“จุรินทร์” หัวหน้า ปชป.บอกเรื่องจัดซื้อเรือดำน้ำ ยังมีทางออกเชื่อจะชัดเจนในการโหวตผ่านงบในชั้นกมธ.ฯ ไม่การันตี สวนมติพรรคร่วมรัฐบาล ด้าน “อันวาร์” สส.ปัตตานี แถลงหนุนมติ ปชป.ให้คว่ำซื้อเรือดำน้ำพร้อมแนะรัฐบาลจัดลำดับปัญหาความสำคัญ
เมื่อบ่ายวันที่ 28 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีจุดยืนของพรรคปชป.ต่อการโหวตพิจารณาการจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ มูลค่า 22,500 ล้านบาท ซึ่งมติพรรคปชป.ไม่ให้โหวตผ่านงบในชั้นคณะกรรมาธิการ (กมธ.)
วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564ว่าความจริงให้ไปหารือใน กมธ.ก็ต้องรอดูว่าผลออกมาเป็นอย่างไร ขอให้รอว่าผลเป็นอย่างไร เมื่อไปหารือก็ต้องแจ้งกลับมาให้พรรคทราบต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จุดยืนของพรรค ปชป.คือต้องการให้เดินหน้าในการจัดซื้อเรือดำน้ำต่อไปใช่หรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ให้ไปหารือก่อนว่าสุดท้ายแล้วจะดำเนินการอย่างอื่นได้หรือไม่ และก่อนหน้านี้ตนพูดไปชัดเจนแล้วว่าเมื่อมีผลการหารือ ก็ต้องแจ้งให้ทราบ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้หารือ เพราะบางครั้งการพูดอะไรไปก่อนก็จะทำให้เป็นปัญหามากกว่าจะไปช่วยหาทางออก
“ยืนยันว่าที่ประชุม กมธ.ชุดใหญ่น่าจะหาทางออกได้ว่าจะทำอย่างไรและการจะตัดสินใจอย่างไรคงต้องพิจารณาประกอบกันหมดว่าขณะนี้เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เคยพูดแล้วว่าเรื่องเศรษฐกิจและเรื่องสังคมมีความสำคัญ จึงต้องรู้ว่าสุดท้ายแล้วทางออกที่ดีที่สุดควรจะเป็นอย่างไร ขอให้คนที่มีหน้าที่ได้ทำหน้าที่พูดคุยกันก่อน”
เมื่อถามว่าอาจเสนอทางเลือกให้ซื้อเรือดำน้ำแค่1 ลำ นายจุรินทร์กล่าวว่าไม่ขอลงรายละเอียดเพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นการชี้นำ ขอย้ำว่าให้คนที่มีหน้าที่ไปทำหน้าที่ก่อน เพราะกมธ.ประกอบด้วยพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยังไม่ได้พูดเรื่องนี้กับตน เพราะทั้งนายกฯและตนก็พูดชัดว่ายังอยู่ในขั้นตอนของกมธ.
เมื่อถามย้ำว่าพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าจะไม่มีการลงมติโหวตสวนพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ยังไปไม่ถึงขั้นตอนของการลงมติ ตอนนี้ให้ไปหารือเพื่อไปหาทางออกร่วมกันก่อน
ประเด็นดังกล่าวนายอันวาร์ สาและส.ส.ปัตตานี พรรคปชป.แถลงว่าในการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 25ส.ค.ที่ผ่านมาได้เชิญคณะกรรมาธิการงบฯปี64ในสัดส่วนของพรรคทั้งหมดมา เพื่อชักถามถึงรายละเอียดและความจำเป็นในการจัดซื้อ เพื่อเปรียบเทียบความเหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศที่กำลังอยู่ในวิกฤตเศรษฐกิจ ธุรกิจหลายภาคส่วนต้องปิดกิจการ ประชาชนตกงานจำนวนมาก รัฐบาลเกิดปัญหาวิกฤตในเรื่องเงินคงคลัง ต้องขอความเห็นชอบจากสภาในการกู้เงินจำนวนมหาศาลมาแก้ไขวิกฤตครั้งนี้ และรับทราบข้อมูลว่า ขณะนี้ก็ยังไม่มีการเซ็นสัญญาใดๆที่เป็นการผูกมัดอันอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายรัฐบาลไทยในกรณีที่จำเป็นต้องยกเลิก หรือชะลอการซื้อในช่วงที่ประเทศยังอยู่ภายใต้วิกฤตขณะนี้พรรคปชป.จึงมีมติไม่เห็นชอบในการจัดซื้อเรือดำน้ำ
นายอันวาร์ ย้ำว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับมติพรรค แม้เหตุผลที่กองทัพเรืออ้างภารกิจเรื่องความมั่นคงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรับฟังแต่ความมั่นคงของประเทศ มีหลายด้าน ควรต้องลำดับความสำคัญก่อน และหลัง รัฐบาลจึงควรเห็นแก่วิกฤตประเทศก่อน เช่น การแก้ไขความชัดแย้งกรณีเหมืองทองอัครา กรณีโครงการโฮปเวล ที่รฟท.แพ้คดี ฯลฯ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27สิงหาคม นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรีพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษก กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564เปิดเผยว่ากมธ.งบฯได้ข้อสรุปให้เรียกคณะอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ที่มีนายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน เข้ารายงานผลการพิจารณา ซึ่งรวมถึงงบประมาณในการจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ วงเงิน 2.25 หมื่นล้านบาท ตามที่กองทัพเรือเสนอ ในวันที่ 31 ส.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป
โดยเบื้องต้นกมธ.งบประมาณฯยังไม่มีการเชิญกองทัพเรือ(ทร.)มาร่วมพิจารณาด้วย แต่จะเป็นการซักถามถึงผลการพิจารณาในชั้นอนุกมธ.อย่างละเอียดก่อน หากคำชี้แจงของคณะอนุกมธ.ไม่ครบถ้วนรอบด้าน ถึงจะมีการเชิญกองทัพเรือ ในฐานะหน่วยรับงบประมาณเข้ามาชี้แจงต่อกมธ.งบประมาณฯคณะใหญ่อีกครั้งในวันที่ 1 กันยายนนี้ โดยมั่นใจว่า การพิจารณางบประมาณฯปี 2564 จะเสร็จทันภายในระยะเวลา 105 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี