"นายกฯ"มอบนโยบายครม.ครอบคลุมรอบด้าน เน้นการทำงานรูปแบบใหม่ ตอบโจทย์แก้ปัญหาประชาชน
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2563 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้มอบนโยบายแก่ ครม.จำนวน 24 ข้อ ดังนี้
1.น้อมนำพระบรมราโชบายในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน ให้ประชาชนมีความสุข บ้านเมืองมีเสถียรภาพ รักษาระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ภายใต้กระบวนการยุติธรรมที่เป็นธรรม
2.ไม่ยึดผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ทางการเมือง เหนือผลประโยชน์ของประชาชนและส่วนรวม
3.เร่งรัดการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปประเทศ แผนแม่บท ให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งระยะเร่งด่วน ระยะปานกลาง และระยะยาว พร้อมพัฒนาปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์และสภาวะแวดล้อมของโลกและประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป
4.ดำเนินนโยบายด้านการต่างประเทศอย่างสมดุลระหว่างประเทศต่างๆ ทั้งในภูมิภาคและในเวทีโลก ด้วยความเป็นเอกภาพและเสรีภาพ เร่งขับเคลื่อนการเจรจาและการใช้ประโยชน์จากพันธสัญญาต่าง ๆ ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
5.ขับเคลื่อนประเทศในยุคปกติใหม่ (New Normal) เน้นการมีส่วนร่วม การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน การใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data) เพื่อการวิเคราะห์ปัญหา วางแผน และการพัฒนางาน
6.ปรับปรุงรูปแบบและช่องทางการประชาสัมพันธ์ของภาครัฐ ผ่านสื่อชนิดต่างๆ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ สื่อออนไลน์ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และพฤติกรรมการรับรู้ของประชาชนในปัจจุบัน
7.จัดให้มีคณะที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัด จากทุกภาคส่วน ในจังหวัดนั้นๆ เพื่อเป็นกลไกในการรับฟังความคิดเห็น และการส่งผ่านข้อมูลของประชาชน
8.ส่งเสริมกระบวนการสร้างความเข้าใจให้ตรงกัน ลดช่องว่างทางความคิดระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ เสริมสร้างความรักและความสามัคคีในการที่จะช่วยกันขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศไปข้างหน้าด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน
9.สร้างเสถียรภาพและความเชื่อมั่นในรัฐบาลบนพื้นฐานของข้อเท็จจริงและผลงานที่เป็นรูปธรรม
10.เร่งรัดการยกเลิกหรือแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
11.รักษาวินัยการเงินการคลังให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และพิจารณาหามาตรการทางการเงินรูปแบบใหม่ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
12.ปรับวิธีการใช้จ่ายงบประมาณ จัดทำแผนงาน/โครงการ ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก ให้มีความต่อเนื่องสอดคล้องกับการใช้จ่ายงบประมาณ มีวงเงินที่เหมาะสมและไม่เป็นภาระงบประมาณในแต่ละปีมากเกินไป
13.กวดขัน เข้มงวด การปราบปรามการทุจริตและคอร์รัปชัน โดยสนับสนุนให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและเฝ้าระวังการทุจริตประพฤติมิชอบ
14.ปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับการศึกษาแนวใหม่ในศตวรรษที่ 21 ส่งเสริมการเรียนการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนมีความสามารถในการแสวงหาความรู้จากแหล่งความรู้ที่หลากหลาย รวมไปถึงการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยใช้กลไกกองทุนการศึกษา กยศ.และกองทุนเสมอภาคฯ
15.พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สร้างงานให้คนไทยมีงานทำ สร้างโอกาสในการส่งออก
16.ส่งเสริมการพัฒนาและการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาใช้ในภาคการเกษตร และอุตสาหกรรมการผลิตอื่นๆ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ
17.ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากและวิสาหกิจชุมชนให้มีความเข้มแข็ง สร้างห่วงโซ่เชื่อมโยงกับธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ ต่อยอดความร่วมมือและขยายผลให้กับเกษตรกร ประชาชน และภาคเอกชนที่มีผลสำเร็จ
18.พัฒนาระบบการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบอย่างครบถ้วนและสมบูรณ์ทั้งระบบ
19.ดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้กับชุมชน บนพื้นฐานการอนุรักษ์วิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม การดูแลและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
20.ดำเนินนโยบายด้านพลังงาน โดยยึดหลักความโปร่งใส ลดภาระและความเดือดร้อนของประชาชน และส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรี เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนผู้บริโภค
21.แก้ไขปัญหาความยากจนในประเทศ โดยนำแนวทางของต่างประเทศที่ประสบผลสำเร็จมาศึกษาและประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม
22.ขจัดความเหลื่อมล้ำ ด้วยมาตรการสร้างโอกาสที่เท่าเทียมและเป็นธรรม ดูแลผู้มีรายได้น้อย และผู้ด้อยโอกาส กำหนดให้มีมาตรการดูแลคนทุกช่วงวัย กลุ่มเปราะบาง คนพิการที่เหมาะสม พัฒนาระบบสาธารณสุขพื้นฐาน โดยทยอยดำเนินการเป็นระยะ กำหนดแผนงานโครงการที่ชัดเจน แบ่งการดำเนินการเป็นระยะ กำหนดความเร่งด่วน เพื่อให้ส่งผลโดยเร็วที่สุด
23.ภารกิจในระยะเร่งด่วน คือ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งการส่งออก ภาคการท่องเที่ยว SMEs และเศรษฐกิจฐานราก ภาคการเกษตร
24.ตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยบูรณาการทุกภาคส่วนให้ร่วมกันติดตามดูแล ประดับประคอง ฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี