สองบุตรสาวของนายกฯ มอบอำนาจให้ทนายความแจ้งความเอาผิดกับผู้เผยแพร่ความเท็จทำให้เกิดความเสียหายต่อตนเองและวงศ์ตระกูล โดยชี้แจงถึงข้อกล่าวหา 10 ข้อ ว่า ไม่เป็นความจริง ทั้งเรื่องเปลี่ยนนามสกุลมารดาเพื่อทำผิด กม. อาศัยอย่างสุขสบายอยู่ในคฤหาสน์ต่างประเทศ เป็นเส้นทางฟอกเงินของบิดาฯลฯ ลั่น ดำเนินคดีถึงที่สุด ไม่มีการยอมความ ด้าน“ประยุทธ์” ระบุ เป็นสิทธิปกป้องชื่อเสียงตัวเอง
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 กันยายน ที่ สน.นางเลิ้ง นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะทนายความประจำสำนักกฎหมาย รับมอบอำนาจจาก น.ส.ธัญญาและน.ส.นิฏฐา จันทร์โอชา บุตรสาว 2 คน ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ให้ดำเนินคดีผู้เผยแพร่ข้อความเท็จ ซึ่งส่งผลเสียหายต่อชื่อเสียง โดยมี พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง ผบก.น.1 ร่วมสอบปากคำ
นายอภิวัฒน์ กล่าวว่า ตนรับมอบอำนาจจากบุตรสาวทั้งสองของ พล.อ.ประยุทธ์ ให้มาแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคล นิติบุคคลและสื่อออนไลน์ต่างๆโดยเฉพาะทวิตเตอร์รวมกว่าร้อยบัญชีที่ลงข้อมูลเท็จให้ร้าย ซึ่งมีคนหลงเชื่อ ไม่ไตร่ตรองนำไปแชร์ต่อและแสดงความเห็นอย่างเสียหาย ถือเป็นการหมิ่นประมาทบุคคลที่สาม เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายอาญาและพรบ.คอมพิวเตอร์ จึงต้องการให้ตำรวจตรวจสอบว่ามีใครที่ทำผิดบ้าง ส่วนกรณีมีนักการเมืองไปนำข้อมูลมาโพสต์แชร์ต่อด้วยนั้น ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนจะพิจารณาว่าเป็นตัวการร่วมหรือผู้สนับสนุนหรือไม่ ซึ่งลูกความทั้งสองยืนยันจะดำเนินคดีถึงที่สุด ไม่มีการยอมความ เพื่อเป็นบรรทัดฐานไม่ให้เกิดขึ้นอีก ลูกความตนพยายามอดกลั้นไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ล่าสุดเป็นเรื่องร้ายแรง หาว่าทุจริตโกงเงินประเทศหลักหมื่นล้าน ซึ่งไม่มีมูลความจริงทำให้เสื่อมเสียงวงศ์ตระกูล
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการดำเนินการของบุตรสาวในกรณีนี้ว่า “เขาบรรลุนิติภาวะแล้วก็เป็นสิทธิของเขา ที่จำเป็นต้องปกป้องชื่อเสียงของเขาเหมือนกันก็เป็นเรื่องของเขา ผมก็ฟังเขา คนรุ่นใหม่นะ”
รายงานข่าวจากทำเนียบแจ้งว่า ได้มีการเผยแพร่คำชี้แจงของ น.ส.ธัญญา และ น.ส.นิฏฐา จันทร์โอชา จากข้อกล่าวหาใน Social Media #ตามหาลูกประยุทธ์ ที่เป็นกระแสสังคมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาโดยสรุปว่า ทั้งคู่มีความประสงค์ที่จะดำเนินการทางกฎหมายกับบุคคล คณะบุคคล นิติบุคคล หรือสื่อใดๆ ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จ, ด่าทอให้ร้าย, กล่าวหา, คุกคาม, หมิ่นประมาท โดยปราศจากหลักฐานและไม่มีมูลความจริง ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตนเองและวงศ์ตระกูล ถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง จึงจำเป็นต้องปกป้องเกียรติยศ ศักดิ์ศรี สิทธิของตนเองและวงศ์ตระกูล พร้อมชี้แจง ในประเด็นข้อกล่าวหาต่างๆ ซึ่งเป็นความเท็จทั้งสิ้น ดังนี้ ข้อ 1 กล่าวหาว่า มีการเปลี่ยนมาใช้นามสกุลมารดา เพื่อทำเรื่องผิดกฎหมายต่างๆ เช่น ฟอกเงิน ขอวีซ่าเพื่อหนีไปอยู่ต่างประเทศ ฯลฯ ข้อเท็จจริงคือ ไม่เคยมีการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลใดๆ ยังคงใช้ชื่อ ธัญญา จันทร์โอชา และ นิฏฐา จันทร์โอชา ตั้งแต่กำเนิดจนถึงปัจจุบัน
ข้อ 2 กล่าวหาว่า ไม่ได้อยู่ประเทศไทย ข้อเท็จจริงคือ อยู่ประเทศไทยมาโดยตลอด ใช้ชีวิตปกติอย่างประชาชนคนไทยทั่วไป ข้อ 3 กล่าวหาว่า เรียนอยู่ประเทศออสเตรเลีย ข้อเท็จจริงคือ ไม่เคยเรียนที่ประเทศออสเตรเลีย เคยเดินทางไปท่องเที่ยวเพียงครั้งเดียว เมื่อวัยเด็ก ข้อ 4 กล่าวหาว่า เรียนอยู่ต่างประเทศ ข้อเท็จจริง คือ ข้าพเจ้าทั้งสอง เรียนจบชั้นประถมและมัธยม จาก โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ เรียนจบปริญญาตรี จาก คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เท่านั้น
ข้อ 5 กล่าวหาว่า สอบตกปริญญาโท อธิการบดีถูกกดดันให้รับเข้าเรียน ข้อเท็จจริงคือ ไม่ได้เรียนปริญญาโท และ ไม่เคยสอบตก เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ด้วยเกรดเฉลี่ย 4.00 และ 3.96 และ เรียนจบปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ได้รับเกียรตินิยมอันดับ 2 ทั้งคู่ ข้อ 6 กล่าวหาว่า ปัจจุบันใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ที่ประเทศอังกฤษ โดยมีเจ้าสัวซื้อให้ ข้อเท็จจริงคือ ข้าพเจ้าทั้งสองใช้ชีวิตตามปกติในประเทศไทย ไม่เคยพำนักอาศัยในประเทศอังกฤษหรือประเทศอื่นใดเป็นระยะเวลานาน ไม่เคยพักอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ใดๆ ข้าพเจ้าทั้งสองได้เดินทางไปเที่ยวประเทศอังกฤษครั้งล่าสุดในปีพ.ศ.2558 ด้วยวีซ่าท่องเที่ยว โดยเข้าพักโรงแรมตามปกติ ในการนี้ ข้าพเจ้าทั้งสองได้มอบหลักฐานการเดินทางเข้าออกประเทศไทย ให้กับพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว
ข้อ 7 กล่าวหาว่า มีการซุกเงิน ฟอกเงิน โดยบิดาโอนเงินเข้าบัญชีลูกที่ต่างประเทศ ข้อเท็จจริงคือ ข้าพเจ้าทั้งสองไม่มีบัญชีธนาคารที่ต่างประเทศ มีเพียงบัญชีธนาคารในประเทศไทยเท่านั้น ข้อ 8 กล่าวหาว่า บิดาโอนเงินเข้าบัญชีลูกทั้งสองคนเพื่อฟอกเงิน ข้อเท็จจริงคือ บิดาโอนเงินให้ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2556 ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ หรือ ความลับใดๆ บิดาเป็นผู้ชี้แจงเองและแจกแจงที่มาที่ไปของเงินอย่างชัดเจนในการยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.อย่างเปิดเผย ตั้งแต่เมื่อครั้งรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อปี พ.ศ. 2557 และยังปรากฏเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อทั่วไปหลายครั้งแล้ว โดยเงินส่วนนี้มีที่มาจากการขายที่ดินของ พันเอก ประพัฒน์ จันทร์โอชา (คุณปู่) และมีการแบ่งทรัพย์สินภายในครอบครัว ซึ่งที่ดินผืนนี้เป็นมรดกตกทอดของครอบครัวมามากกว่า 50 ปี
ข้อ 9 กล่าวหาว่า ทำไมไม่เคยมีภาพหลุดออกมาใน Social Media ใดๆ เลย แม้กระทั่งของเพื่อนยังไม่มีภาพ ข้อเท็จจริง ข้าพเจ้าทั้งสองไม่มีบัญชีส่วนตัวใน Social Media ใดๆ และกลุ่มเพื่อนที่ติดต่อกันก็เข้าใจในสิทธิความเป็นส่วนตัวจึงไม่เคยแชร์ภาพใดๆ และไม่ต้องการให้มีบุคคลใดนำภาพไปแอบอ้างใช้หาประโยชน์ ข้อ 10 กล่าวหาว่า ไม่เปิดเผยตัวเหมือนลูกนักการเมือง หรือ ลูกนายกฯ คนอื่นๆ ข้อเท็จจริงคือ ข้าพเจ้าทั้งสองใช้ชีวิตปกติเหมือนประชาชนคนไทยทั่วไป ไม่ได้ต้องการเป็นที่รู้จักหรือเปิดเผยตัวว่าเป็นลูกใคร เพราะ ไม่ต้องการได้รับอภิสิทธิ์หรือเพื่อรับผลประโยชน์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งของบิดา หากมีใครแอบอ้างว่ารู้จัก สามารถช่วยเหลือเพื่อรับผลประโยชน์ต่างๆ ได้ เป็นเรื่องเท็จทั้งหมด
ข้าพเจ้าต้องการใช้สิทธิทางกฎหมายโดยการฟ้องดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด กับผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จ, ด่าทอให้ร้าย, กล่าวหา, คุกคาม, หมิ่นประมาท ทั้งหมด ทั้งผู้ที่โพสต์และแชร์ ในทุกช่องทาง Social Media ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Youtube ฯลฯ รวมถึงสื่อ หรือ พื้นที่สาธารณะอื่นๆ โดยไม่มีการยอมความใดๆทั้งสิ้น โดยประสงค์ให้กรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่างและบรรทัดฐานของการใช้ Social Media ในประเทศไทยว่า ผู้ใดก็ตาม ไม่มีสิทธิเผยแพร่ข้อมูลเท็จ, ด่าทอให้ร้าย, กล่าวหา, คุกคาม, หมิ่นประมาท ผู้อื่น โดยปราศจากหลักฐาน และในขณะเดียวกันก็ไม่ควรมีผู้ใดตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง หากผู้ใดมีหลักฐานการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ, ด่าทอให้ร้าย, กล่าวหา, คุกคาม, หมิ่นประมาท ที่เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าทั้งสองเพิ่มเติม ขอความร่วมมือส่งข้อมูลมาที่ทนายความ ทางอีเมล law.one555@gmail.com เพื่อดำเนินการฟ้องร้องต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี