น โดยนายกพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนไม่ใช่เฉพาะภาคเอกชนหรือภาคเศรษฐกิจ ยังไปรับฟังจากสื่อมวลชนและจะมีการเปิดเวทีรับฟัง จากประชาชนผ่านช่องทางต่างๆต่อไปรวมถึงและฟังเสียงสะท้อนจาก ส.ส.ที่เป็นตัวแทนประชาชนด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี