"วิชา"ชี้"บิ๊กตู่"ระบุหนักแน่นจัดการคดี"บอส"ต่อ ยันต้องล่าตัวมาดำเนินคดีให้ได้ ถกปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมนัดแรก กำหนดประเด็นปฏิรูปกฎหมาย-ยุติธรรมต่อ
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2563 ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อาคารเทเวศร์ นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน กล่าวภายหลังแถลงสรุปข้อเท็จจริงกรณีอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ว่า เมื่อคณะกรรมการได้ส่งรายงานสรุปให้นายกรัฐมนตรีไปเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว จากนี้แล้วแต่นายกรัฐมนตรีจะนำข้อสรุปทั้ง 8 ข้อรับไปดำเนินการ ซึ่งนายกรัฐมนตรียืนยันหนักแน่นว่าจะรับไปทำอย่างแน่นอน คงต้องใช้เวลา โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแล จะเป็นผู้จัดการและดำเนินการให้เป็นไปตามแนวทางที่คณะกรรมการได้มีข้อเสนอแนะเอาไว้ ส่วนภาระของตนและคณะกรรมการ คือการศึกษา และเสนอแนะเรื่องที่เกี่ยวกับการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้พ้นจากความเสื่อม หรือความไม่แน่นอนที่ผู้คนไม่เชื่อถือ จึงต้องอาศัยการถอดบทเรียนนี้ มาแก้ไขกฎหมายในอนาคต กฎหมายใดล้าสมัยหรือจะต้องมีข้อปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ก็จะรีบนำเสนอภายใน 30 วัน
เมื่อถามถึงการตั้งเรื่องส่งฟ้องใหม่จะเริ่มต้นอย่างไร นายวิชา กล่าวว่า ต้องเริ่มจากตำรวจ เพราะเขาจะต้องเป็นผู้สอบสวนใหม่ แต่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะเป็นผู้สั่งเพียงคนเดียวไม่ได้ คาดว่าจะเป็นภาระของ ผบ.ตร.คนใหม่ที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องต่อไป โดยตำรวจจะต้องปรึกษาหารือกับ ป.ป.ท.และนายวิษณุ ที่เป็นผู้กำกับดูแลศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.)
เมื่อถามต่อถึงกรณีที่นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ให้ข้อมูลว่าอัยการคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้หลบหนีออกนอกประเทศไทยแล้ว นายวิชา กล่าวว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน ป.ป.ท.ต้องนำประเด็นนี้ไปตรวจสอบต่อไป ส่วนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าการเปิดเผยรายงานฉบับนี้ดูไม่ชัดเจนในรายละเอียด ทำให้มีความกังวลว่าจะมีแต่ทฤษฎีหรือไม่นั้น 90 เปอร์เซ็นต์คิดว่าทำจริงก็พอแล้ว
เมื่อถามอีกว่าครบรอบ 8 ปีคดีนี้ แต่ต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด นายวิชา กล่าวว่า สิ่งที่ผิดพลาด ไม่ว่าระยะเวลายาวนานแค่ไหน ถึงแม้จะหมดอายุความไปแล้วทั้งหมด ตนยืนยันว่าการทำให้กระจ่างชัด ทำให้คนรู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เราจะต้องกล้าหาญเพียงพอ ที่จะยอมรับในสิ่งที่ผิดพลาดอะไรผิดก็คือผิด และไม่ว่าผู้ต้องหาอยู่ที่ไหนจะต้องตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนกรอบการประชุมของคณะกรรมการหลังจากนี้ วางกรอบไว้ว่าจะต้องดูทุกเรื่อง ไม่ว่าจะมีผู้เสนอหรือคณะกรรมการเห็นสมควร ก็จะมากำหนดประเด็น ว่าเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับองค์กรใดไม่ว่าจะตำรวจ พนักงานสอบสวน เพราะพนักงานสอบสวนมีทั้งที่อยู่ในตำรวจ ฝ่ายปกครอง อัยการ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดังนั้นต้องดูในภาพรวมทั้งหมด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี