‘ยิ่งลักษณ์’ครวญ
เดือนเดียวปปช.ชี้มูล2คดี
เร่งรัดเอาผิดฝ่ายตรงข้าม
ทั้งที่ควรไปสอบรบ.บิ๊กตู่
ปมจัดงบแก้วิกฤติโควิด
ปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โอดครวญป.ป.ช.ขยันเร่งรัดคดีตัวเองฝ่ายเดียว ชี้เดือนเดียวชี้มูล 2 ดอก พ้อโหยหาความยุติธรรมบ้านเมืองพอๆ กับความยุติธรรมของตัวเอง ด้าน“นิวัฒน์ธำรง” ยันโครงการโรดโชว์ดําเนินการอย่างถูกต้องตามกม.และระเบียบราชการเชื่อจะได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรม
เมื่อวันที่ 23กรกฎาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ตนได้เห็นข่าวที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดเรื่องดำเนินการจัดนิทรรศการ การสัมมนา และการโฆษณาประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับ “โครงการ Roadshow สร้างอนาคตไทย Thailand 2020” วงเงิน 240 ล้านบาท โดยมิชอบนั้น ทำให้ตนเกิดความสงสัยและขอตั้งข้อสังเกตกับ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า มีความขยันในการเร่งรัดคดีตน ฝ่ายเดียว เพราะภายในเดือนนี้เดือนเดียว ป.ป.ช. ก็มีการชี้มูลความผิดกับตน ถึง 2 คดีติดๆกัน โดยวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ชี้มูลเรื่องการใช้อำนาจโอน นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำโดยมิชอบ และเมื่อวานที่ผ่านมาก็ถูกชี้มูลในคดีนี้อีก
ซึ่งผิดกับคดีที่ฝ่ายรัฐบาลปัจจุบันถูกร้อง และขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ดูเหมือน ป.ป.ช. จะให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลปัจจุบันมากเป็นพิเศษในหลายคดี ทั้งๆ ที่เป็นคดีที่สังคมเกิดข้อกังขาและตั้งข้อสงสัยมากมายกับการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.และผลการพิจารณาหลายคดี ก็ค้านกับความรู้สึกของประชาชน วันนี้แทนที่ ป.ป.ช. จะให้ความสำคัญกับการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะการจัดสรรงบประมาณและการใช้จ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่กำลังได้รับความเดือดร้อนทั้งจากปัญหาทางเศรษฐกิจ ปากท้อง และปัญหาโควิด-19 ที่รอการแก้ไข แต่กลับมาเร่งรัด เร่งรีบ กับคดีของฝ่ายที่เห็นต่างและคิดว่าอยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุอีกว่า สำหรับคดีแรก กรณีการย้ายนายถวิล ตนมิได้เจตนาที่จะกลั่นแกล้งผู้หนึ่งผู้ใด เพราะการที่คณะรัฐมนตรีหรือรัฐบาลหนึ่งรัฐบาลใดใช้อำนาจโยกย้ายข้าราชการโดยเฉพาะผู้ปฏิบัติหน้าที่งานด้านความมั่นคงซึ่งต้องเป็นที่เชื่อถือและไว้วางใจของรัฐบาลทุกรัฐบาลที่ได้กระทำกัน ซึ่งหลังจากที่ดิฉันหมดหน้าที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มีการโยกย้ายข้าราชการอย่างมากมายแต่กลับไม่มีความผิดเพราะมีมาตรา 44 คุ้มครอง และคดีนี้มาจากการที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 57 เพื่อให้ตนพ้นจากหน้าที่ความเป็นนายกรัฐมนตรี และวันรุ่งขึ้น 8 พฤษภาคม 57 ป.ป.ช. ก็ชี้มูลเรื่องคดีจำนำข้าวโดยเร่งรัด ต่อมาเดือนเดียวกัน วันที่ 22 พฤษภาคม 57 ได้มีการปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้นจนทำให้เกิดปัญหามาจนถึงทุกวันนี้ ที่ประชาชนต้องเรียกหาความยุติธรรมและประชาธิปไตย ไม่จบสิ้น ส่วนเรื่องจัดทำโครงการโรดโชว์สร้างอนาคตไทย สืบเนื่องจากรัฐบาลของตนเสนอนโยบายสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง และโครงสร้างพื้นฐานอีกหลายเรื่องโดยการออกร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงการพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ….. หรือที่เรียกว่า ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านเป็นโครงการที่ทำให้เกิดการรับรู้และรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายที่ถูกต้อง เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ไม่มีเรื่องทุจริตประพฤติมิชอบใด ๆ ต่อมารัฐบาลชุดปัจจุบันก็นำโครงการนี้มาดำเนินการต่อ และวันนี้รัฐบาลปัจจุบันก็จำเป็นต้องออกนโยบายโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน ซึ่งมากกว่ารัฐบาลดิฉันโดยปราศจากการท้วงติงหรือการตรวจสอบจาก ป.ป.ช.
“ทุกวันนี้ดิฉันใช้ชีวิตอย่างเงียบ ๆ ในต่างประเทศอย่างปุถุชนคนทั่วไป แต่ยังต้องมาถูกกล่าวหาในทางอาญา 2 เรื่อง ติดต่อกันในเวลาไม่ถึง 1 เดือนอีก เพื่อให้มีการพิจารณาคดีลับหลังดิฉันทำให้อดคิดไม่ได้ว่าสถานการณ์บ้านเมืองในวันนี้ช่างสอดคล้องหรือเหมือนกับความโชคร้ายในชีวิตของดิฉัน ที่โหยหาความยุติธรรมว่าเมื่อไหร่จะเกิดขึ้นกับบ้านเมืองอันเป็นที่รักของดิฉันเช่นกันเสียที ดิฉันไม่อยากให้ความยุติธรรมต้องเลือกข้าง ความยุติธรรมต้องไม่เหลื่อมล้ำ ถ้าเป็นนักการเมืองหรืออดีตนักการเมืองฝ่ายหนึ่งทำอะไรก็ผิดเสมอ แต่อีกฝ่ายทำอะไรไม่ผิดเลย ซึ่งขัดต่อหลักนิติธรรมเสียแล้ว ไม่วันใดก็วันหนึ่งความศรัทธา ความเชื่อมั่นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. อาจหมดสิ้นไป” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุ
ด้านนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกปปช.ชี้มูล ชี้มูลความผิดโครงการโรดโชว์ สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 ด้วย กล่าวว่า โครงการดังกล่าวนั้น เป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา อีกทั้งกฎหมายรัฐธรรมนูญ ยังกําหนดว่าโครงการขนาดใหญ่ที่มีผลกระทบต่อประชาชนจํานวนมาก จะต้องมีการดําเนินการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจ และสํารวจความคิดเห็นของประชาชนอย่างทั่วถึง
ดังนั้นรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงได้ดําเนินโครงการฯ ดังกล่าวตามกฎหมาย และการดําเนินการจัดจ้างผู้ทําโครงการ โรดโชว์ ได้กระทําอย่างถูกต้องตามระเบียบว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 กฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องทุกประการ โดยสามารถยืนยันได้เพราะได้รับการตรวจสอบจาก คณะกรรมการติดตาม และตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) และสํานักเลขาธิการ นายกรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าโครงการสรุป โรดโชว์ ได้ดําเนินการมาถูกต้อง และได้อนุมัติจ่ายค่าจ้างการจัดทําโครงการให้กับเอกชน
“ผมขอยืนยันว่าการดําเนินการในการจัดจ้างดังกล่าวนั้น ผมในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ได้ดําเนินการไปตามอํานาจหน้าที่ ตามระเบียบ และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างระมัดระวัง และรอบคอบทุกประการ ได้กระทําด้วยความสุจริต บริสุทธิ์ใจ มิได้ทําเพื่อประโยชน์ส่วนตน หรือประโยชน์ของบุคคลใด หากแต่ได้คํานึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นที่ตั้ง ทั้งนี้ ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงให้เป็นที่ประจักษ์ว่าการดำเนินโครงการโรดโชว์ ได้ดําเนินการอย่างถูกต้องตามข้อกฎหมาย และระเบียบราชการทุกประการ และผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรมในขั้นตอนสํานักงานอัยการสูงสุด และกระบวนการทางศาลต่อไป” นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี