แบะท่าพร้อมนั่งขุนคลัง! ‘สันติ’ร่ายยาวยันไร้ขัดแย้ง ย้ำ‘ปรีดี’ไขก๊อกเครียดเรื่องงาน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 2 กันยายน 2563 ที่รัฐสภา นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกระแสข่าวนายปรีดี ดาวฉาย อดีต รมว.คลัง ลาออก เพราะขัดแย้งกันในเรื่องแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงของกระทรวง ว่า ยืนยันไม่มีปัญหาความขัดแย้งในเรื่องดังกล่าว และความจริงอำนาจทุกอย่างก็เป็นของรัฐมนตรีว่าการ ส่วนตำแหน่งตนเป็นรัฐมนตรีช่วย ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าช่วยให้ภารกิจต่างๆที่รัฐมนตรีมอบหมายให้เสร็จอย่างเร็วและมีประสิทธิภาพที่สุด
ทั้งนี้ สังคมอาจเข้าใจว่าการแต่งตั้งข้าราชการระดับอธิบดีมีความขัดแย้งกัน ยืนยันไม่มีความขัดแย้ง จะสังเกตได้ว่าสัปดาห์ที่แล้วชื่อของอธิบดีเป็นอย่างไร สัปดาห์นี้ก็ผ่านไปด้วยความราบรื่น ชื่อไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง แต่การทำงานต้องมีการให้ข้อคิดเห็น ส่วนการตัดสินใจขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ หมายความว่าเมื่อรัฐมนตรีว่าการมาเป็นผู้บังคับบัญชา เราก็ต้องฟัง และรัฐมนตรีว่าการเองก็ต้องฟังด้วย
“เมื่อคืนวันที่ 1 กันยายน เวลาประมาณ 20.00น. นายปรีดีโทร.มาหาว่าไม่ทราบว่าข่าวออกมาทำนองนั้นได้อย่างไร ท่านบอกว่าต้องแสดงความเสียใจกับผมที่ข่าวออกมาแบบนั้น ซึ่งข้อเท็จจริงไม่ได้มีอะไรขัดแย้ง อีกทั้งท่านยังขอบคุณผมด้วยซ้ำที่ให้ความร่วมมือในทุกเรื่องทุกประเด็น และผมยังแนะนำประสบการณ์ที่ได้ทำงานมาเกิน1ปี ทำให้หลายเรื่องที่นายปรีดีออกนโยบายไปแล้วไม่ต้องมาศึกษา ซึ่งมาจากความคิดเห็นของผมหลายเรื่อง และผมเองก็ได้ช่วยงานท่านเยอะ ท่านก็บอกว่าอย่างนั้น ทั้งที่ผมไม่ได้รับผิดชอบในกรมนั้นๆ แต่ก็ช่วยดำเนินการ ซึ่งท่านบอกว่าเพื่อเปิดโอกาสให้ท่านได้ทำงานในเรื่องสำคัญๆของกระทรวงได้ และท่านก็ไว้ใจผมที่ไปทำงานในสภา ดังนั้นขอเรียนว่าทำงานด้วยความเข้าอกเข้าใจและด้วยประสิทธิภาพสูงสุดของกระทรวง นั้นคือบ้านเมือง ไม่มีความขัดแย้งแม้แต่น้อย” นายสันติ กล่าว
นายสันติ กล่าวด้วยว่า นายปรีดีบอกว่าเคยป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบเมื่อหลายปีก่อน แต่ตอนนี้รักษาตัวหายแล้ว การมาทำงานในกระทรวงการคลังระยะนี้ จากภาวะโควิดและภาวะเศรษฐกิจโลก ผู้ที่มาทำงานอยู่ในกระทรวงการคลังต้องยอมรับมีความกดดัน มีนโยบายใหม่ๆที่จะต้องคิดออกมาเพื่อดูแลประชาชนในทุกภาคส่วน ซึ่งจากปัญหาโควิดกระทรวงการคลังต้องเข้าไปดูการสร้างงานสร้างอาชีพ แต่ความกดดันผมยอมรับว่าไม่ว่าจะเป็นท่านว่าการ หรือตนก็มี แต่บางครั้งตนหลีกเลี่ยงโดยการไม่พูด เพราะเรามีว่าการ ซึ่งว่าการมีหน้าที่ต้องพูด และความกดดันที่ต้องคิดอยู่ตลอดเวลาถือเป็นเรื่องสำคัญ
เมื่อถามว่าสาเหตุการลาออกของนายปรีดีมาจากการกดดันในการทำงานใช่หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ความจริงเป็นเรื่องงานในช่วงนี้ที่ถาโถมเข้ามาให้กับกระทรวงการคลังที่ต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจจำนวนมากให้กับทุกภาคส่วน
เมื่อถามย้ำว่าเป็นเพราะเศรษฐกิจแย่มากจนทำให้นายปรีดีลาออก ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน นายสันติ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริงที่สถานการณ์เช่นนี้ทำให้รัฐมนตรีต้องลาออก เพราะเรา โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรียังสามารถรับได้ทุกสถานการณ์ เพราะเป็นทั่วโลก แต่ประชาชนอาจมีความลำบากอยู่บ้างแต่เมื่อเทียบกับประเทศใหญ่ๆในโลก พี่น้องของเราแม้จะมีเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลง แต่ด้านอื่นๆเรายังแข็งแกร่งโดยเฉพาะระบบการเงินของเรายังดี มีเสถียรภาพที่แข็งแกร่งมาก
เมื่อถามอีกว่านายปรีดีเพิ่งเข้ามาทำงานได้เพียง 20 กว่าวันไม่น่าจะแบกรับภาระที่เกิดขึ้นในขณะนี้มากจนต้องลาออก หลายฝ่ายจึงมองว่าสาเหตุอาจมาจากปัญหาการเมืองภายในพรรคพลังประชารัฐ นายสันติ กล่าวว่า ไม่มีความขัดแย้งทั้งภายในพรรคหรือกับตนแม้แต่นิดเดียว ในภาวะนี้ไม่ใช่ภาวะปกติคนที่จะมาเป็นรมว.คลังและอีกหลายกระทรวงต้องมีความแข็งแกร่ง มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง ซึ่งนายปรีดีบอกกับตนมาเป็นอาทิตย์แล้วว่าแม้จะรักษาดีแล้ว แต่ต้องมาเจอเรื่องให้คิดตลอด24ชั่วโมงในการแก้ปัญหาให้ประชาชน ท่านบอกว่าความเครียด การใช้สมองมากๆจะทำให้ร่างกายหย่อนสมรรถภาพ ท่านบอกว่าซีกขวาของร่างกายรู้สึกชาค่อนข้างมาก แพทย์จึงแนะนำให้ลดความเครียดและต้องคิดเรื่องงานให้น้อยลง แต่นายปรีดีบอกว่าหยุดคิดไม่ได้เพราะมารับตำแหน่งนี้แล้ว สุดท้ายก็ตัดสินใจลาออก ทั้งนี้ ตนให้ความร่วมมือเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ในการผ่อนงานของนายปรีดี จะทำงานสนองในทุกเรื่อง
เมื่อถามถึงรัฐมนตรีคนใหม่ควรมีคุณสมบัติอย่างไร เพราะหลายคนมองว่านายสันติก็สามารถเป็นรัฐมนตรีเองได้ นายสันติ กล่าวว่า ในภาวะเร่งด่วนแบบนี้ต้องมีผู้ที่รู้สถานการณ์ของทั้งประชาชนและระบบเศรษฐกิจในประเทศและโลกว่าเป็นอย่างไร และรัฐมนตรีที่จะมาใหม่ต้องเข้าไปสนับสนุนในภาคส่วนที่พลิกวิกฤตของโควิดให้เป็นโอกาสให้จงได้ ในสิ่งที่คนทั้งโลก7พันล้านคนต้องกินต้องใช้
เมื่อถามย้ำว่าด้วยความรู้ความสามารถที่มีอยู่ หากนายกรัฐมนตรีทาบทามให้เป็นรมว.คลัง พร้อมหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า สิ่งที่ตนทราบเพราะได้ทำงานกับนายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง เป็นเวลามา 1 ปี สิ่งที่นายอุตตมทราบตนก็ทราบ สิ่งที่นายอุตตมทำแล้วเป็นประโยชน์ให้ทุกภาคฝ่าย ตนก็ทราบ สิ่งที่เป็นจุดอ่อน ตนก็ทราบอีก ฉะนั้น ต่อไปข้างหน้าเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ถามย้ำว่าแสดงว่าถ้านายกฯทาบทามจะไม่ปฏิเสธใช่หรือไม่ รมช.คลัง ระบุว่า การทำงานให้บ้านเมืองโดยที่เดินต่อไปได้เลย ไม่ต้องศึกษางานนั้นก็ต้องอยู่ที่นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
“ผมเรียนแล้วว่าผมทำงานร่วม 2 รมว.คลังที่อยู่ในภาคเศรษฐกิจและการเงิน และอีกหนึ่งรองนายกที่คว่ำหวอดทางด้านเศรษฐกิจ ฉะนั้นผมก็ซึมซับเศรษฐกิจของบ้านเราทั้งภาวะเดินหน้าและถดถอย โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ต้องทำงานได้ทันที ความกดดันนั้นขอเรียนว่าผมผ่านมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ในอดีตผมก็เคยอยู่กระทรวงใหญ่ๆมาแล้ว เคยเป็นรมว.คมนาคม รมว.พัฒนาสังคมฯ ซึ่งผมมีความเชี่ยวชาญและภูมิต้านทานพร้อมรับแรงกดดันในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ได้” นายสันติ กล่าว
เมื่อถามว่าดูเหมือนจะไม่ขัดข้องในการเป็นรมว.คลัง นายสันติ กล่าวว่า นายกฯและพล.อ.ประวิตรมอบหมายให้ทำงานตรงไหน ตนก็พร้อมน้อมรับทำงานเพื่อบ้านเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี