เชื่อมั่น3สถาบันของชาติ
‘บิ๊กตู่’ปลุกคนไทย
ไร้เสาหลัก-พังไปทั้งหมด
ชี้ห้ามม็อบหนุนรบ.ไม่ได้
‘มงคลกิตติ์’ยอมขอโทษ‘สิระ’
ยุติศึกบาดหมางกินใจกัน
บิ๊กตู่ ลั่นบริหารประเทศต้องวางยุทธศาสตร์แก้ปัญหาทุกกลุ่ม ปลุกเชื่อคนไทยเชื่อมั่น ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทำให้ชาติเข้มแข็งถ้าไร้เสาหลัก-ล้มทั้งหมด เปรยเหนื่อย กดดันมาก ตราบใดมีเวลาอยู่จะฟันฝ่าอุปสรรคไปให้ได้ ขอช่วยกันทำให้ชาติสงบเรียบร้อย ชี้ห้ามม็อบหนุนรัฐบาลไม่ได้ “บิ๊กแดง”กำชับทบ.เป็นเสาหลักด้านความมั่นคงยึดมั่นอุดมการณ์ ปกป้องสถาบันหลัก ด้าน“ชินวรณ์”ยันวิปรบ.เสนอร่างแก้ไขรธน.ฉบับเดียว แก้ ม.256 เคาะรูปแบบตั้ง 200 ส.ส.ร.ดึง‘นร.-นศ.’เข้าร่วม ยกร่างภายใน240วัน เชื่อนำไปสู่การแก้ได้จริง
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานกล่าวปาฐกถาพิเศษภายใต้หัวข้อ“เกษตรทางรอดของประเทศไทย”ในพิธีเปิด“งานเกษตรกรสร้างชาติ”โดยกล่าวว่าต้องยอมรับว่าเด็กวันนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน เขาต้องการงานที่สบาย งานที่อยู่ในเมืองนั่นคือปัญหาของภาคเกษตรกร พ่อแม่เป็นคนทำ เมื่อทำไม่ไหวก็จ้างคนทำ ผลประโยชน์ ก็กลับไปสู่คนอื่น แทบจะไม่ได้อะไรกลับมาเลย เป็นหนี้เป็นสินเยอะแยะทั้งหนี้ในระบบ นอกระบบ วันนี้โลกเปลี่ยน ถ้าเราไม่ปรับจะอยู่อย่างไร เรามีความภาคภูมิใจในความเป็นไทยมายาวนานหลายร้อยปี เราต้องเพิ่มความภาคภูมิใจในประเทศ เพื่อดันตัวเองผ่านปัญหาอุปสรรคไปข้างหน้าให้ได้ อย่าให้ใครมาทำลายความเป็นไทย ความเป็นเอกลักษณ์ไทยที่มีอยู่ ต้องช่วยกันสร้าง ช่วยกันทำในสิ่งที่เป็นไปได้ วันนี้รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเพื่อให้เกิดความเข้มแข็ง
ลั่นวางยุทธศาสตร์แก้ทุกกลุ่ม
“ในยุทธศาสตร์ระยะที่1จะต้องดูว่า 5 ปีแรกผลที่ดำเนินการเป็นอย่างไร ไม่ใช่แก้แบบลิงพันแหมันจะแก้ไม่ได้ เดี๋ยวก็เดินขบวน เดี๋ยวก็เรียกร้อง ทุกรัฐบาล จะต้องดูแลทุกภาคส่วน และเดินไปขั้นตอน การบริหารราชการ ต้องเป็นแบบนี้ ไม่ใช่ได้แต่กลุ่มเดิมๆ อยู่ตลอด จะกลายเป็นการเลี้ยงไข้ให้ยาพิษกันไปหรือเปล่า ตนก็ไม่แน่ใจ แต่จำเป็นก็ต้องทำ งานวันนี้คือรวมเกษตรสร้างชาติ อยู่ที่ความเข้าใจ อยู่ที่คนจะบิดเบือน อยู่ที่คนเอาไปใช้ประโยชน์ ทุกรัฐบาล ต้องเจอปัญหานี้ เราต้องหยุดกันเสียที ต้องมาช่วยกันทำงาน ต้องทำงานแบบมีเหตุมีผล มีหลักการ มีหลักคิด การทำให้คนชอบคนรัก ง่ายนิดเดียวแต่การจะแก้ปัญหาชาติยากกว่าเยอะแยะ ตนต้องเลือกวิธีการทำอย่างไรจะให้เกิดความยั่งยืนก็ช่วยกันต่อไป”นายกฯระบุ
ย้ำต้องช่วยกันให้บ้านเมืองสงบ
พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่าตนต้องการให้บ้านเมืองนี้สงบเรียบร้อย เพื่อการพัฒนา แก้ปัญหาอุปสรรคให้กับพวกเรา อย่าให้บ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อยขึ้นมาอีก ทุกอย่างแย่พออยู่แล้ว วันนี้ตนให้ความสำคัญกับภาคการเกษตร ถือว่ามีความจำเป็นเพราะคนเดือดร้อน แต่เราจะให้กันต่อไปมากขึ้นเรื่อยๆแล้วเราจะเอาเงินจากที่ไหน ถ้าเราไม่สร้างมวลรวมภาคการเกษตรให้สูงขึ้น วันนี้เรื่องการเปิดการท่องเที่ยว ก็ค้านกันไปกันมา สุดท้าย ก็ทำอะไรไม่ได้ เราต้องช่วยกันทุกเรื่อง เพื่อให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย เพื่อที่จะทำอย่างอื่นได้ เราต้องสร้างความสมดุลระหว่างสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมให้ได้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันทำ ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ก็จะไม่จบทุกเรื่อง เราไม่สามารถทำอะไรได้โดยลำพัง
เหนื่อยนะกดดันมากเหมือนกัน
พร้อมกันนี้ นายกฯงย้ำว่าเป็นห่วงมากที่สุด เพราะเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ โดยเราต้องยึดมั่นหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นี่คือ สิ่งสำคัญที่สุดที่เราต้องยึดมั่นต่อสถานบัน ที่มีมาอย่างต่อเนื่องทุกรัฐบาลนั้นคือการรวมใจไทยสร้างชาติมาได้ทุกวันนี้ ต้องมีศูนย์รวมใจ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน จนมาถึงอนาคตของไทย”นายกฯวย้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อนายกฯพูดมาถึงช่วงนี้ ได้หยุดพูดเป็นช่วงขนาดหนึ่งและถอนหายใจพร้อมพูดว่า“เหนื่อยนะ กดดันมาก เหมือนกัน ผมไม่มีการเมือง แต่อยากพูดให้เข้าใจเท่านั้น ตั้งใจ จะพูด เพราะเห็นคนเยอะ อยากให้ทุกคนช่วยกันกันพี่จูงน้อง เพื่อนจูงเพื่อน ต้องสร้างเหล่านี้ให้ได้ ไม่จำเป็นต้องมีศูนย์เรียนรู้อะไรมากมายแต่ให้เรียนรู้ออนไลน์ ออฟไลน์ สอนทางปฏิบัติ เพื่อสร้างการเรียนรู้ ที่ทุกอย่างมีตัวชี้วัด เพื่อไปสู่การเกษตรปลอดภัยไร้สารพิษ ขอให้ช่วยกันทำเรื่องนี้
เชื่อคนไทยยังเชื่อมั่น3สถาบัน
จากนั้น นายกฯกล่าวตอนท้ายว่า“เราต้องรวมไทยสร้างชาติจองเราหลายๆเรื่อง ทุกอย่าง ความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม นี่เป็นสิ่งที่ผมรับผิดชอบที่จะต้องทำให้ได้ ตราบที่ผมมีเวลาของผมอยู่ จะได้มากได้น้อย หรือมีอุปสรรค ก็ต้องฟันฝ่าตรงนี้ไป แต่ผมเชื่อมั่นว่าคนไทย ก็ยังเชื่อมั่นในความเป็นไทยของเราอยู่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สิ่งเหล่านี้ทำให้ประเทศเราเข้มแข็ง
ถ้าไร้3เสาหลัก-ประเทศล้มหมด
“เมื่อไหร่ที่เราไม่มี3อย่างนี้ก็ไปกันทั้งหมด ผมบอกให้เลย เพราะวันนี้ประเทศไทยก็เป็นแกนกลางของอาเซียนอยู่แล้วเป็นแกนนำ โดยพฤตินัยของอาเซียนอยู่แล้ว วันนี้อย่าทำลายภาพนี้ในสิ่งที่เรามีศักยภาพ ขอร้องเถอะครับ ช่วยกันสร้างความสงบเรียบร้อย นำพาลูกหลานของท่านไปสู่อนาคตที่ดีงานที่ดีงามต่อไป”นายกฯกล่าวทิ้งท้าย
ชี้ห้ามม็อบหนุนรัฐบาลไม่ได้
เวลา14.50น.ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ถึงกรณีกลุ่มไทยภักดี นัดชุมนุมแสดงพลังเพื่อปกป้องประเทศ และสนับสนุนรัฐบาลที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 30 ส.ค.ว่าการเตรียมการชุมนุมสนับสนุนรัฐบาลตนไปห้ามใครไม่ได้เหมือนกันในตอนนี้ก็ต้องดูว่าใครทำผิดกฎหมายบ้าง
ย้ำหากผิดกม.ก็ต้องดำเนินการ
“ถ้าผิดกฎหมาย ก็ต้องถูกดำเนินการ เว้นแต่คนดื้อต่อกฎหมาย ก็อีกเรื่องหนึ่ง ประชาชนส่วนใหญ่ขอให้ไตร่ตรองและคิดพิจารณาดูว่าเราจะทำให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้อีกต่อไปหรือไม่ ซึ่งมีผลกระทบทั้งสิ้นด้วย คนเพียงไม่กี่คนซึ่งอาจจะอยู่เบื้องหลัง หรือไม่อยู่เบื้องหลัง ไม่รู้เหมือนกันซึ่งต้องว่ากันด้วยหลักฐาน วันนี้ถ้าเรายังทำเช่นนี้กันต่อไป ทุกคนไม่รักษากฎหมาย แล้วมันจะอยู่กันอย่างไร ผมก็ไม่รู้”นายกฯ ย้ำ
ป้อมไม่ห่วงกลุ่มไทยภักดีชุมนุม
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดีโพสต์เฟซบุ๊กประกาศนัดชุมนุมแสดงพลังเพื่อปกป้องประเทศที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครวันที่ 30 สิงหาคมว่าคงไม่มีปัญหาอะไร เชื่อว่าจะไม่มาชนกับกลุ่มปลดแอก เพราะชุมนุมไม่ตรงกัน
บิ๊กแดงย้ำทบ.เสาหลักของชาติ
ช่วงเช้า ที่บริเวณลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 ภายในกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)ประธานพิธีวันคล้ายวันเปิดกองบัญชาการทหารบก(บก.ทบ.) ครบรอบปีที่34ซึ่งมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ผู้บังคับบัญชาหน่วยงานในบก.ทบ.14 หน่วยเข้าร่วม พร้อมได้พบปะตัวแทนผู้นำชุมชนเขตพระนคร20ชุมชนรอบบก.ทบ.โดยตัวแทนชุมชนกล่าวให้กำลังใจ พล.อ.อภิรัชต์ ขอให้สู้อย่าถอยขณะที่ พล.อ.อภิรัชต์ตอบว่า“ผมสู้อยู่แล้ว”ก่อนมอบของที่ระลึก และถ่ายภาพร่วมกัน
จากนั้น พล.อ.อภิรัชต์ ได้ให้โอวาทแก่กำลังพลที่ปฏิบัติงานตอนหนึ่งว่ามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้อยู่ท่ามกลางเพื่อนทหารและกำลังพลที่ได้ร่วมมือร่วมใจการปฏิบัติภารกิจตามนโยบายของกองทัพบกด้วยความทุ่มเทเสียสละมาโดยตลอด ขอชื่นชมกำลังพลที่ได้รับรางวัลข้าราชการดีเด่นทุกคน ที่มุ่งมั่นตั้งใจปฏิบัติหน้าที่จนปรากฏผลงานเป็นคุณประโยชน์แก่ส่วนรวมของกองทัพบก สมควรได้รับการยกย่องและยึดถือเป็นแบบอย่างต่อไป กองทัพสร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ สร้างความเชื่อมั่นศรัทธาจากประชาชนและการเป็นเสาหลักของชาติ ด้านความมั่นคงอย่างแท้จริง
ยึดมั่นอุดมการณ์ปกป้องสถาบัน
ทั้งนี้ ผบ.ทบ.ได้ขอขอบคุณทุกคนและขอให้ภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ในการรับใช้ชาติและสร้างคุณประโยชน์ให้กับส่วนรวม พร้อมทั้งตระหนักเสมอว่าจะต้องดำรงตนอย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคมในการมีจิตสาธารณะ มีความเสียสละ กตัญญูรู้คุณแผ่นดินและยึดมั่นในอุดมการณ์ในการปกป้องสถาบันหลักของชาติ และเป็นกลไกของรัฐบาลในการช่วยสร้างสังคมที่มีแต่ความรักสามัคคีนำไปสู่การร่วมมือร่วมใจกันนำพาประเทศชาติเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงต่อไป
แถลงก่อนเกษียณ-ปฏิวัติข่าวลือ
พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวด้วยว่า ในเดือนกันยายน จะมีการแถลงผลงานก่อนเกษียณอายุราชการเพราะจะมีการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกระดับผู้บังคับกองพันขึ้นไปตนจะพูดภาพรวมทั้งหมดเพราะทุกคนก็ทำงาน ไม่ใช่ตนทำคนเดียว ส่วนเรื่องการปฏิรูปกองทัพ ได้มีการไปชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ.2564 แล้ว โดยได้ตอบหมดทุกเรื่อง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงที่มีการปล่อยข่าวลือการปฏิวัตินั้นพล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า“สื่อเอง ยังพูดว่าข่าวลือเลย” เมื่อถามย้ำอยากได้ยินจากปาก ผบ.ทบ.เอง พล.อ.อภิรัชต์ ตอบว่า“นักข่าวยังพูดว่าข่าวลือ”เมื่อถามอีกว่าจะไม่เกิดขึ้นใช่หรือไม่พล.อ.อภิรัชต์ปฏิเสธที่จะตอบคำถามก่อนเดินขึ้นห้องทำงานทันที
วิปเสนอร่างแก้รธน.ฉบับเดียว
ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมร่วมวิป3ฝ่ายในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าการประชุมร่วมกันที่ประชุมได้เห็นชอบให้รองเลขาธิการกฤษฎีกาไปปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลซึ่งมีมติว่าจะเสนอในนามของพรรคร่วมรัฐบาลเพียงร่างเดียว
เคาะแก้ม.256ตั้ง200ส.ส.ร.
โดยยึดหลักการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพื่อให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) โดยองค์ประกอบของ ส.ส.ร. มีข้อยุติว่า มาจากการเลือกตั้งโดยตรง150 คน และมาจากการเลือก ของ ส.ส.10 คน และมาจากการเลือกของ ส.ว.10 คน และมาจากการเลือกของที่ประชุมอธิการบดี ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ ด้านกฎหมายมหาชน รัฐศาสตร์และประสบการณ์ในการบริหารราชการแผ่นดิน 20 คน รวมถึงเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษามีส่วนร่วม จำนวน 10 คน โดยกระบวนการในการดำเนินการเลือกกันเอง โดยให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กำหนดขั้นตอนและหลักเกณฑ์
วางกรอบร่างให้เสร็จ240วัน
นายชินวรณ์ กล่าวว่าส่วนกระบวนการที่จะให้มีการดำเนินการ เมื่อมีการจัดตั้ง ส.ส.ร.แล้ว ให้มีการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 240วัน หลังจากนั้นเสนอให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบ เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบ นำขึ้นทูลเกล้าฯ และประกาศใช้ต่อไป แต่ถ้าหากว่ารัฐสภาไม่ให้ความเห็นชอบก็จะต้องทำประชามติ ทั้งหมดนี้ คือ หลักการของร่างรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับร่างรัฐธรรมนูญของฝ่ายค้าน แต่แตกต่างกันในรายละเอียดที่เพิ่มองค์ประกอบของ ส.ส.ร.เข้ามา
เชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้จริง
เมื่อถามว่าหากรัฐสภาเห็นชอบแล้วจะต้องมีการทำประชามติอีกครั้งหรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า จะทำประชามติเฉพาะที่ในรัฐสภาไม่เห็นชอบเท่านั้น ซึ่งคล้ายกับรัฐธรรมนูญ 2540 เมื่อรัฐสภาเห็นชอบก็จะประกาศใช้เป็นกฎหมายแต่ถ้ารัฐสภาไม่เห็นชอบก็จะต้องทำประชามติ ทั้งนี้ ส่วนตัวคิดว่าแนวความคิดของพรรคร่วมรัฐบาล ในการเสนอร่างรัฐธรรมนูญร่วมกัน คือต้องการให้การแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญแก้ไขได้จริง ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ที่เป็นประเด็นที่กำลังมีการถกเถียงกัน ไม่ว่าจำในเรื่องของบทเฉพาะกาลหรืออำนาจของส.ว.ก็เป็นเรื่องที่ทาง ส.ส.ร.จะไปดำเนินการพิจารณาแก้ไขต่อไป
ที่ประชุมร่วม 3 ฝ่ายเห็นตรงกันว่า น่าจะได้มีการรับฟังความคิดเห็นจากคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญฯจึงกำหนดให้มีการประชุมเพื่อรับฟังรายงานของกรรมาธิการชุดดังกล่าวในวันที่ 10 กันยายนนี้ ทั้งนี้ จะมีการพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 23-24 กันยายน
แจงเสนอร่างฉบับเดียวตัดปัญหา
เมื่อถามอีกว่ามาตรา272 ทางพรรคประชาธิปัตย์ จะยื่นเองหรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่าที่ประชุมวิปรัฐบาล มีมติให้เสนอเพียงร่างเดียว เพราะหากเสนอหลายร่างอาจจะมีปัญหาว่า ผู้เสนอญัตติ จะสามารถไปเซ็นต์ซ้ำซ้อนหลายฉบับได้หรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ถ้าหากถ้าหากเป็น ส.ส.ต้องมีเสียงผู้เสนอ100 เสียง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เราควรเสนอเพียงร่างเดียว และแสดงความจริงใจว่าสามารถร่วมกันนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญได้จริง
ส่งรายงานแก้รธน.ให้สภาฯ31สค.
ที่รัฐสภา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาหลักเกณฑ์และแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 กล่าวถึงการประชุมว่า รายงานของคณะกรรมาธิการฯ เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะประชุมเพื่อตรวจสอบรับรองรายงาน ก่อนนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร หากทุกอย่างเรียบร้อย คาดว่าวันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม จะยื่นรายงานต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ส่วนเนื้อหารายงาน ไม่ได้เป็นลักษณะข้อสรุป เพราะคณะกรรมาธิการฯชุดนี้เป็นคณะกรรมาธิการ ที่ทำการศึกษาพิจารณาทั้งข้อดี ข้อเสีย และแง่มุมต่างๆทั้งที่มีความเห็นตรงกันว่าให้แก้ไขและไม่ให้แก้ไข หรือ แก้ไขในวิธีการที่ต่างกัน บางคนเห็นตรงกันในหลักการแต่ละรายละเอียดต่างกันซึ่งจะนำเสนอความคิดเห็นแง่มุมต่างๆ ให้ครบถ้วนเพื่อเป็นประโยชน์ในการศึกษาต่อไป
ปมอำนาจ สว.รายงานไว้หมด
นายพีระพันธุ์ กล่าวว่าส่วนเรื่องอำนาจ ส.ว.ในการเลือก นายกรัฐมนตรี ที่หลายพรรคเห็นตรงกันว่าควรยกเลิก ความเห็นด้านนี้ก็มีในรายงานแต่มีความเห็นที่เห็นว่าแบบเดิมเหมาะสมแล้วก็มี จะมีการใส่หลักการ และเหตุผลในรายงาน คนที่เอาไปศึกษา จะได้เห็นเหตุผลและพิจารณา โดยในรายงานไม่ได้บอกว่าเห็นด้วย หรือไม่ได้เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญแต่ศึกษาว่า บทบัญญัติต่างๆในรัฐธรรมนูญเขียนไว้ถูกต้องเหมาะสมไว้หรือไม่ ใส่ความเห็นทั้งเสียงส่วนใหญ่และเสียงส่วนน้อย เป็นเอกสารทางวิชาการมากกว่า
“ตามระบบเมื่อสภาผู้แทนฯเห็นชอบแล้ว ก็จะส่งรายงานฉบับนี้ไปที่รัฐบาล โดยหลักการรัฐบาลก็ควรที่จะต้องเอารายงานนี้ไปศึกษาประกอบด้วย แต่ในทางปฏิบัติจริงๆก็อยู่ที่ผู้ที่จะมาทำหน้าที่ต่อไปว่าจะให้ความสำคัญกับรายงานของคณะกรรมาธิการฯแค่ไหนซึ่งก็ไม่ได้ มีบทบังคับไว้”นายพีระพันธุ์ ย้ำ
‘เต้’ขอโทษ’สิระ’จบเรื่องบาดหมาง
ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ นายแทนคุณ จิตติ์อิสระ เลขานุการคณะทำงานประธานสภาผู้แทนราษฎรร่วมแถลงถึงความขัดแย้งระหว่าง นายมงคลกิตติ์กับนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐโดยนายแทนคุณ กล่าวว่าปัญหาความขัดแย้งระหว่างทั้งสองคนทำให้เกิดความไม่สบายใจเพื่อให้เกิดบรรยากาศที่ดีจึงประสานให้ไปพบนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯเพราะท่านก็ไม่สบายใจ อยากเห็นสภาผู้แทนฯเป็นสถานที่ทำงานเพื่อประชาชน ด้วยความรัก ความสามัคคี
ด้านนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่าท่านประธานฯชวนเปรียบเหมือนเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ร้องขอให้เลิกแล้วต่อกัน ตนเป็นลูกผู้ชายเมื่อผู้ใหญ่ในสภาบอกมา ก็พร้อมเลิกแล้วต่อกัน ส่วนที่เคยโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ไปถึงนายสิระยอมรับว่ารุนแรง เป็นโทสะ ต้องขออภัย ยืนยันว่าหลังแถลงข่าวเสร็จ หากเดินสวนกับนายสิระจะไม่มีการลงไม้ลงมืออย่างแน่นอน ส่วนคดีความที่มีการฟ้องร้องกันไปมา ก็เห็นว่าเป็นคดีส่วนตัวโทษเบาๆ คุยกันได้ ก็จบ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกัน ต้องรอนายชวน ประสานมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี