“ไพบูลย์” เผยเปิดสภาสมัยหน้า เป็นช่วงเวลาเหมาะสมแก้รธน.ปัดให้ความเห็นแก้ประเด็นไหนบ้าง รอกมธ.เสนอสภาฯและส.ส.ได้ร่วมอภิปรายก่อน
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2563 นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าหลังจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 สภาผู้แทนราษฎ นำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่สภาแล้ว หลังจากนั้นส.ส.ของพรรค รวมถึงส.ส.จากทุกพรรคก็จะมีการอภิปรายแสดงความคิดเห็นแล้วจากนั้นทักก็จะมีการประชุมและต้องแก้ไขกันรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า กำหนดการเข้าคร่าวๆยังเป็นต้นเดือนกันยายนเหมือนเดิมหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า น่าจะเป็นอย่างนั้นตอนนี้รอให้มีการเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาและส.ส.อภิปรายก่อน ซึ่งมันจะมีประเด็นมากมายและพรรคพลังประชารัฐจะจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาหลังจากนั้นทันที
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยถึงแนวทางคร่าวๆหรือไม่ โดยเฉพาะควรจะมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.)ขึ้นมาร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่าเราจะไม่พูดหรือไม่ตั้งอะไรไว้ทั้งสิ้น อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนก่อน คือการนำเข้าสู่สภา แล้วส.ส.ได้อภิปรายก่อน เมื่อถามว่าหากไม่เตรียมไว้ก่อนเมื่อถึงเวลาอาจจะตั้งรับไม่ทัน นายไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาเพราะกรรมาธิการเวลาเสนอประเด็นต่างๆจะเขียนไว้ครบถ้วนอยู่แล้วเพียงแค่มาอภิปรายกันภายในพรรคหรือในพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะเอาประเด็นไหนบ้างจากรายงานของคณะกรรมาธิการเท่านั้น
เมื่อถามว่า ทางสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)ได้แสดงความเห็นในลักษณะไม่เห็นด้วยกับการตั้งสสร.ตรงนี้จะมีผลทำให้การแก้ไขลำบากหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่าไม่ทราบ เป็นเรื่องของอีกสภาหนึ่งแล้ว เรามองเฉพาะในส่วนของสภาผู้แทนฯซึ่งคณะกรรมาธิการที่ตั้งขึ้นก็เป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญในส่วนของสภาผู้แทนฯเท่านั้น เมื่อถามต่อว่าแต่ถึงอย่างไร เสียงของส.ว.ก็มีผลต่อรัฐบาล นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเราตกผลึกเป็นขั้นๆ ไปดีกว่า ในชั้นแรกต้องให้ตกผลึกในสภาผู้แทนราษฎรก่อนแล้วจึงมาในพรรคและในพรรคร่วมรัฐบาลจากนั้นจึงจะไปคุยกับส.ว.
เมื่อถามว่า ขอบเขตกว้างๆที่จะเสนอต่อสภาจะมีประมาณไหน นายไพบูลย์กล่าวว่าในส่วนของกรรมาธิการมีประเด็นกว้างขวางมาก ตั้งแต่หมวดสิทธิเสรีภาพ ซึ่งมีประเด็นที่ต้องแก้ไขทุกหมวด และคณะกรรมาธิการฯก็จะตั้งคณะทำงานขึ้นมายกร่างและจะมีการนำความเห็นของบุคคลต่างๆ ที่ต้องการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่ละหมวดๆ ของแต่ละคนบันทึกไว้ให้หมด ซึ่งประเด็นทั้งหมดก็จะชัดเจนส่วนคณะอนุกรรมาธิการศึกษาบทบัญญัติที่ตนเป็นประธานก็จะยกประเด็นให้ชัดและอาจจะโยงไปถึงว่าไปเกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญมาตราไหนและพอเข้าสู่สภาฯ ส.ส.จะมีการอภิปรายกันอย่างกว้างกวางมาก ก็จะมีประเด็นแตกออกไปอีก
นายไพบูลย์ กล่าวว่า ทั้งนี้ในส่วนของกรรมาธิการฯ เมื่อส.ส.อภิปรายกันครบถ้วนแล้วก็จะรวบรวมส่งรายงานไปให้รัฐบาลจากนั้นรัฐบาลก็จะนำไปศึกษาซึ่งในระหว่างนี้พรรคร่วมรัฐบาลก็จะมาคุยกันว่าจุดยืนจะเป็นอย่างไร
“ผมเชื่อว่าสมัยประชุมนี้ซึ่งปิดสมัยประชุมวันที่ 18 กันยายน และจะเปิดใหม่วันที่ 1 พ.ย.ซึ่งอีกแค่ 40 วัน โดยผมเห็นว่าในวันที่ 1 พ.ย.ก็น่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสมของรัฐสภาที่จะมีการยกเรื่องของญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใดฉบับหนึ่งหรือหลายฉบับขึ้นมาพิจารณาซึ่งผมเชื่อว่าต้นเดือนพฤศจิกายน น่าจะได้เห็นการพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ” นายไพบูลย์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี