“ก้าวไกล” เผย 3 เหตุผล ไม่ร่วมกมธ.รับฟังความเห็นนศ. ซัดรัฐบาล แค่ข้ออ้างถ่วงเวลา ถาม “บิ๊กตู่” เดินสายพบสื่อได้ ทำไมไม่กล้าพบนักศึกษา
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล พร้อมส.ส.พรรคก้าวไกล ร่วมแถลงถึงเหตุผลที่พรรคก้าวไกลไม่ร่วมเป็นคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญรับฟังความคิดเห็นนักศึกษา โดยนายวิโรจน์ กล่าวว่า จุดตัดสินใจสำคัญอยู่ที่เหตุผล 3 ข้อ คือ 1. รายงานข้อเสนอในประชุมอภิปรายเมื่อวานนี้(23 ก.ค.) ฝ่ายรัฐบาลยังพิจารณาไม่เห็นชอบเลย แม้จะส่งรายงานการประชุมอภิปรายให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชารับฟังก็ยังไม่รับฟัง แล้วจะมาตั้งกมธ.เพื่ออะไร 2.ข้อเสนอของนักเรียนนักศึกษา 3 ข้อให้ ยุบสภา หยุดคุกคาม และแก้ไขรัฐธรรมนูญ ล้วนเป็นข้อเสนอโดยตรงต่อนายกรัฐมนตรีทั้งสิ้น โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ต้องถามว่าเราเห็นแสงสว่างบ้างไหมว่าจะได้เริ่มแก้รัฐธรรมนูญเมื่อไหร่ คำตอบคือไม่มีเลย
“ข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อของนักศึกษา ล้วนเป็นข้อเรียกร้องต่อนายกทั้งสิ้น ในเมื่อนายกฯเดินสายพบสื่อได้ ทำไมจะพบนักศึกษาไม่ได้ ทำไมต้องให้มีตัวกลางเข้าไปถ่วงเวลาสร้างกระบวนการต่างๆขึ้นมา นี่เป็นเพราะแม้แต่รายงานอภิปรายในจุดเริ่มต้นท่านยังไม่ฟังเลย” นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า 3.สภาผู้แทนราษฎรมีกลไกคณะกมธ.พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล เป็นประธานกมธ. ซึ่งเป็นกลไกที่สามารถรับฟังความเห็นประชาชนได้อยู่แล้วและมีฝ่ายค้านเป็นเสียงข้างมาก แต่หากตั้งกมธ.วิสามัญขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง จะเป็นการดึงเอาเสียงข้างมากจากฝั่งรัฐบาลเข้ามา และซ้ำซ้อนกับคณะกมธ.ที่มีอยู่แล้ว
ด้านนายปดิพัทธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวว่า กมธ.ได้เริ่มรับฟังความเห็นนักศึกษามาตั้งแต่แฟลชม็อบครั้งแรก ก่อนสถานการณ์โควิด-19 แต่ต่อมาสภาฯ ประกาศงดใช้ห้องประชุมก่อน นักศึกษาจึงกลับไป ซึ่งสิ่งที่สะท้อนคือไม่เชื่อมั่นกลไกรัฐสภา และยังถูกข่มขู่ทุกวันทั้ง อย่างเป็นทางการโดยใช้กฎหมายกดขี่ดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม และผลกระทบอย่างไม่เป็นทางการ เช่น การถูกลงโทษจากสถาบันการศึกษาต้นสังกัด ทั้งที่ควรจะจัดพื้นที่ปลอดภัยให้นักศึกษาได้ชุมนุม
นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่กมธ.จะทำคือลงไปสังเกตการณ์การชุมนุมของนักศึกษาว่ามีการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ผิดต่ออำนาจหน้าที่หรือไม่ โดยจะเข้าสังเกตการณ์ทั้งฝ่ายสนับสนุนและต่อต้านรัฐบาล และผู้ที่เคลื่อนไหวทางการเมือง หากมีการคุกคามหรือกดดันส่งเรื่องร้องเรียนมาที่คณะกมธ.ได้ และจะเอาจริงเอาจังตรวจสอบอำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งจริงแล้วจะมีการจัดกิจกรรมและความเห็นที่จังหวัดพิษณุโลก วันเสาร์นี้ แต่ก็ถูกกดดันโดยตำรวจและ กอ.รมน. ในพื้นที่
“ถ้ารัฐบาลยังไม่จริงใจในเรื่องนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมจะไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะมันเหมือนกับตบหัวแล้วลูบหลังซ้ำไปซ้ำมา ดูถูกสติปัญญาประชาชน ในเวลาที่ประเทศกำลังเผชิญวิกฤตศรัทธาแบบนี้ เป็นช่วงที่เจ้าหน้าที่รัฐที่รับภาษีของประชาชนต้องมากอบกู้โดยร่วมมือกับประชาชน อยู่กับประชาชนผ่านวิกฤตนี้ให้ได้ และเป็นทางออกทางเดียวที่จะพิสูจน์กับทุกฝ่ายได้” นายปดิพัทธ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี