วันที่ 28 กรกฎาคม 2563 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ขอเตือนสติ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ว่าทุกวันนี้กฎหมายมีความเสมอภาคบังคับใช้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมแต่มีคนบางกลุ่มไม่ยอมรับกฎหมาย โดย นายธนาธร ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษาตัดสิทธ์ทางการเมือง 10 ปีแต่ก็ไม่ทำตามและยังออกมาแสดงความเห็นต่อสื่อมวลชนว่าความยุติธรรมเป็นเสาหลักสุดท้ายของสังคม ในภาวะประชาชนหมดศรัทธากับสถาบันองค์กรการเมืองต่างๆ หมดศรัทธากระบวนการยุติธรรมจะทำให้สังคมล่มสลาย โดยความยุติธรรมเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชนได้อย่างไร
นายสามารถ กล่าวอีกว่า ตนมองว่าความยุติธรรมเป็นสิ่งที่ทุกคนเห็นพ้องตรงกัน ซึ่งรัฐบาลภายใต้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และทุกรัฐบาลในอดีตจะอยู่ได้ก็ต้องมีความยุติธรรม ดั่งคำว่า “ยุติธรรมเป็นที่พึ่งของประชาชน” ทั้งนี้ นายธนาธร ได้ออกมาให้ความคิดเห็นและพยายามโน้มน้าวให้ประชาชนเข้าใจถึงระบบกระบวนการยุติธรรมที่ผิดนั้นเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ตนจึงต้องขอชี้แจ้งให้ประชาชนได้รับทราบว่า เรื่องนี้
"พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทราบเรื่องแล้วก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีดังกล่าว ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เซ็นคำสั่งตรวจชุดสอบข้อเท็จจริงแล้วเพื่อทำความจริง ให้ปรากฏแก่พี่น้องประชาชนอย่างแน่นอนส่วนทางด้านสำนักงานอัยการสูงสุดซึ่งเป็นองค์กรอิสระ และมีความอิสระที่จะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องคดีแต่ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด ก็ไม่นิ่งนอนใจและมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเช่นเดียวกัน"
นายสามารถ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ นายธนาธร ได้ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครของคณะก้าวหน้าหาเสียง อบจ. หรือการเมืองท้องถิ่นนั้น เป็นสิ่งที่ชาวบ้านมาบอกตนว่าเป็นการกระทำขัดกฎหมายหรือไม่อย่างไร ตนก็สงสัยและยังเห็นนายธนาธรมาให้สัมภาษณ์เรื่องกระบวนการยุติธรรมอีก ซึ่งสะท้อนคำสุภาษิตว่า “จุดใต้ตำตอ” คือ พูดหรือทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งและบังเอิญไปโดนผู้พูดโดยไม่รู้ตัว เพื่อเตือนสติ นายธนาธรตนจึงออกมาเตือนสติ อย่างไรก็ตาม บ้านมีกฎบ้าน เมืองมีกฎเมือง ถ้ามาอยู่ร่วมกันต้องเคารพกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมเป็นสิ่งที่เชื่อถือยึดมั่นตนจึงอยากให้นายธนาธร ปฏิบัติตัวภายใต้กฏหมายน้อมรับคำพิพากษาของศาล เป็นตัวอย่างให้คนรุ่นใหม่ ให้เยาวชนดูเป็นแบบอย่างที่ดี ส่วนคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส นั้นกระบวนการยังไม่ถึงศาล ยังอยู่ขั้นตอนระหว่างพนักงานตำรวจและพนักงานอัยการ แต่การที่มาบอกศาลไม่ยุติธรรม หรือคุกไว้ขังคนจนนั้น นายธนาธร คงเข้าใจผิด ตนอยากชี้แจงว่าภายใต้รัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ นั้นเน้นเรื่องให้ความสำคัญกับคนจนเป็นเรื่องหลัก มีการออก พรบ ไกล่เกลี่ยฯ พ.ศ.2562 ก็เพื่อลดขั้นตอนการฟ้องคดี ลดค่าใช้จ่ายในการกำเนิดการในกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ รมว ยุติธรรม นาย สมศักดิ์ เทพสุทิน ได้เน้นยุติธรรมเชิงรุกสร้างสุขให้ประชาชน มีกองทุนยุติธรรมที่จะเข้าไปช่วยเหลือคนจน ทั้งค่าทนาย เงินประกันตัว ค่าธรรมเนียมศาล ค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมพยานหลักฐาน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ครับ
ตนอยากบอกนายธนาธรว่า กรณีผู้ที่ถึงแก่ความตายจากการกระทำผิดอาญาและได้มีการดำเนินคดีโดยพนักงานสอบสวนจนถึงพนักงานอัยการแล้วพนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดี สามีหรือภรรยาของผู้เสียชีวิต ซึ่งถือเป็นผู้เสียหายก็ยังมีสิทธิที่จะฟ้องคดีด้วยตนเอง ภายในกำหนดอายุความในคดีอาญานั้น
ทั้งนี้ หากผู้เสียหายมีความประสงค์ฟ้องคดีก็สามารถยื่นคำขอต่อกองทุนยุติธรรมเพื่อให้ความช่วยเหลือการใช้สิทธิทางศาลดังกล่าวได้
เหนือสิ่งอื่นใด ตนอยากให้นายธนาธร น้อมรับคำพิพากษาและยึดปฏิบัติตามคำพิพากษาปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีเป็นต้นแบบที่แท้จริงให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่เพื่อจะได้เดินในทิศทางที่ดีเพื่อประเทศชาติต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี