“บิ๊กตู่”ยันรัฐบาล พยายามทำอย่างละมุนละม่อม “วอน” อย่าทำให้บ้านเมืองไม่สงบ “เชื่อ” การชุมนุมของนักศึกษามีคนอยู่เบื้องหลัง “ไม่สน” แถลงการณ์หนุนจาก 105 คณาจารย์ “เย้ย” ประเทศไทยมีคนเก่งอีกเป็นหมื่นคน
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 เวลา13.45 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเท็จจริงกรณีการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษามีการโพสต์สื่อโซเชียลอ้างว่า รัฐบาลส่งเจ้าหน้าที่ติดตาม เพื่อที่จะจับกุมว่า เรื่องนี้ก็เป็นการโพสต์ข้อความใครก็เขียนได้ โดยเฉพาะข้อกล่าวหาที่ว่า รัฐบาลส่งเจ้าหน้าที่ติดตามเพื่อจับกุม ถามว่า แล้วจับหรือยัง ถ้าทำความผิด ละเมิดกฎหมายแล้วจะต้องทำอย่างไร เรื่องนี้ประชาชนส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยเห็นด้วยที่รัฐบาลที่อาจจะไม่ บังคับใช้กฎหมาย เรื่องแบบนี้มี 2 ทางเสมอ รัฐบาลก็พยายามระมัดระวังอย่างยิ่ง
“ขอบอกว่า อย่าให้ใช้โอกาสนี้ในการทำให้บ้านเมืองไม่สงบก็แล้วกัน ต้องดูหลาย ๆ อย่าง ต้องไปดูข้อเท็จจริงว่ามีใครอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า บริสุทธิ์ใจหรือไม่ การชุมนุมตามสิทธิขั้นพื้นฐานก็ต้องไปดูว่าการชุมนุมสามารถชุมนุมได้ แต่ละเมิดกฎหมายหรือไม่ก็ต้องไปดูตามกฎหมายที่มีอยู่ เพราะฉะนั้นจะทำอะไรก็ขอให้ใช้ข้อเท็จจริงในเชิงประจักษ์ ซึ่งทุกคนก็คงทราบดีอยู่แล้ว วันนี้การพูดจาผมเองก็ไม่อยากไปพูดให้เกิดปัญหาอีก ดังนั้นต้องหาวิธีในการแก้ปัญหาอย่างละมุนละม่อม” นายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกลุ่มนักวิชาการและคณาจารย์ จำนวน 105 คน ที่ออกแถลงการณ์สนับสนุนข้อเรียกร้องของกลุ่มนักศึกษาที่ผ่านมา ว่า “ก็เป็นเรื่องของท่าน ผมหวังว่า ในประเทศไทยเราคงไม่มีนักวิชาการเพียง 105 คน เราจะมีคนเก่งเพียงเท่านี้หรือ เรามีอีกตั้งเป็นพัน เป็นหมื่นคน ก็ต้องดูว่า คนเหล่านั้นมีความคิดเห็นอย่างไรก็ต้องว่ากันมา แต่ข้อสำคัญก็ต้องไม่ไปก้าวล่วงหรือล่วงละเมิดอะไรต่างๆ ผมว่า มันไม่ใช่ประเทศไทยหรอก แบบนั้น และผมไม่แปลกใจรายชื่อตรงนี้ที่ผมเห็น เพราะแนวความคิดและการขับเคลื่อนของเขาที่ผ่านมามันก็เป็นแบบนี้ แต่มันหมิ่นเหม่เกินไปในขณะนี้ ประชาชนส่วนใหญ่รับไม่ได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำถูก ทำดีก็ควรจะขับเคลื่อนทำให้ประชาชนร่วมมือกันสร้างอนาคตของเราไปด้วยกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องของการจัดกิจกรรมก็ต้องไปดูว่ามีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ เพราะมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก เงินเหล่านี้มาจากไหนสิ่งเหล่านี้ต้องตรวจสอบทั้งหมดถือเป็นกลไกลการทำงานปกติ ตนไม่ต้องไปสั่งใครถือเป็นกลไกตามปกติ
“เรื่องนี้ผมบังคับใครไม่ได้อยู่แล้ว การจะคิดหรืออะไรก็ตามแต่ก็ต้องให้หลักคิด หรือให้แนวความคิดที่ถูกต้อง เป็นไปได้ ปฏิบัติได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเดือดร้อนของประชาชนในวันนี้ คงไม่ใช่เรื่องเดียวที่มีการขอร้องกันมา ยังมีเรื่องของเศรษฐกิจ เรื่องโควิด-19 เรื่องสุขภาพต่างๆมีอีกเยอะแยะประเทศไทยยังมีปัญหาอีกมาก ในเรื่องของความเหลื่อมล้ำ การกระจายรายได้ การเพิ่มรายได้ในระบบเศรษฐกิจใหม่ อีกทั้งวันนี้เราก็ต้องเจอปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดเข้าไปอีก เรื่องเหล่านี้ไม่สำคัญกว่าหรือ อาจจะสำคัญใกล้เคียงกันหรือไม่ผมไม่แน่ใจ แต่ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้คนส่วนใหญ่ของประเทศกว่า 60 ล้านคน กำลังเดือดร้อนอยู่ อีกทั้งเด็กก็กำลังเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ขอว่าให้แสดงความคิดเห็นในทางบวกจะดีเสียกว่าเพราะจะนำไปสู่การแก้ปัญหาได้ในอนาคตไม่เช่นนั้นก็จะแก้ไขปัญหาอะไรไม่ได้เลย จะมีแต่ความขัดแย้งกันไปตลอดเวลา” นายกรัฐมนตรี ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี