‘วิรไท’ปฏิเสธเก้าอี้รมต.
‘บิ๊กตู่’กุมขมับ
ควานหาทีมครม.เศรษฐกิจ
‘สมคิด’ขนของพ้นทำเนียบ
กมธ.งบขอแรง‘อุตตม’ช่วย
ประชุมใหญ่ปชป.ไม่ขยับที่นั่ง
ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ “วิรไท สันติประภพ” ปฏิเสธเข้าร่วม ครม.ชุดใหม่ในทีมเศรษฐกิจ เผยแจ้งให้นายกฯรับทราบแล้วขอบคุณที่ไว้วางใจ ในขณะที่กมธ.วิสามัญพิจารณางบปี 64 ส่งซิก”อุตตมะ”ช่วยกันดำเนินการให้จบ ด้าน”สมคิด-กองศักดิ์”ส่งทีมงานขนของพ้นทำเนียบ ในขณะที่ประชุมใหญ่ปชป.อาทิตย์นี้ ยังไม่เปลี่ยนโลโก้พรรค และไม่ขยับเก้าอี้รัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือผู้ว่าแบงค์ชาติ ซึ่งจะครบว่าระการดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการ ธปท. ในวันที่ 30 กันยายน 2563นี้ กล่าวถึงกรณีมีข่าวถูกทาบทามให้เข้าร่วมทีมเศรษฐกิจของคณะรัฐบาลชุดใหม่ว่าได้แจ้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมไห้ทราบแล้วว่าจะไม่เข้าร่วมการดำรงตำแหน่งแต่อย่างใด
“ผมได้เรียนขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี ที่ท่านไว้วางใจ และได้เรียนท่านไปตั้งแต่ต้นอาทิตย์ที่แล้วว่าคงไม่สามารถรับตำแหน่งใดได้”นายวิรไท กล่าว
ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่าจะปรับ ครม.ให้เสร็จสิ้นภายใน เดือนสิงหาคม โดยยอมรับว่ามีรายชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ออกมาบ้างแล้ว ในการทาบทาม นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย ไปแล้ว แต่ ยังไม่ได้ตอบกลับมา ขณะที่นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการ ธปท.ทางครอบครัวไม่อนุญาตให้เข้าร่วม ครม.
ส่วนนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้แจ้งปฎิเสธการเข้าร่วม ครม.ชุดใหม่ที่จะการปรับขึ้น แต่ยังคงปฏิบัติหน้าที่เป็นเลขาธิการ สศช.ตามปกติ และยังมีภารกิจสำคัญที่จะต้องดูแลและกลั่นกรองโครงการและแผนงานเงินกู้ 4 แสนล้านบาทให้แล้วเสร็จตามเป้าหมาย เมื่อเกษียณอายุราชการแล้ว ยินดีจะช่วยและสนับสนุนงานอยู่เบื้องหลังตามที่ได้รับมอบหมาย
สส.ดาวฤกษ์ให้กำลังใจบิ๊กตู่
น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรีที่กำลังจะมีขึ้นเร็ว ๆ นี้ว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ตนเน้นย้ำมาเสมอ ช่วงที่ผ่านมา ก็ถือเป็นความท้าทายของกระทรวงสาธารณสุข และในตอนนี้ก็คือเรื่องของเศรษฐกิจ ที่ประชาชนและภาคเอกชนก็คงจะจับตามองเป็นพิเศษ เท่าที่ตนทราบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้นำและหัวหน้าในคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องกอบกู้เศรษฐกิจของประเทศจากสถานการณ์โควิด -19 ที่ผ่านมา ต้องมีการบูรณาการจากทุกฝ่าย เพราะฉะนั้นบุคคลที่จะมาทำหน้าที่ต้องเป็นบุคลากรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ซึ่งพวกเราขอสนุบสนุนให้นายกรัฐมนตรี มองถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก บุคลากรที่จะเข้ามาขับเคลื่อนจะต้องเป็นที่ยอมรับของภาคเอกชน และเมื่อเข้ารับตำแหน่งจะต้องขับเคลื่อนงานได้เลยทันที
เมื่อถามถึงกรณีของนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีกระแสข่าวจะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) น.ส.วทันยา กล่าวว่า ทุกๆรายชื่อแคนดิเดตรัฐมนตรีในขณะนี้ ตนก็เห็นว่าแต่ละท่านมีความรู้ความสามารถ นายฐากร ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญ เป็นผู้บริหาร กสทช.มายาวนาน จึงมีความรู้ความเข้าใจ และภาคเอกชนก็น่าจะมีความเชื่อมั่น แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจทั้งสิ้น
เมื่อถามว่ากลุ่ม ส.ส.ดาวกฤษ์จะมีรายชื่อเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ น.ส.วทันยา กล่าวว่า อย่างที่ตนเน้นย้ำมาตลอด ปัญหาของประชาชนวันนี้มีมากมาย เราต้องการเข้ามาแก้ไข ตนเคยพูดแล้วว่า ถึงแม้จะมีการเสนอตำแหน่งใด ๆ ให้ พวกเราก็จะไม่ขอรับ แต่จะขอทำหน้าที่ ส.ส.ในวันนี้ให้ดีที่สุด ซึ่งสิ่งที่ ส.ส.พรรคทำได้ในตอนนี้คือการสรับสนุนให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี ให้สรรหาบุคลากรที่จะสามารถมาช่วยผ่านวิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้ให้ได้
เมื่อถามถึงการตั้งพรรคกับกลุ่ม 4 กุมาร น.ส.วทันยา กล่าวว่า ตนยังไม่ได้มองไปถึงตรงนั้น และยังไม่ได้มีการพูดคุยใด ๆ ในเรื่องนี้ เพราะวันนี้เรายังตั้งใจทำงานในฐานะ ส.ส. เพื่อทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
กมธ.งบ64พอใจทำงาน7วัน
ด้านนายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ ในฐานะกรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพรบ.งบประมาญประจำปี 2564 เผยว่าในที่ประชุมคณะกรรมาธิการเมื่อวันที่ 17 กค.ได้มีการพูดถึงการประชุมในช่วง 7 วันแรกที่ ได้พิจารณาภาพรวมไปแล้ว โดยกรรมาธิการทุกท่านมีความพอใจในการชี้แจงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของแต่ละกระทรวง ซึ่งกรรมาธิการได้ให้ข้อเสนอแนะและความเห็นต่อการปฏิบัติงานของผู้รับผิดชอบต่องบประมาณและเมื่อพิจารณาภาพรวมหมดแล้ว กรรมาธิการก็จะมีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการพิจารณารายละเอียดต่อไป
มั่นใจปมอุตตมไม่กระทบงานกมธ.งบ
เมื่อถามถึงกรณีที่นายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง ที่ลาออก จะกระทบต่อการทำหน้าที่ประธานคณะกมธ.งบฯหรือไม่ นายสัมพันธ์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบนายอุตตมยังไม่ได้ยื่นหนังสือลาออกจากประธานคณะกรรมาธิการฯซึ่งตามกระบวนการต้องยื่นหนังสือต่อเลขานุการคณะกรรมาธิการฯ แล้วจึงจะเลือกประธานคณะกรรมาธิการฯคนใหม่ซึ่งตามกฎหมายแล้วท่านอุตตมไม่จำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่งประธาน กมธ.ก็ได้เช่นกัน เพราะสามารถดำรงตำแหน่งในสัดส่วนบุคคลภายนอกได้ แต่สุดท้ายแล้วก็คงต้องอยู่ที่ท่านอุตตม จะเป็นคนตัดสินใจ แต่ตนเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการทำงานของ กมธ.อย่างแน่นอน เพราะในชั้นของ กมธ.สามารถมีการสลับสับเปลี่ยนกันได้
‘สมคิด-กอบศักดิ์’ทยอยเก็บของ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงเช้า ได้มีรถ 6 ล้อของบริษัทรับจ้างขนของ เข้ามายังตึกบัญชาการ1ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขนของและเอกสารต่างๆในห้องของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี หลังจากยื่นลาออกพร้อม 3 อดีตรัฐมนตรีในกลุ่ม4กุมารโดย คณะทำงานของนายสมคิดได้จ้างมาขนเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ รวมถึงเอกสารต่างๆออกจากห้องทำงาน
ขณะที่ช่วงสายๆนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อทยอยเก็บข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เช่นเดียวกันส่วนใหญ่เป็นหนังสือ และต้นไม้ เพื่อนำกลับไปดูแลต่อที่บ้านซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 1ชั่วโมง ทางคณะทีมงานได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่า ขอเวลาเก็บของและเคลียร์ห้อง 1 สัปดาห์ ก่อนคืนห้อง เนื่องจากมีเอกสารจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลาในการเคลียร์พอสมควร
ปชป.ยังไม่พูดปรับครม.พรรค
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องปรับเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคเพราะต้องเข้าใจว่าโดยหลักอำนาจการปรับคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ส่วนของพรรคยืนยันว่ารัฐมนตรีทุกคนมีผลงานจากการทำหน้าที่ ไม่มีความด่างพร้อย ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ทุกคนทุ่มเททำงานให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ และที่สำคัญ พรรคมีขั้นตอนในการคัดเลือกบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี
ปัดข่าว’ตั๊น’เตรียมตัวนั่งรมต.
“พรรคไม่ได้กังวลเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีในส่วนของพรรคในฐานะสถาบันการเมือง เราคิดถึงประโยชน์ของประชาชนและประเทศมากกว่า รัฐมนตรีทุกคนตระหนักในหน้าที่ มุ่งทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ที่สุด” นายราเมศ กล่าว
ส่วนกรณีของ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่มีกระแสข่าวว่าจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีนั้น นายราเมศ กล่าวว่า เจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ขณะนี้ขอทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ดีที่สุด
ยังไม่มีเปลี่ยนโลโก้พรรค
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวถึงกระแสข่าวเปลี่ยนสัญลักษณ์ของพรรคโดยตัดรวงข้าวล้อมรอบและตัดตำว่า“สัจจังเว อมตา วาจา”ใต้พระแม่ธรณีบีบมวยผม ออกนั้นว่า ไม่เป็นความจริง สัญลักษณ์พรรค หรือ ที่เรียกว่าโลโก้พรรค ยังคงเป็นเหมือนเดิม เรื่องนี้ เป็นเรื่องสำคัญมีระบุไว้ชัดเจนในข้อบังคับพรรคข้อที่ 5และไม่มีการยื่นเสนอเพื่อขอแก้ไขแต่อย่างใด
ที่ปรากฏในทางโซเชียล เป็นการใช้รูปแบบในนำการสื่อสาร เป็นเทคนิควิธีการของทีมโซเชียลมีเดียพรรคซึ่งมีการใช้สัญลักษณ์ที่แตกต่างกันไป บางครั้งมีการทำเสื้อหรือของที่ระลึกก็จะมีการปรับเปลี่ยน เช่น เป็นรูปตัว D แล้วมีพระแม่ธรณีบีบมวยผมอยู่ตรงกลาง ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยน ขอให้สมาชิกสบายใจได้
ประชุมใหญ่ปชป.ไร้ซ่อนเร้น
ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่19ก.ค.นี้ที่โรงแรมรามาการ์เด้น ถนนวิภาวดีรังสิตว่าคงเป็นเพียงวาระการประชุมตามข้อบังคับพรรค และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา43 และมาตรา61 โดยมีวาระสำคัญที่ต้องพิจารณาคือการรับรองงบการเงินของพรรคประจำปี2562 รายงานผลดำเนินการของพรรคในรอบปีที่ผ่านมา เลือกตั้งซ่อมตำแหน่งเหรัญญิกพรรค แทนนายอภิชัย เตชะอุบล ที่ลาออกไป รับรองแผนงานหรือโครงการที่จะดำเนินกิจกรรมของพรรคในปีต่อไป ถ้าหากจะมีการแสดงความเห็นอื่นใดเพิ่มเติม ก็น่าจะเป็นเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ผลการดำเนินงานของพรรคในรอบปีที่ผ่านมา และแผนงานของพรรคในปีต่อไปเท่านั้น ไม่น่าจะมีวาระซ่อนเร้นอะไรเป็นพิเศษ
ระบุ’อันวาร์’มีสิทธิ์แสดงจุดยืน
ส่วนกรณีการแสดงความเห็นของนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี รองเลขาธิการพรรคนั้น ก็น่าจะเป็นเพียงการแสดงจุดยืนของนายอันวาร์ ที่ได้ประกาศจุดยืนของตัวเองมาโดยตลอด และได้เคยทำจดหมายเปิดผนึกถึงหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคมาแล้ว ถ้าหากในวันพรุ่งนี้ นายอันวาร์ จะนำเสนอประเด็นเรื่องการทบทวนอุดมการณ์ของพรรคหรือจุดยืนทางการเมืองของพรรคเพื่อให้ที่ประชุมพิจารณาอภิปรายกัน ก็เป็นสิทธิ์สามารถทำได้ในฐานะสมาชิกพรรคที่เป็นองค์ประชุมคนหนึ่ง และ อาจจะมีสมาชิกพรรคคนอื่นๆผสมโรงแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมด้วยก็ได้ แต่ทั้งหมด ก็น่าจะอยู่ในกรอบเรื่องแผนงานกิจกรรมของพรรคเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี ในส่วนของพรรค หรือ การประเมินผลงานรัฐมนตรีของพรรคแต่อย่างใด
ประเมินผลงานรมต.เสร็จสัปดาห์นี้
เพราะการประเมินผลงานของรัฐมนตรีแต่ละคนนั้นเป็นเรื่องภายในของพรรค ที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคได้มีข้อตกลงกับที่ประชุมการสัมมนา ที่เกาะเสม็ดว่า จะมีการประเมินผลให้แล้วเสร็จภายใน2สัปดาห์ซึ่งจะครบกำหนดภายในสัปดาห์นี้ และจะต้องนำผลการประเมินผลงานรัฐมนตรีแต่ละคนเสนอต่อที่ประชุม ส.ส.เพื่อพิจารณาร่วมกับกรรมการบริหารพรรค ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเวลาการปรับคณะรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ประกาศกำหนดเวลาการปรับคณะรัฐมนตรีให้เสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้ซึ่งสอดคล้องกับห้วงเวลาการประเมินผลงานรัฐมนตรีของพรรคพอดี “จึงไม่สามารถปฎิเสธได้ว่าการประเมินผลงานรัฐมนตรีของพรรคในครั้งนี้ จะไม่เกี่ยวข้องกับการปรับ ครม.ของรัฐบาล แต่ปัจจัยการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีของพรรค จะเกิดขึ้นหรือไม่ ต้องรอผลการประเมินผลงานรัฐมนตรีจากพรรคเสียก่อน”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี