ศาลอาญาสั่งถอนประกัน
‘อานนท์’นอนคุก
ผิดเงื่อนไขปล่อยชั่วคราว
‘ไมค์’รอดศาลให้ประกัน
แต่เจ้าตัวไม่ยื่น-เข้าคุกอีกคน
อนุชาปัดดัน‘สันติ’ขุนคลัง
ยันเป็นอำนาจนายกฯชี้ขาด
ศาลสั่งเพิกถอนประกัน “อานนท์” คุมตัวเข้าเรือนจำด้าน “ไมค์ ระยอง” สั่งเพิ่มเงินประกัน 2 แสน พร้อมมีเงื่อนไข ห้ามทำผิดซ้ำ แต่ไม่ยื่นประกัน-สุดท้ายส่งตัวเข้าเรือนจำ“อานนท์”ชี้นัดชุมนุมใหญ่ 19 กันยายนที่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มี “บิ๊กเซอร์ไพรส์”แน่“บิ๊กแดง” รับไม่ห่วงม็อบชุมนุมใหญ่ “อนุชา” เลขาฯพปชร.ปัดตอบปม“สันติ” เสนอตัวนั่ง “รมว.คลัง”ย้ำเป็นอำนาจ“นายกฯ”เชื่อปท.ไม่ขาดคนมีฝีมืออุบไต๋ทาบ“บิ๊กแป๊ะ”สวมเสื้อ พปชร.ชิงเก้าอี้‘ผู้ว่าฯกทม.’ ด้าน‘สาทิตย์-เทพไท’นำ’ทีมกบฏ’ปชป.ชงแก้รธน.รื้อ ม.272ปิดสวิตช์ ส.ว.ตัดสืบทอดอำนาจ ล่าชื่อ‘ฝ่ายค้าน-รบ.ครบ98เสียง
เมื่อเวลา 09.00น.วันที่ 3กันยายน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนเพิกถอนประกัน ของ นายอานนท์ นำภา ทนายความ และแกนนำม็อบปลดแอก และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง แกนนำกลุ่มเยาวชนภาคตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย ผู้ต้องหาคดียุยงปลุกปั่น,มั่วสุมตั้งแต่10คน ขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย พรบ.จราจรและพรบ.สาธารณสุข สืบเนื่องจากพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ยื่นคำร้องขอให้ศาลถอนประกัน นายอานนท์และนายภาณุพงศ์ เนื่องจากผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราว กรณีเมื่อวันที่ 18ส.ค.ที่ทั้ง สองได้ขึ้นเวทีปราศรัย ที่ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ในลักษณะที่อาจเป็นการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกับการปราศรัยในการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก
ตำรวจคุมเข้ม-มวลชนเกาะติด
โดยนายอานนท์ นำภา และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ เดินทางมาศาลเพื่อไต่สวนเพิกถอนประกัน บรรยากาศบริเวณหน้าศาลอาญา มีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ มาดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยนำแผงเหล็กมาวางกั้น พร้อมตั้งจุดคัดกรอง สื่อมวลชนสามารถติดตามถ่ายภาพได้นอกแนวแผงเหล็กกั้น ส่วนกลุ่มมวลชนเดินทางมาให้กำลังใจเพียงเล็กน้อย โดยให้ติดตามสถานการณ์อยู่ด้านนอกแนวแผงเหล็กกั้นด้วยเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ ศาลอาญาอนุญาตให้ฝากขังและปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหาทั้ง2ราย เมื่อวันที่ 8 ส.ค.2563 โดยกำหนดวงเงินประกันคนละ1แสนบาทและไม่ต้องวางหลักทรัพย์ประกันแต่กำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำการใดๆในลักษณะเดียวกับการกระทำที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้อีก มิฉะนั้นถือว่าผิดสัญญาประกัน
ศาลไต่สวน2แกนนำนาน4ชม.
เวลา13.00น.ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลไต่สวนเพิกถอนประกัน กรณีผิดเงื่อนไขการประกันตัว 2 ผู้ต้องหา นายอานนท์ นำภา และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ“ไมค์ ระยอง”ช่วงเช้าเสร็จสิ้นแล้ว ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
โดยนายอานนท์ เผยว่าช่วงเช้าได้มีการนำพยานหลักฐานแถลงต่อศาล ยืนยันถึงการขึ้นปราศรัยที่ไม่ได้ผิดเงื่อนไขที่ศาลได้กำหนด โดยได้มีการแสดงหลักฐาน พร้อมยืนยันว่าการแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิเสรีภาพตามสิทธิพลเมือง หากตนและไมค์จะต้องไปอยู่ในเรือนจำถือว่าพวกเราได้ต่อสู้มาเต็มที่แล้ว ถ้าเพิกถอนประกันก็เชื่อว่าไม่มีผลต่อการเรียกร้องประชาธิปไตย เพราะเชื่อว่าทุกคนสามารถขับเคลื่อนให้เดินไปข้างหน้าได้ การขังตนเองในเรือนจำไม่ได้เป็นประโยชน์อะไร
ลั่นม็อบ19กย.มี’บิ๊กเซอร์ไพรส์’
นายอานนท์ ยังกล่าวว่าส่วนการนัดชุมนุมใหญ่19 กันยายนนี้ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เบื้องต้นทราบว่า กลุ่มนักศึกษา จะมีการพิมพ์หนังสือ 100,000 เล่ม ไว้แจกให้กับผู้ชุมนุมและให้ผู้ชุมนุมเตรียมรองเท้าผ้าใบมา เชื่อว่ามี“บิ๊กเซอร์ไพรส์”อย่างแน่นอน
ด้าน นายภานุพงศ์ ยืนยันว่าการชุมนุมเป็นไปตามกฎรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากศาลมีคำพิพากษาอย่างไร ตนพร้อมที่จะน้อมรับ แต่ยืนยันว่าการแสดงความคิดเห็นจองตนเป็นไปตามสิทธิพลเมือง ซึ่งเป็นไปตามหลักสากล ส่วนวันที่ 19 กันยายน หากแกนนำ หรือ ผู้จัดเชิญตนไป ตนก็ยินดีที่จะไป ส่วนศาลจะพิจารณาอย่างไรนั้นก็เป็นไปตามกระบวนการ แต่เราพร้อมที่จะสู้อยู่แล้ว แม้หลังจากนี้จะถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ แต่ก็มั่นใจในมวลชนที่เหลืออยู่จะขับเคลื่อนประชาธิปไตยได้
‘อานนท์’นอนคุก/’ไมค์’เข้าด้วย
ต่อมา เวลา16.00น.ศาลพิเคราะห์ คำเบิกความและพยานหลักฐานชั้นไต่สวนและคำคัดค้านแล้วเห็นว่า มีพฤติการณ์หลังปล่อยตัวแล้ว นายภาณุพงศ์ ผู้ต้องหายอมรับว่าไปปราศรัยที่ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตในวันที่10 ส.ค.63จริง แต่จำเนื้อหาว่าปราศรัยอะไรได้บ้าง ประกอบกับพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีได้นำพยานหลักฐานไปขออนุมัติหมายจับผู้ต้องจากศาลจังหวัดธัญบุรีในข้อเดียวกันอีกด้วย โดยพยานหลักฐานของผู้ร้อง จึงเพียงพอและเชื่อว่าผู้ต้องหาได้กระทำจนอาจจะก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง เห็นว่านายภาณุพงศ์ ผู้ต้องหากระทำผิดเงื่อนปล่อยตัวชั่วคราวของศาลจริง
เมื่อพิเคราะห์อายุและอาชีพการงานของผู้ต้องหาแล้ว จึงให้โอกาสกลับตัวศาลจึงใช้ดุลยพินิจ เพิ่มวงเงินประกันจาก 100,000 บาท เป็น 200,000 บาท และให้รายงานตัวทุก15วัน นับตั้งแต่วันนี้ หากกระทำผิดเงื่อนไขปล่อยคราวอีก ศาลจะมีคำสั่งเพิกถอนการประกันตัวต่อไป อย่างไรก็ตาม’ไมค์’ไม่ยื่นขอประกันตัว จึงต้องส่งตัวเข้าเรือนจำไปด้วยอีกคน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าในส่วนของนายอานนท์ นั้น ศาลเห็นว่า กระทำผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวจริง ศาลจึงมีคำสั่งให้เพิกถอนการประกันตัวนายอานนท์ ภายหลังสั่งเพิกถอนการประกันตัวของนายอานนท์ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวฝากขังในเรือนจำ
‘อานนท์’โพสต์ทิ้งทวนปลุก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลสั่งถอนประกันตัว นายอานนท์ นำภา ทนายความและแกนนำคณะประชาชนปลดแอกแล้ว โพสต์ข้อความที่เขียนไว้บนแผ่นกระดาษว่า “ยินดีที่ได้ต่อสู้กับทุกคน เราเดินมาไกล จงเดินต่ออย่างกล้าหาญ หน้าที่นอกคุกผมจบแล้ว ขอเดิมพันทั้งหมดเพื่อการเปลี่ยนแปลง 19 กันยายนนี้ ช่วยยืนยันที่ว่า เรามาถูกทาง เชื่อมั่นในทุกคน 3 ก.ย.63 ณ ศาลอาญา” “ให้การขังผมในวันนี้ เป็นใบเสร็จของการคุกคามประชาชน 19ก.ย. 63 ไปเอาคืน”
บิ๊กแดงไม่ห่วงชุมนุมใหญ่19กย.
ที่หอประชุมกิตติขจร ภายในกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มอบหมายให้ พล.ท.อัครเดช บุญเทียม รองเสนาธิการทหารบก เป็นประธานเปิดงานวันภูมิปัญญานักรบไทย เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานวิจัย และสิ่งประดิษฐ์ทางทหารของกองทัพบก พร้อมทั้งจัดให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางทหาร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19กันยายน มีอะไรน่าห่วงหรือไม่ ในฐานะที่ดูแลความสงบเรียบร้อย พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวสั้นๆว่า“ไม่น่าห่วง”
อนุชาย้ำขุนคลังอำนาจนายกฯ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะรองหัวหน้าพรรคและผอ.พรรค พปชร.ระบุว่าพร้อมขึ้นเป็นรมว.คลังว่าเรื่องนี้ขอไม่ตอบ ผู้สื่อข่าวถามว่าตำแหน่ง รมว.คลัง เป็นโควตาของนายกรัฐมนตรีหรือของ พปชร. นายอนุชา กล่าวว่าตำแหน่งรัฐมนตรี ไม่มีเรื่องของโควตา เป็นอำนาจของนายกฯเพียงคนเดียว ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยในประชุมกรรมการบริหารพรรค เพราะยกเลิกไป ขอย้ำว่าการแต่งตั้งรัฐมนตรีเป็นอำนาจของนายกฯ
เมื่อถามว่ามีข่าวว่าคนนอกไม่กล้าเข้ามารับตำแหน่ง เพราะกลัวฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะ พปชร. นายอนุชา กล่าวว่า เป็นการเข้าใจอะไร ที่คลาดเคลื่อน ข่าวที่ออกไปทำให้เกิดความขัดแย้ง จริงๆแล้วไม่มีความขัดแย้ง การที่นายปรีดี ดาวฉาย ลาออกจากรมว.คลัง เป็นเรื่องสุขภาพจริงๆ คิดว่าเป็นเหตุสุดวิสัยซึ่งคนๆหนึ่งถ้าป่วยแล้ว เราไม่สามารถไปป้องกัน ไม่ให้มันเกิดขึ้นได้
เชื่อประเทศไม่ขาดคนมีฝีมือ
“เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว รัฐบาลโดย นายกฯก็ต้องเดินหน้าในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเพื่อให้ประเทศของเราเดินได้ ขอยืนยันว่า ประเทศของเราไม่ขาดคนมีฝีมือ ไม่ขาดคนเก่งแน่นอน เราไปได้แน่นอน หากพวกเราช่วยกันคิดช่วยกันทำในสิ่งที่ดี หวังดีกับบ้านเมือง มันก็ไปได้ คนที่อยากเห็นบ้านเมืองดี อยากทำให้บ้านเมืองดียังมีอีกหลายคนที่อยากอาสาเข้ามาทำเพื่อบ้านเมือง ตนไม่คิดว่า ใครอยากจะเห็นบ้านเมืองไม่ดี เชื่อมั่นว่าทุกคนอยากเห็นบ้านเมืองที่ดี ประชาชนมีความสุข”นายอนุชา ย้ำ
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าคนนอก จะไม่กล้าเข้ามา นายอนุชา ยืนยันว่าไม่กังวล เราเห็นคนเก่งคนดีผ่านมาหลายคนแล้ว เราเห็นอะไรบ้าง เห็นความสำเร็จเกิดขึ้นหรือยัง ที่เราบอกว่าเราได้เลือกมาแล้วคนเก่งคนดี ผ่านมากี่ยุคแล้ว เมื่อถามว่าหากนายกฯ จะไปเลือกฝ่ายค้านหรือขั้วตรงข้ามรัฐบาลมาดำรงตำแหน่ง นายอนุชา กล่าวว่า ทุกสิ่งทุกอย่างอำนาจอยู่ที่นายกฯ เพราะฉะนั้น บางสิ่งบางอย่างเราคิดว่าดีก็ใช่ ถ้าคิดว่าดีแล้ว พวกเราว่าใช่ก็ไม่ควรมาสะท้อนอะไรกัน นี่คือ เรื่องจริงของแผ่นดิน
อุบทาบ‘บิ๊กแป๊ะ’ชิงผู้ว่ากทม.
นายอนุชา กล่าวถึงกรณีพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)ขึ้นเวทีขอบคุณภายในงานมุทิตาจิต เกษียณอายุราชการ เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมาช่วงท้ายพิธีกรในงานประกาศ ยืนยันว่าพล.ต.อ.จักรทิพย์ จะลงสมัครชิงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่าอันนี้ตนยังไม่ทราบ
ส่วนที่คิดว่าพล.ต.อ.จักรทิพย์ มีความเหมาะสมหรือไม่ นายอนุชา มองว่า คนที่อาสาเข้ามา เขาต้องคิดว่าเขาเหมาะสม ตนคิดว่าเป็นผู้กล้า ผู้ที่คิดอยากจะเห็นบ้านเมืองดี ตนให้เครดิตผู้ที่อาสาอยากจะทำงานให้กับบ้านเมืองทุกๆคน ในส่วน พปชร.ยังไม่ได้การคุยเรื่องนี้ ยังมีเวลาอีกนาน เมื่อถามว่า หาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ไม่มีสังกัดจะชักชวนมาลงในนาม พปชร.หรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า“ไม่บอก”
‘ปชป.’ชงแก้รธน.รื้อม.272
บ่ายวันเดียวกันที่รัฐสภา สส.พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พร้อม นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ,นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และ นายธีรภัทร พริ้งศุลกะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี แถลงจุดยืนพร้อมสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา272 ที่เกี่ยวข้องกับที่มาและอำนาจของวุฒิสภา (ส.ว.) นอกเหนือจากการแก้ไขในมาตรา 256 เพื่อตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.)เห็นว่าสถานการณ์ทางการเมืองเดือนกันยายนนี้มีแนวโน้มน่าเป็นห่วง การชุมนุมของกลุ่มต่างๆที่อาจขยายมากขึ้น อาจไม่ทันต่อสถานการณ์ จึงเห็นว่าควรแยกเรื่องการเมือง ออกจากเรื่องสถาบันฯซึ่งเรื่องการเมืองที่สามารถแก้ไขได้ทันที คือ การแก้ไขที่มาและอำนาจ ส.ว.
โดยมี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อีกจำนวนหนึ่ง ที่สนับสนุนจุดยืนนี้ เพราะมีการอภิปรายในที่ประชุม ส.ส.พรรคให้ทราบจุดยืนแล้ว หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็เห็นชอบในแนวความคิดนี้ โดยไม่ต้องขอมติพรรค แต่พรรคไม่สามารถเสนอแก้ไขเองได้เพราะพรรคร่วมรัฐบาลตกลงร่วมกันว่าจะยื่นร่างแก้ไขเพียงร่างเดียวแต่บางพรรคร่วมรัฐบาล ยังไม่ตกผลึกการแก้ไขม.272จึงยื่นแก้ไขในมาตรา256เพียงร่างเดียว
อ้อนขอเสียง98เข้าร่วมแก้
เมื่อถามว่าจุดยืนนี้ ใกล้เคียงกับร่างของพรรคก้าวไกล ที่จะแก้ไขในมาตรา 272 นายสาทิตย์กล่าวว่า เห็นตรงกันในมาตรา272 ที่เป็นหัวใจตัดตอนการสืบทอดอำนาจ ซึ่งกลุ่มพวกตน พร้อมลงชื่อในญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในมาตรา 272กับพรรคการเมืองอื่นๆทั้งพรรคร่วมรัฐบาล และ พรรคการเมืองฝ่ายค้าน
เช่นเดียวกันที่กลุ่มตนดำเนินการเรื่องนี้ เราก็จะขอชื่อเพื่อน ส.ส.ในพรรคอื่นๆให้ร่วมสนับสนุนในร่างนี้ของเราที่คาดว่า จะสามารถหาผู้รับรองได้ 1ใน5 ของส.ส. หรือ 98 คน
เมื่อถามย้ำว่า ในกลุ่มส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เห็นพ้องในร่างนี้ ปัจจุบันมีกี่คนแล้ว ที่ร่วมสนับสนุน นายสาทิตย์ ตอบว่า ไปนับดูว่ามีกลุ่มกบฏ ในพรรคกี่คนก็เท่านั้นล่ะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี