บังคับเพื่อนนร.ร่วมชู3นิ้ว

‘บิ๊กตู่’ชี้อันตราย

ใครไม่ทำตามห้ามเข้ากลุ่ม

วอนพูดคุยกันด้วยเหตุผล

หมายจับ6แกนนำไฮด์ปาร์ค

เวที‘ธรรมศาสตร์จะไม่ทน’

ฐานผิดม.116พ่วงอีก4ข้อหา

“บิ๊กตู่” ย้ำไม่ขัดแย้งแก้รธน.ทุกอย่างทำตามขั้นตอน เผยได้รับข้อมูลจากนศ.บางคน ถ้าไม่ร่วมชู3 นิ้ว เคารพธงชาติจะถูกบูลลี่-กีดกัน ไม่ให้เข้ากลุ่ม ชี้เป็นพฤติกรรมอันตราย วอนคุยกันด้วยเหตุผล‘สว.’บี้นายกฯเอาผิดม็อบจาบจ้วง ชี้ม็อบนร.ไม่ปกติ ปูด’ปลดแอก’มีนักการเมืองขนคนร่วมชุมนุม ด้าน ตร.ปทุมฯออกหมายจับ6แกนนำขึ้นเวที10ส.ค.‘ธรรมศาสตร์จะไม่ทน’ ผิด ม.116พร้อม4ข้อหาหลัก ส่วนรอง ผบช.น.จ่อออกหมายเรียกแนวร่วมชุมนุม18กค.เพิ่มอีก 15คน ด้าน‘ก้าวไกล’ปัดแตกคอเพื่อไทย’ฉายเดี่ยวชงแก้ รธน.หมวด1-2 แตะต้องได้ ยื่นแก้ ม.269-272 ยันไม่กระทบสถาบัน-รูปแบบการปกครอง

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) กล่าวถึงข้อเสนอของฝ่ายค้านบางพรรคที่ต้องการให้แก้ไขอำนาจและที่มา ส.ว. 250คน ก่อนที่แก้มาตรา256 เปิดทางตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.)รวมถึงข้อเสนอของผู้ชุมนุมที่ขอให้ยุบส.ว.250คน ภายใน ก.ย.นี้ว่า เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ขอย้ำว่าตนไม่ขัดแย้งกับใคร ขอให้หารือร่วมกันมาแต่ละพรรค รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล ก็ต้องเตรียมการแก้ไขตามขั้นตอนรวมถึงในส่วนของกรรมาธิการ เมื่อทุกอย่างได้ข้อสรุปแล้ว ทุกอย่าง ก็ดำเนินการไปตามขั้นตอน

ห่วงบลูลี่ไม่ร่วมม็อบ/ชี้อันตราย

เมื่อถามถึงปรากฎการณ์นักเรียนชู 3 นิ้ว ระหว่างเคารพธงชาติ ที่ตอนนี้กลายเป็นแคมเปญไปแล้ว นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าหลายอย่างได้เกิดขึ้นมา แต่ตนไม่อยากให้เป็นประเด็นต่อไป ซึ่งตนเห็นถึงความบริสุทธิ์ใจของเด็กต่างๆเหล่านี้ทั้งนี้สิ่งที่ตนทราบ มาจากการรับฟังความคิดเห็นจากเด็กๆหลายคน เขาบอกบางทีในสถาบันศึกษาไม่ว่าจะเป็นระดับไหนก็ตามมันมีการบูลลี่กัน ถ้าใครไม่มาร่วมก็จะถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมชมรม เข้ากลุ่ม อะไรแบบนี้ คิดว่านั่นคืออันตราย ตนเพียงแต่ยกตัวอย่างเฉยๆที่ได้ฟังจากนักศึกษามา บางคนไม่ได้อยากจะมีส่วนร่วมแต่ถูกบูลลี่ถูกกีดกัน อะไรหลายๆ อย่างด้วยกัน ขอให้ทุกคนหารือด้วยเหตุและผลก็แล้วกัน

‘บิ๊กป้อม’ชี้ชูสามนิ้วแค่‘ลูกเสือ’

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการชูสามนิ้วของนักเรียนมัธยมในหลายโรงเรียนทั่วประเทศ หลังการเคารพธงชาติ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการชุมนุมใหญ่ของคณะประชาชนปลดแอกเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมว่า“อ๋อ ลูกเสือๆ”

พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวอีกครั้งถึงกรณีการแสดงสัญลักษณ์เชิงการเมือง ลามไปถึงนักเรียนในโรงเรียนระดับมัธยมแล้วว่าก็ห่วงเด็ก ต้องมีคนทำความเข้าใจให้กับเด็กด้วย

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าจะลามไปอีกเรื่อยๆในหลายพื้นที่กระทรวงศึกษาต้องเข้ามาดูเรื่องนี้หรือไม่พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับคนที่สนับสนุน ขอให้คิดดูให้ดี

อนุทินชี้‘เพื่อชาติ-ศาสน์-กษัตริย์’

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่ถามว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มองว่าการชูสามนิ้วเป็นสัญลักษณ์ลูกเสือ โดยนายอนุทินพยักหน้าแล้วตอบว่า“ใช่ เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์”

จ่อออกหมายจับ18กค.เพิ่ม15คน

ด้าน พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รอง ผบช.น. ดูแลงานความมั่นคง เปิดเผยว่า พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เรียกประชุมผู้กำกับการและพนักงานสอบสวน ในพื้นที่กว่า 10 สถานีตำรวจ ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง เพื่อติดตามสถานการณ์ และตรวจสอบพยานหลักฐานการชุมนุมในพื้นที่ต่างๆในช่วงที่ผ่านมา โดยตำรวจ เตรียมออกหมายเรียกผู้ร่วมชุมนุมเพิ่มอีกอย่างน้อย 15 คน กรณีชุมนุมในวันที่18 ก.ค.ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ส่วนการชุมนุมในวันที่16 ส.ค.พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน

ส่วนการชุมนุมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองในสถานศึกษา ยังไม่ถือเป็นความผิดตาม พรบ.การชุมนุมสาธารณะฯ แต่ยืนยัน ตำรวจมีอำนาจหน้าที่ในการสืบสวนหาข่าวเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวาย หากเชื่อได้ว่าจะมีการกระทำผิด ส่วนกรณีที่นักเรียนชูสามนิ้วช่วงเวลาเคารพธงชาติในสถานศึกษา ถือเป็นการแสดงความคิดเห็นตามสิทธิทางการเมือง ส่วนจะมีความผิดกฎหมายอื่นหรือไม่ ต้องดูเจตนาในการกระทำว่ากระทบสิทธิผู้อื่นด้วยหรือไม่

ออกหมายจับ6แกนนำเวที10ส.ค.

จากกรณีเหตุการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้นในวันที่ 10 สิงหาคม2563 ที่ผ่านมา ลานพญานาค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มีการปราศรัย ในประเด็นที่หมิ่นเหม่กฎหมายนั้น แหล่งข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)เปิดเผยว่ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี (บก.ภ.จว.ปทุมธานี)ได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลจังหวัดธัญบุรี ออกหมายจับ 6 แกนนำกลุ่มปลดแอก ประกอบด้วย 1.น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล 2.นายภาณุพงศ์ หรือ ไมค์ จาดนอก 3.นายอานนท์ นำภา 4.นายณัฐชนน ไพโรจน์ 5.นายธนวัฒน์ หรือ ลุกมารค จันผลึก 6.นายสิทธิ์นนท์ หรือ ไฟช้อน ทรงศิริ

อ่วม!ม.116 พ่วง4ข้อหาหลัก

ประกอบด้วย ข้อหา1.ร่วมกันกระทำให้ปรากฎแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้าง กระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน,2ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายอาญา ,3.ร่วมกันกระทำการหรือดำเนินการใดๆซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะซึ่งอาจเป็นแหล่งให้โรคติดต่อ อันตรายหรือโรคระบาดแพร่ออกไป,ร่วมกันฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ,4.ร่วมกันทำการโฆษณาใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต,5.และข้อหาอื่นๆที่สอบสวนพบในภายหลัง รวมทั้งผู้อนุญาตตลอดจนผู้สนับสนุนให้มีการจัดการชุมนุมปราศรัยขึ้นในครั้งนี้ เพื่อให้รับโทษตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด 6.และข้อหาอื่นที่สอบสวนพบในภายหลังรวมทั้งผู้อนุญาตตลอดจนผู้สนับสนุนให้มีการจัดอภิปรายขึ้นในครั้งนี้ เพื่อให้รับโทษตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

‘หมอเจตน์’บี้เอาผิดม็อบจาบจ้วง

ที่รัฐสภาได้มีการประชุมวุฒิสภา มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิภาทำหน้าที่ประธานซึ่ง ก่อนเข้าสู่วาระได้เปิดโอกาสให้ส.ว.หารือปัญหาต่างๆโดย นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.กล่าวว่าขอให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้แม้ประเทศไทยมีผลงานที่ทั่วโลกยอมรับในการต่อสู้กับเชื้อโควิด-19แต่คนไทยกลับหาเหตุมาชุมนุม ทั้งที่ควรช่วยกันแก้ปัญหา การชุมนุมโดยสงบเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ แต่แกนนำและผู้อยู่เบื้องหลังการชุมนุม รัฐบาลจะต้องดำเนินการตามกฎหมายโดยเฉพาะผู้อยู่เบื้องหลังข้อเรียกร้อง10ประเด็นจาบจ้วงสถาบันและอยู่เบื้องหลังการชุมนุมของเด็กนักเรียน ข้อเรียกร้อง 3ข้อของผู้ชุมนุม

ขวางรื้อทั้งฉบับ/ม็อบนร.ไม่ปกติ

โดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญนั้น ต้องอาศัยเสียง ส.ว.84 คนจาก 250 คนในวาระ1 และ3 แต่ ส.ว.กลับไม่มีส่วนร่วม ทั้งนี้ ส.ว.ส่วนใหญ่ไม่ขัดข้องเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ขอให้ชัดเจนว่าจะแก้ไขประเด็นใด ส.ว.ไม่ยึดติดตำแหน่ง เห็นว่าการแก้รัฐธรรมนูญ ทำได้ แต่ไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญมาตรา256 เพื่อยกร่างใหม่ทั้งฉบับ เคยเกิดขึ้นมาแล้วารแก้รัฐธรรมนูญปี2550ที่ขอแก้ไขมาตรา291แต่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่ารัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติมาแล้ว ถ้าจะแก้ไขมาตรา291เพื่อยกร่างใหม่ ต้องกลับไปถามประชาชนก่อน ขอเสนอให้รัฐบาลอดทน ฟังความเห็นรอบด้านของทุกภาคส่วน ในการแก้รัฐธรรมนูญให้ทุกฝ่าย มีส่วนร่วมพูดคุยกัน พร้อมเรียกร้องขอให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาม็อบเด็กนักเรียน ที่เห็นว่าไม่ปกติและเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วย

ปูดนักการเมืองขนคนร่วมม็อบ

ขณะที่ นายสมชาย แสวงการ ส.ว. หารือว่าตนหนักใจเมื่อทราบข่าวว่าม็อบประชาชนปลดแอกมีพรรคการเมืองเทคโอเวอร์ เพราะมีมวลชนจำนวนมากเข้าร่วมเวที การข่าวระบุว่า มี ส.ส.คนหนึ่งนำประชาชนมาจากย่านสายไหม มีนบุรีและบางซื่อ เข้าร่วมชุมนุมพร้อมสนับสนุนรถห้องน้ำติดเครื่องปรับอากาศ4 คันรถน้ำและเครื่องดื่มแบบบาร์พร้อมเวทีแสง สี เสียง ขณะที่อีกพรรคการเมืองหนึ่งนำคนจากโรงงาน2,000 คนร่วมชุมนุมโดยสารมากับรถบัสและส่งที่โรงแรมรัตนโกสินทร์และเสาชิงช้ารวมทั้งนำชาวบ้านจากวัดหนึ่งย่านมีนบุรี สมุทรปราการและปทุมธานีกว่า3,000คนเข้าร่วม ยังพบการทะเลาะกันของการ์ดและชายชุดดำ ดังนั้นขอให้รัฐบาลใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการกับผู้ที่ละเมิดกฎหมายด้วย

หนุนจัดเวทีฟังความเห็นที่สภา

สำหรับการจัดเวทีที่รัฐบาลมอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการนั้น ขอให้พิจารณาจัดเวที โดยมีตัวแทนจากอธิการบดี ของสถาบันการศึกษา ตัวแทนประธานนิสิต นักศึกษา ประมาณ 400 คน ที่ห้องประชุมสุริยัน รัฐสภา โดยประชุมร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ นายพรเพชร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งกมธ.สภาและกมธ.วุฒิสภา ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นกับกลุ่มเยาวชน

ติงนร.ชู3นิ้วร้องเพลงชาติไม่เหมาะ

“ผู้ใหญ่ควรแลกเปลี่ยนสิ่งที่เป็นปัญหากับเด็กและให้เด็กคิด อย่ากังวลว่าจะครอบงำ ขณะนี้ครู ผู้ปกครอง ปรับตัวไม่ทัน ส่วนตัวมองว่าการชู3นิ้วระหว่างร้องเพลงชาตินั้น ไม่เหมาะสม เพราะการเข้าแถวคือการสร้างวินัย ส่วนการผูกโบว์สีขาวนั้น ทำได้ การแก้ปัญหากับครู ที่ชินกับการสอนแบบเก่านั้น ต้องหารือร่วมกันโดย สพฐ.เชิญตัวแทนครูหารือร่วมกันต่อการใช้สิทธิเสรีภาพและการสื่อสารภายใต้กฎเกณฑ์ ซึ่งการเคลื่อนไหวของเยาวชนนั้นมีความพยายามทำให้เป็นเหมือนกับการชุมนุมที่ฮ่องกง และตนเป็นห่วงการชุมนุมว่าอาจจะเป็นจุดแพร่เชื้อโควิด-19ได้”นายสมชาย ย้ำ

‘สมคิด’ปัดการเมืองหนุนม็อบ

ทางด้าน นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทยในฐานะประธานคณะทำงานเพื่อติดตามการชุมนุมของกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชน ในคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การปกครอง สภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า ในนามของคณะทำงานได้ติดตามการชุมนุมของคณะประชาชนปลดแอก เมื่อวันอาทิตย์ที่16 ส.ค.อย่างใกล้ชิด เท่าที่สังเกตการณ์ ไม่มีอะไรที่รุนแรง จบลงด้วยดี

“ทั้งนี้ ขอปฎิเสธว่าข้อสังเกตการชุมนุมมีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง โดยได้ชี้แจงแต่แรกว่า พรรคเพื่อไทย ไปในนามผู้สังเกตการณ์และไปเพียง 6 คนเท่านั้นะเชื่อว่าคงไม่มีใครเกณฑ์คนไปชุมนุมได้ พร้อมยังเรียกร้องไปยังนายกฯว่าอย่าเพิ่งเชื่อข้อมูลที่ได้รับรายงานว่า ผู้ชุมนุมมีจำนวนเพียง 5,000 คน แต่ให้ไปดูเหตุการณ์จริงในพื้นที่การชุมนุมว่า มีนักเรียนนักศึกษามาร่วมชุมนุมมากขนาดไหน”นายสมคิด ย้ำ

พร้อมช่วยประกันตัวแกนนำม็อบ

นายสมคิดยังระบุว่าคณะทำงานฯยังได้รับการประสานงานจาก ผู้ที่ได้รับหมายเรียก 15 คนให้ช่วยเหลือ เราขอย้ำว่าพร้อมดูแลและประกันตัว ทั้งชั้นสอบสวนและชั้นศาล หากญาติไม่ประกันตัว ทางคณะก็พร้อมดูแล ส่วนการชุมนุมในต่างจังหวัด หากจะมีการชุมนุมคณะทำงานของ ส.ส.เพื่อไทยพร้อมลงไปสังเกตการณ์ ส่วนในต่างจังหวัดที่มี นักเรียนแสดงสัญลักษณ์ชูนิ้ว3นิ้วช่วงเคารพธงชาติ ฝากไปยังคณะครูอาจารย์ว่าขอเปิดให้นักเรียนได้แสดงออก เพราะไม่มีอะไรเกินเลย หากครูอาจารย์ปิดกั้นการแสดงออกของนักเรียน นักศึกษาพร้อมจะเสนอให้กมธ.การศึกษา สภาผู้แทนฯเชิญมาชี้แจงถึงมาตรการดูแลนักเรียน

‘ก้าวไกล’ชงแก้รธน.หมวด1-2

ที่รัฐสภา นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงเหตุผลที่พรรคก้าวไกล ไม่ได้ร่วมลงชื่อเสนอญัตติด่วนขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ2560 เนื่องจากมีความเห็นต่างกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เรื่องการจำกัดอำนาจของ ส.ส.ร.ไม่ให้แก้ไขหมวด 1 และ 2 ว่าไม่ได้เป็นการแตกแยกในการยื่นญัตติกับพรรคร่วมฝ่ายค้านในประเด็นหลักที่พรรคร่วมฝ่ายค้านพิจารณาคือการปลดล็อคการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาพิจารณาโดยเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา256ซึ่งพรรคก้าวไกลหนึ่งในพรรคร่วมฝ่ายค้านร่วมพิจารณาตรงนี้มาโดยตลอดและสนับสนุนร่างของพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้านที่ได้ยื่นญัตติไปเมื่อวันที่17ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ในร่างแก้ไขของพรรคเพื่อไทย มีการระบุไว้ว่าจะไม่มีการแก้ไขในหมวดที่1และ2ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นคนละส่วนกับสิ่งที่พรรคก้าวไกล พยายามจะผลักดันต่อไป

“ด้วยเหตุจำเป็นและในสภาพปัจจุบันรัฐธรรมนูญ ในหมวดที่1เป็นหมวดทั่วไป ไม่ใช่ ไม่เคยมีการแก้ไขเลย แต่มีการแก้ไขหลายครั้ง ทั้งรัฐธรรมนูญปี 40 และปี50ข้อถกเถียงที่เคยพูดคุยกันคือเช่นอำนาจอธิปไตยเป็นของหรือมาจากประชาชนชาวไทย เราไม่อยากให้มีการปิดล็อกในหมวดดังกล่าวไว้ ส่วนหมวดที่ 2 เป็นหมวดที่ว่าด้วยพระมหากษัตริย์ มีการตั้งคำถามว่า ถ้าหากมีการแก้ไข เกรงว่า ส.ส.ร.จะนำข้อความแก้ไขเลยเถิดออกไป ตามกรอบที่เราไม่อาจกำหนดได้ ซึ่งในหมวดพระมหากษัตริย์ยังมีมาตรา255 ที่ระบุไว้อยู่แล้วว่า รูปแบบการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้ ขณะเดียวกัน จะไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐได้จริงๆสิ่งเหล่านี้ถูกล็อกไว้แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องไปเขียนเพิ่มเติม จะยกเว้นการแก้ไขเพิ่มเติมในหมวดที่1และหมวดที่2”นายณัฐวุฒิ กล่าว

เตรียมยื่นญัตติแก้ม.269-272

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ในการแก้รัฐธรรมนูญ จะต้องมี ส.ส.ร่วมลงชื่อทั้งสิ้น100 คนหรือ1ใน5ของจำนวนส.ส.ทั้งหมดในสภา สิ่งที่พรรคก้าวไกลกำลังดำเนินการอยู่ คือการปิดสวิทซ์ ส.ว.ที่จะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกมาตราหนึ่ง คือ มาตรา 269-272 โดยพรรคก้าวไกล จัดทำร่างเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการส่งให้พรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆพิจารณา คาดว่าสัปดาห์หน้า คาดจะสามารถยื่นญัตติด่วนดังกล่าวขึ้นไปอีกฉบับหนึ่งได้ ถ้าดำเนินการเสร็จ พรรคก้าวไกล จะมีการยื่นเพิ่มเติมเข้าไปอีกฉบับหนึ่ง

ไม่กระทบสถาบัน-รูปแบบปค.

เมื่อถามว่า 10 ข้อเรียกร้องของนักศึกษา ถ้าแก้ไขจะกระทบต่อการปกครองตามมาตรา 255 หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรายืนยันว่า ต้องมีการเปิดพื้นที่ในการรับฟัง ตนต้องย้ำว่า 3 ข้อเรียกร้อง 2จุดยืน 1 ความฝัน เป็นประเด็นหลักที่ประชาชนส่วนใหญ่และนักศึกษาเห็นร่วมกันแล้ว ซึ่งใน 10 ข้อดังกล่าวตนเห็นว่ามีหลายข้อควรค่าแก่การพิจารณา

“สุดท้ายผลของการแก้ไข จะเป็นอย่างไร พรรคก้าวไกลมั่นใจว่า มาตรา255 เป็นตัวกำหนดทิศทางเรื่องของหมวดที่1 และ2 อยู่แล้ว โดยที่เราไม่จำเป็นจะต้องพูดในรายละเอียดที่เป็นอื่น นอกเหนือจากนั้น ซึ่งภาพรวมยืนยันข้อเรียกร้อง10ข้อนี้ไม่กระทบต่อการปกครองต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมาหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และรัฐยังเป็นรัฐเดี่ยวที่ไม่อาจแบ่งแยกได้” นายณัฐวุฒิ กล่าว

ชาวนาไทยจี้เอาผิดจาบจ้วง

ช่วงเช้า ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล(สำนักงานก.พ.)กลุ่มชาวนาไทยภูมิภาคกลาง ประมาณ100 คนนำโดยนางพรอนงค์ กลิ่นยา ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีขอให้เร่งดำเนินการตามกฎหมาย อย่างเคร่งครัดเฉียบขาดกับทุกบุคคลและทุกกลุ่มรวมทั้งผู้สนับสนุนให้เกิดการจาบจ้วง ล่วงเกินสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยเพื่อบรรเทาเยียวยาความทุกข์เดือดร้อนทางจิตใจชาวไทยจากความวิตกกังวลและเป็นห่วงใยต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และองค์พระประมุขของชาติ

นัดเปิดไทยภักดีฯป้องสถาบัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่มีประชาชนมาชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตั้งแต่วันที่ 18กรกฎาคม 2563โดยเป็นการจัดตั้งของกลุ่มเยาวชนปลดแอกและกลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย โดยกลุ่มแรกนั้น เริ่มมีเพจตั้งแต่ปลายปี2562และขณะนี้มีการขยายวงออกไปเรื่อยๆโดยเฉพาะในสถาบันการศึกษาต่างๆรวมทั้งโรงเรียนมัธยม ที่ขณะนี้นักเรียนมีการเคลื่อนไหวกันอย่างคึกคัก โดยมีการชูสามนิ้วและติดโบว์ขาว ไม่เอาเผด็จการนั้น

ล่าสุด พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะโพสต์ข้อความขอเชิญสื่อฯร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวกลุ่มไทยภักดี ปกป้องสถาบันฯ สืบสานความเป็นไทย ต้นทุนผูกขาด ใช้เทคโนทันสมัย สร้างรากฐานพึ่งพาตนเอง”ในวันที่ 19ส.ค.เวลา14.00น.ห้องบอลรูม โรงแรมยู สาธร กรุงเทพ