"ทูตแคนาดา"ชื่นชม"ไทย"จัดการโควิด-19ได้ดี ชื่นชมบทบาท"ประยุทธ์"ให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 14 สิงหาคม 2563 ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้การต้อนรับ นางซาราห์ เทย์เลอร์ (H.E. Mrs. Sarah Taylor) เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ ในโอกาสเข้ารับหน้าที่
โดย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการหารือว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้อวยพรให้เอกอัครราชทูตแคนาดาฯ ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทยอย่างราบรื่นและประสบผลสำเร็จทุกประการ โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนการปฏิบัติงานของเอกอัครราชทูตแคนาดาฯ ในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับแคนาดาอย่างเต็มที่ และได้ฝากความระลึกถึงไปยัง นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ซึ่งได้มีโอกาสพบปะกันในการประชุมระหว่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา
น.ส.ไตรศุลี ระบุว่า ด้านเอกอัครราชทูตแคนาดาฯ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ดำรงตำแหน่งในประเทศไทย ประเทศไทยและแคนาดามีความสัมพันธ์กันมายาวนาน โดยจะครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ในปี 2564 ซึ่งเป็นโอกาสอันดีในการเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านต่างๆ ของทั้งสองประเทศ เพื่อให้เกิดความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการกระชับความร่วมมือทางการศึกษา การเกษตร และโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งสองประเทศยังมีศักยภาพและโอกาสที่จะขยายการค้า การลงทุนระหว่างกันในด้านที่มีศักยภาพ พร้อมเชิญชวนนักลงทุนจากแคนาดาเข้ามาลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และขอให้เอกอัครราชทูตพิจารณากิจกรรมส่งเสริมการค้าระหว่างกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศภายหลังสถานการณ์โรคโควิด-19 คลี่คลายไป ด้านเอกอัครราชทูตแคนาดาฯ ยืนยัน ทำงานอย่างเต็มความสามารถเพื่อสนับสนุนความร่วมมือกับไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพัฒนาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับรัฐบาลไทย
โอกาสนี้ ทั้งสองได้หารือร่วมกันเกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 เอกอัครราชทูตแคนาดาฯ ชื่นชมการจัดการสถานการณ์โรคโควิด-19 ของไทย และมาตรการต่างๆ ทำให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น และนายกรัฐมนตรีชื่นชมบทบาทของแคนาดาในการสนับสนุนช่วยเหลือต่างๆ เพื่อการรับมือกับโรคโควิด-19
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะร่วมมือกันในด้านการพัฒนาวัคซีน โดยนายกรัฐมนตรียินดี และพร้อมสนับสนุนบทบาทแคนาดากับประเทศในภูมิภาค ทั้งในกรอบอาเซียน อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งเอกอัครราชทูตแคนาดาฯ เห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านดังกล่าวทั้งไทยและในระดับภูมิภาค เพื่อเพิ่มโอกาสในด้านต่างๆ ให้ครอบคลุมทุกมิติ
"นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าการเข้ารวม CPTPP ของไทยจะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งต้องฟังเสียงประชาชน ศึกษารายละเอียดอย่างรอบด้าน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับผู้ที่ได้รับผลกระทบในภาคส่วนต่างๆ จำนวนมาก จึงต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังรอบครอบ ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อศึกษาถึงข้อดีข้อเสีย พร้อมขอบคุณแคนนาดาที่พร้อมสนับสนุนการเข้าร่วมความตกลง CPTPP โดยขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ฝ่ายไทยพร้อมรับฟังข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาพิจารณา"
น.ส.ไตรศุลี กล่าวด้วยว่า เอกอัครราชทูตแคนาดาฯ ยังได้ชื่นชมนายกรัฐมนตรี ในการออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เข้าใจในแนวทางการเดินหน้าทำงานของรัฐบาลในอนาคต และยังชื่นชมจุดยืนของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ประกาศรับฟังความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ มองเยาวชนเป็นศูนย์กลาง เช่นเดียวกับ นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ที่ให้ความสำคัญกับบทบาทของคนรุ่นใหม่ อันเป็นอนาคตและกำลังสำคัญของประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี