กองทัพอากาศ วอนสังคมเข้าใจ ทอ.ทำตามหน้าที่พิจารณาอากาศยานทหารเข้าประเทศเฉพาะเรื่องความมั่นคงเท่านั้น
เมื่อวันที่ 14 กรกฏาคม 2563 พล.อ.ท.พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย โฆษกกองทัพอากาศ (ทอ.) กล่าวถึงกรณีกองทัพอากาศ ตกเป็นจำเลยของสังคมหลังเปิดน่านฟ้าให้อากาศยานทหารอียิปต์เข้าประเทศไทยก่อนตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 และยังหนีออกจากโรงแรมไปเที่ยวห้างในจ.ระยอง ว่า ขั้นตอนคือสถานทูตของประเทศนั้นๆจะติดต่อไปยังกระทรวงต่างประเทศ และเมื่อกระทรวงต่างประเทศเห็นว่า เป็นเครื่องบินทหาร ก็จะประสานมายังกองทัพอากาศ พิจารณาว่า มีความขัดแย้งเรื่องความมั่นคงหรือไม่ หลังกองทัพอากาศตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่มีปัญหาเรื่องความมั่นคง และเคยมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ก็ตอบกลับไปยังกระทรวงต่างประเทศ ว่าไม่ขัดข้อง ถือเป็นการทำหน้าที่ตามปกติของกองทัพอากาศ ที่ต้องพิจารณาในส่วนที่ต้องรับผิดชอบ
“กองทัพอากาศ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้พิจารณาในกรณีที่เป็นเครื่องทหาร ว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง และเมื่อเครื่องมาลงในพื้นที่แล้ว ทุกอย่างต้องเข้าสู่มาตรการที่ได้กำหนดไว้ ไม่ใช่ว่า กองทัพอากาศมีอำนาจพิจารณาอยู่ในขอบเขตที่จำกัด” โฆษก ทอ. ระบุ
พร้อมระบุว่า สำหรับขั้นตอนการขอบินผ่าน และขึ้น ลงในประเทศไทย ของกองทัพอากาศ คือ 1.สถานเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ ส่งคําขอไปยังกระทรวงต่างประเทศ (กต.) 2.กต. พิจารณาเหตุผลความจําเป็นและทําหนังสือถึง กองทัพอากาศเพื่อขออนุมัติให้เครื่องบินทางทหารบินผ่านและขึ้นลงในประเทศไทย ภายใต้ข้อพิจารณาด้านความมั่นคงปลอดภัยทางการทหาร ความเป็น พันธมิตร:พันธะทางทหารที่มีต่อกัน
3.กองทัพอากาศพิจารณา กฎ ระเบียบ และข้อปฏิบัติทางทหารสอดรับกับอํานาจหน้าที่ที่รับผิดชอบ โดยมี หัวข้อการพิจารณา ดังนี้
3.1 การบินผ่าน และขึ้นลงในประเทศไทยอยู่ในความดูแลของบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย และ ศูนย์ยุทธการทางอากาศ กองทัพอากาศ ซึ่งเป็นไปตามกฎการบินสากล และไม่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
3.2 คําสั่ง คค.ที่ 90/2553 ลง 24 มีนาคม 2553 เรื่องมอบอํานาจตามมาตรา 29 แห่งพ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ.2497 ในการลงนามแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
3.3 อาศัยอํานาจตามความในมาตรา5 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 พระราชกําหนดการบริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ข้อ 3 การปิดช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักรไม่ว่าจะเป็น อากาศยาน เรือ รถยนต์ หรือพาหนะอื่นใด หรือในการใช้เส้นทางคมนาคม ไม่ว่าทางอากาศ ทางน้ํา หรือทางบก ยกเว้นเป็นผู้ควบคุมยานพาหนะ หรือเจ้าหน้าที่ที่ประจํายานพาหนะ ซึ่งจําเป็นต้องเดินทางเข้ามาตามภารกิจ และมีกําหนดเดินทางออกชัดเจน
และเมื่อกองทัพอากาศพิจารณาและลงนามอนุมัติเรียบร้อยแล้ว จะส่งเรื่องให้กระทรวงการต่างประเทศ ดําเนินการต่อไป จากนั้นกระทรวงการต่างประเทศส่งเรื่องให้สถานเอกอัครราชทูตของประเทศต่างๆ และสถานเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ ดําเนินการประสานสนามบินปลายทาง
นอกจากนี้สถานเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ กับกระทรวงการต่างประเทศจะต้องประสานกันเรื่องการป้องกัน โรคติดต่อให้เป็นไปตามพรก.ฉุกเฉินและตามประกาศ ข้อบังคับของศบค. และ ในการดําเนินการพิธีการตรวจคนเข้าเมือง จะมีศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยาน (EOC) ตรวจคัด กรองโรคติดต่อ และการดําเนินการด้าน State Quarantines/Local Quarantine ในการดูแลควบคุม ต่อไป
ภารกิจอากาศยานอียิปต์เป็นภารกิจบินเดินทางประจำในลักษณะของการบินของอากาศยานของรัฐ/State Aircraft จากต้นทางถึงปลายทาง เป็นความชอบธรรมทางกฎหมาย ในการขอลงจอดเพื่อเติมน้ำมัน พักเครื่องและลูกเรือ เฉกเช่น การบินของอากาศยานของประเทศไทย ที่สามารถจะประสานขอลงจอด พักเครื่องและลูกเรือ ในระหว่างต้นทาง ถึงปลายทางได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี