แก้ม.272ปิดสวิตช์สว.แท้ง
‘ก้าวไกล’เงิบ
ปชป.-พรรคร่วมแห่ถอนชื่อ
ทำเสียงสส.ไม่ครบ1ใน5
เพื่อไทยรับรู้สึกเสียดาย
พปชร.ย้ำควรยึดมติวิป
พรเพชรชี้วุฒิสภามีอิสระ
“ก้าวไกล”รับเสียใจ ญัตติปิดสวิตช์ สว.มาตรา 272 ของ 13 พรรคแท้ง หลัง สส.ปชป.และพรรคร่วมรัฐบาลถอนชื่อออก ทำเสียงไม่ครบ จะยื่นพิจารณาในสภาได้ ย้ำพร้อมโหวตหนุนญัตติเพื่อไทยหวังบรรจุทันสมัยประชุมนี้ เพื่อไทยยอมรับรู้สึกเสียดาย ไม่อยากให้ถอนชื่อ ขณะที่ พปชร.จวกพรรคร่วมฯไร้มารยาท ด้าน“พรเพชร”
ยืนยัน ส.ว.มีอิสระ ไม่เคยคุยเรื่องแก้รัฐธรรมนูญกับรัฐบาล
เมื่อวันที่ 9 กันยายน รายงานข่าวจากรัฐสภาแจ้งว่า หลังจากที่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จำนวน 16 คน ร่วมลงชื่อยื่นญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ร่วมกับพรรคก้าวไกล และอีก 11พรรคการเมือง รวมจำนวน 13 พรรคการเมือง จำนวน 99 คน ต่อประธานสภาฯไปแล้วเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ปรากฏมีแรงกดดันอย่างหนักจากทั้งนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน และผู้ใหญ่ของพรรค ให้ส.ส. ถอนชื่อจากการ ยื่นญัตติครั้งนี้ โดยให้เหตุผลว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคร่วมรัฐบาลต้องมีความเป็นเอกภาพ เดินไปในทิศทางเดียวกันกับรัฐบาลซึ่งมีการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ไปแล้ว
ปชป.ถอนชื่อแล้วอย่างน้อย5คน
ล่าสุด มี ส.ส.อย่างน้อย 5 คน ตัดสินใจถอนชื่อจากการยื่นญัตติครั้งนี้แล้ว ประกอบด้วย นายสาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ นางสาวรังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม นางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา นายธีรภัทร พริ้งศุลกะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี นางสาวสุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส. ตรัง ซึ่งจะทำให้ญัตติดังกล่าว มีรายชื่อ ส.ส.สนับสนุนไม่ครบ ไม่สามารถนำเข้าสู่วาระการพิจารณาของสภาได้
ทั้งนี้ ในการเสนอญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น จะต้องใช้เสียงของ 1 ใน 5 ของสมาชิกที่มีอยู่ทั้งหมด หรือ 98 คน ซึ่งในส่วนการยื่นญัตติของพรรคก้าวไกล และอีก 12 พรรคการเมืองที่ยื่นญัตติไปเมื่อวัรนที่ 8 กันยายนนั้น มีจำนวน ส.ส.ร่วมลงญัตติ 99 คน เกินมาเพียงคนเดียว หากส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ถอนชื่อออกจากญัตติอีก 5 คนดังกล่าว ก็จะทำให้ญัตติแก้ไขมาตรา 272 ตกไป
ส.ส.ปชต.ใหม่ยอมรับถอนชื่อแล้ว
นายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปไตยใหม่ ยอมรับว่า ได้ถอนชื่อออกจากญัตติขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญของพรรคก้าวไกลที่ยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เนื่องจากวิปรัฐบาลมาขอร้องให้ถอนชื่อออกเพื่อความเป็นเอกภาพของรัฐบาล เมื่อพิจารณาแล้วโดยมารยาทการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันจึงถอนชื่อให้ โดยยื่นหนังสือขอถอนชื่อไปยังสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อยแล้ว เมื่อเช้าวันที่ 9 กันยายน ส่วนที่การไปลงชื่อในญัตติขอแก้ไขมาตรา 272 ร่วมกับพรรคก้าวไกลนั้น เป็นการลงชื่อไว้นานแล้ว เพราะตอนนั้นคิดว่าอยากจะตัดอำนาจ ส.ว.จริงๆ แต่เมื่อรัฐบาลมาขอให้ถอนชื่อ จึงถอนให้เพื่อรักษามารยาทการเมือง ยืนยันไม่มีเรื่องการแจกกล้วยเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะไม่เคยเล่นเกมต่อรองอะไร ให้สาบานได้ว่าไม่มีเรื่องผลประโยชน์เกี่ยวข้องแลกกับการถอนชื่อจากญัตติ ส่วนคนอื่นๆ จะมีใครถอนชื่ออีกหรือไม่นั้น ไม่ทราบ
พปชร.จวกพรรคร่วมฯไร้มารยาท
น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์บางส่วนได้ลงชื่อในญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ว่า ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล มองว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่กระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล แต่โดยธรรมเนียมปฏิบัติ รวมถึงหลักการในการทำงานร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาล และมารยาททางการเมือง พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคจะต้องยึดมติของวิปรัฐบาลเป็นหลัก ขณะนี้ได้มีการพูดคุยกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคแล้ว ทราบว่าเบื้องต้นมีส.ส.ซีกรัฐบาล ได้ถอนรายชื่อออกจากญัตติของพรรคก้าวไกลแล้ว คือ นายจุลพันธ์ โนนศรีชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังชาติไทย และนายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.พรรคประชาธิปไตยใหม่
ส.ส.ชาติไทยถอนชื่อร่วมแก้ ม.272
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายจุลพันธ์ โนนศรีชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ไปร่วมลงชื่อในญัตติของพรรคก้าวไกล ที่เสนอแก้ไขและธรรมนูญ 2560 มาตรา 272 ว่าด้วยการยกเลิกให้ส.ว. ร่วมลงมติในที่ประชุมรัฐสภา ในการเลือกนายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้นายจุลพันธ์ ได้ถอนรายชื่อออกจากญัตติดังกล่าวแล้ว ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนสั่งแต่เขาทำด้วยความสมัครใจ เพราะพรรคชาติไทยพัฒนาทำงานเป็นทีม เมื่อทำความเข้าใจแล้วเจ้าตัวจึงได้ถอนชื่อ และต้องขอขอบคุณในความมีสปิริตของนายจุลพันธ์ ยืนยันว่าพรรคชาติไทยพัฒนามีจุดยืนเช่นเดียวกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาล
“ชินวรณ์”ชี้เป็นสิทธิส่วนบุคคล
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคประชาธิปัตย์ (วิปพรรค) กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส. บางส่วนของพรรคเข้าชื่อร่วมยื่นญัตติแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญกับพรรคก้าวไกล ว่า เป็นสิทธิของแต่ละคนที่จะไปลงชื่อเสนอกฎหมายได้ แต่พรรคมีมติยืนยันว่ายื่นเสนอร่างเพียงอย่างเดียวเพื่อความเป็นเอกภาพและต้องการให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถเดินหน้าได้จริง ที่สำคัญคือเป้าหมายต้องชัดเจน ส.ส. บางคนที่ไปลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคอื่นเป็นสิทธิส่วนบุคคล ที่ต้องชี้แจงเหตุผลตอบคำถามต่อสังคมให้ได้ จะไม่กดดันให้ทั้ง16 คนที่ไปร่วมลงชื่อถอนชื่อจากร่างเดิมเพราะเชื่อว่าทุกคนมีวุฒิภาวะ
ก้าวไกลรับเสียใจปิดสวิตช์สว.ล่ม
ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล แถลงข่าวกรณี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ถอนชื่อออกจากญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ซึ่งบัญญัติเกี่ยวกับอำนาจวุฒิสภาในการร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ว่าเท่าที่รับทราบ มีแรงกดดันทางรัฐบาลทำให้ ส.ส.หลายคนที่ร่วมลงชื่อขอถอดชื่อออกจากเจ้าหน้าที่ จึงเชื่อว่ามีแนวโน้มจะทำให้รายชื่อไม่ครบตามเงื่อนไขของกฎหมายกำหนดคือ 98 คน และหากมีการถอนรายชื่อก็ยอมรับ เพราะจะทำญัตติไม่สมบูรณ์ เนื่องจากมี ส.ส.ไม่ถึง 1 ใน 5 หรือ 98 คน ซึ่งหากไม่หารายชื่อมาเพิ่ม ยอมรับน่าเสียใจว่าญัตติไม่สามารถยื่นได้ หากญัตติดังกล่าวตกไป ก็ยินดีกับพรรคเพื่อไทยที่แถลงว่าจะยื่นญัตติแก้ไขเพิ่มเติมอีกหลายประเด็น มีเรื่องการปิดสวิตซ์ ส.ว.ยกเลิก มาตรา 272 และยกเลิกมาตรา 270-271 สำหรับการแก้มาตรา 272 โดยยังหวังว่าจะยื่นเพื่อให้ประธานรัฐสภาบรรจุการประชุมทันสมัยประชุมนี้ ยืนยันสนับสนุนพรรคเพื่อไทย และยินดีร่วมลงชื่อการเสนอมาตรา270-201 และยินดีร่วมลงชื่อในญัตติยกเลิกมาตรา 279
พท.เสียดาย ไม่อยากให้ถอนชื่อ
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณี 13 พรรคการเมืองร่วมยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 272 โดยมีกระแสข่าว ทางพรรคประชาธิปัตย์จะถอนชื่อออก พรรคเพื่อไทยพร้อมสนับสนุนต่อหรือไม่ว่า ถ้าถอนจริงก็เสียดาย เพราะเราเอาใจช่วยให้พรรคก้าวไกลเซ็นชื่อได้ครบ ทั้งนี้ทางพรรคเพื่อไทยจะเดินหน้ายื่นมาตรา 262 ประกบเพื่อให้ได้น้ำหนัก ส่วนจะเซ็นชื่อช่วยหรือไม่นั้น ในการประชุมส.ส. พรรคเพิ่อไทยเมื่อวันที่ 8 กันยายน ไม่มีการพูดเรื่องนี้ ซึ่งหากจะช่วยต้องทำการขอมติพรรคก่อน อย่างไรก็ตามเราไม่อยากให้มีการถอนชื่อ
เมื่อถามว่า เหตุใดพรรคเพื่อไทยจึงเปลี่ยนใจยื่นแก้มาตราม272 เพื่อปิดสวิตซ์ส.ว. ทั้งที่ก่อนหน้านี้บอกกว่ายังไม่ถึงเวลา นายสุทิน กล่าวว่า เราประเมินสถานการณ์มาโดยตลอด การแก้รัฐธรรมนูญเราหวังเอาจริง คิดว่าจังหวะไหนทำได้ก็ทำ ถ้าจังหวะไม่ใช่ก็จะดึงไว้ก่อน อย่างไรก็ตามสัญญาณจาก ส.ว. และสังคมมีแนวโน้มว่าเป็นไปได้ จึงใช้โอกาสนี้ยื่นแก้ ซึ่งเราฟังความต้องการของผู้ชุมนุม นิสิต นักศึกษา และประชาชน ที่มีความประสงค์อยากให้เรายื่น ฉะนั้นตามเหตุผลดังกล่าวจึงคิดว่าต้องยื่น
พรเพชรชี้สว.มีอิสระแก้/ไม่แก้รธน.
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา(ส.ว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา(วิปวุฒิ) กล่าวถึงกรณีที่นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. ออกมาระบุ การจะแก้หรือไม่แก้รัฐธรรมนูญ ถึงจะใช้ม็อบมากดดันก็ไม่มีผลในการตัดสินใจว่า ตนไม่ทราบว่า นายกิตติศักดิ์พูดเช่นนี้จริงหรือไม่ ต้องไปถามเจ้าตัว แต่เอาตรงๆ เลยว่า การจะแก้หรือไม่แก้รัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของ ส.ส.และส.ว.ตามรัฐธรรมนูญ และจะต้องฟังเสียงของประชาชน ที่ขณะนี้กำลังมีการใช้สื่อโซเชียลมีเดียในการเเสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง รวมถึงมีสื่อมวลชนคอยวิเคราะห์สถานการณ์ ตนก็พร้อมยอมรับ ไม่มีปัญหา แต่ต้องรอดูการเปิดเวทีในรัฐสภาในวันที่ 23-24 กันยายนนี้ ที่ญัตติการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจะเข้าที่ประชุม ตอนนี้มีทั้งคนเห็นด้วยเเละเห็นต่าง บางคนก็ออกมาพูด แต่มีบางคนที่เขาไม่พูดอยู่ด้วย ส่วนตนต้องทำหน้าที่เป็นประธาน และเป็นหนึ่งในผู้ใช้รัฐธรรมนูญ คงจะไปวิเคราะห์ไม่ได้
“ยืนยันว่า ส.ว.เป็นอิสระ ผมไม่ได้พูดคุยติดต่อกับใคร รวมถึงขณะนี้ก็ไม่ได้พูดคุยกับรัฐบาลเรื่องจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ด้วย การทำหน้าที่ของผมอยู่บนผลประโยชน์ชาติ 100% โดยมีหน้าที่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ” นายพรเพชร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี