"นายกฯ"ย้ำต้องเดินหน้าปท.ทีละขั้น หลังรายได้ลดลงจากผลกระทบโควิด-19 ชี้แนวคิดเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือนต.ค.เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขึ้นอยู่กับศบศ.พิจารณา ย้ำศก.-สุขภาพต้องเดินไปคู่กัน
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 25 สิงหาคม 2563 ที่โรงแรมสตาร์ คอนเวนชั่น จ.ระยอง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุม ครม.สัญจร ว่า วันนี้เป็นการประชุม ครม.นอกสถานที่ครั้งแรกภายการปรับ ครม.โดยได้มีการประชุมในหลายเรื่อง รวมถึงการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 1 (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง) ได้พบปะหารือทุกภาคส่วน ทั้งภาคธุรกิจในหลายเรื่องด้วยกัน ซึ่งมีข้อเสนอมา 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการท่องเที่ยว ด้านการเกษตร การบริหารจัดการน้ำธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตขั้นพื้นฐาน ซึ่งมีข้อเสนอแนะอยู่หลายประการ มีการขอรับงบประมาณในปี 64 เพื่อดำเนินการในหลายโครงการ แต่วันนี้เราทราบดีอยู่แล้วงบประมาณมีจำกัด หลายคนมองว่ารัฐบาลประเมินรายได้สูงเกินไปหรือเปล่า ก็ต้องมาดูว่าการประเมินรายได้ในสถานการณ์ปกติต้องเป็นแบบนั้น แต่ขณะนี้มีโควิด-19 เข้ามา ดังนั้น จากการประเมินรายได้ก็ต้องลดลง
นายกฯ กล่าวว่า จากการที่เราช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รายได้ต่างๆ ต้องลดลงอย่างแน่นอน ซึ่งเราก็มีแผนสำรองในเงินกู้ฟื้นฟูผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม จากปัญหาโควิด-19 มาช่วยดูแลตรงนี้ ก็จำเป็นต้องจะต้องทยอยดำเนินการ หากวันหน้าสถานการณ์ดีขึ้นก็คงจะทำได้ทั้งหมด ทุกอย่างต้องเดินทางหน้าไปทีละขั้นตอนแบบนี้
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงแนวคิดการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ในเดือน ต.ค.ว่า เรื่องนี้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ต้องพิจารณาว่าจะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ เศรษฐกิจการท่องเที่ยว การรักษาพยาบาลในประเทศ ส่วนนี้เป็นรายได้ของประเทศเราทั้งสิ้น ถึงแม้เราจะมีมาตรการท่องเที่ยวในประเทศ แต่ก็มีคนอยู่ไม่กี่ล้านคนที่ท่องเที่ยว ดังน้ัน เราจะเอาสิ่งเหล่านี้มารองรับในสิ่งที่เราเคยได้ 20 ล้านคนได้ไหม ถ้าไม่ได้ก็ต้องหามาตรการที่เหมาะสม ประเด็นสำคัญเราต้องมีมาตรการมารองรับ ทุกคนก็ต้องยอมรับ ถ้าหากเราไม่ทำเลยก็จะอยู่ที่เดิม แย่ไปกว่าเดิม ปิดกิจการ ลดการจ้างพนักงาน ด้วยการสร้างความตื่นตระหนกไป
นายกฯ กล่าวว่าสิ่งสำคัญที่สุด ตนยืนยันว่า วันนี้เราสามารถที่จะตรวจสอบคัดกรอง หากมีคนที่ติดเชื้อหลุดรอดเข้ามา เราก็สามารถติดตามได้ เรามีสถานพยาบาลและบุคลากรที่เพียงพอ ตรงนี้เป็นสิ่งที่ต้องคิด 2 ทางเสมอ ไม่อย่างนั้นคนจะเอาเรื่องเศรษฐกิจไปพูดอีกทาง เรื่องสุขภาพไปพูดอีกทาง แล้วจะทำอย่างไรที่จะให้ทั้ง 2 ทางไปด้วยกัน นี่คือสิ่งที่ต้องฝากสื่อมวลชนไว้ด้วย ไม่อย่างนั้นก็จะกลายเป็นปัญหา แก้อะไรไม่ได้เลยสักอย่าง รัฐบาลก็มีเงินอยู่เท่านี้ เงินกู้ก็มีเท่านี้ วันหน้าก็ต้องใช้หนี้เขาอีก
"อย่างเรื่องรายได้ของประเทศลดลงจากตัวเลขที่ประมาณการณ์ ก็แน่นอนเพราะมีสถานการณ์โควิด-19 วันนี้ก็เปรียบเทียบข้อมูลของสหรัฐอเมริกา ซึ่งการว่างงานของเขาเยอะขึ้นเป็นล้านคนเหมือนกัน ประเทศอื่นๆก็เป็นเหมือนกัน มันเป็นผลกระทบทั้งประเทศ มันมีหลายอย่างก็ดีขึ้น แต่หากเรากลับไปที่เดิมตื่นตระหนก ไม่ผ่อนคลาย ก็จะอยู่ที่เดิม แล้วจะแย่ไปกว่าเดิมไหม แล้วรัฐบาลจะไปหาเงินที่ไหน เพราะภาษีต่างๆเราไม่สามารถเก็บได้เต็มจำนวนแล้ว"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องปัญหาการว่างงานก็มีคณะกรรมการคัดกรองอยู่ ซี่งมีวิธีจ้างงานหลายรูปแบบด้วยกัน แต่ตนยังให้ข้อมูลไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของการพิจารณางบประมาณต่างๆซึ่งมีหลายหลักการด้วยกัน ทั้งคนที่ว่างงานและคนที่จบการศึกษา มีจำนวนมาก ดังนั้นการบริหารคนจำนวนมากจะต้องมีข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจนว่าจะทำอย่างไร ต้องมีทั้งคนได้และไม่ได้ จะให้ได้ทุกคนคงไม่มีสตางค์ให้ได้ เราต้องไปดูปริมาณว่ามีเท่าไหร่ที่จะรับได้ในระยะแรก ในเรื่องการแก้ปัญหาโควิด-19 และวันหน้าก็จะทำให้เดือดร้อนลดลง ช่วงนี้เราก็ประมาณการณ์ไว้ 6 เดือนถึง 1 ปี ซึ่งก็จะมีมาตรการเป็นระยะๆ โดยจะมีการเตรียมแผนรองรับในส่วนของมาตรการการเงินการคลัง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี