มันเกินเลยกันไปใหญ่แล้ว! ‘แก้วสรร’ นำกลุ่มศิษย์เก่า มธ.ยื่นรายชื่อหนุนให้กำลังใจ"อธิการฯธรรมศาสตร์"ปิดพื้นที่ม็อบปลดแอกชุมนุม 19 ก.ย.นี้ ยันไม่มีจัดตั้ง พร้อมสลายตัว 20 ก.ย.นี้ หวั่นสุ่มเสี่ยงสูงสุดพาคนไปตาย ทำร้ายบ้านเมือง ซัดพวกอยู่เบื้องหลังเผยตัวออกมา
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 15 กันยายน 2563 ที่บริเวณหน้าตึกโดม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) ท่าพระจันทร์ อ.แก้วสรร อติโพธิ อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะศิษย์เก่ารุ่น 12 พร้อมด้วยศิษย์เก่ามธ. บางส่วน และมวลชน ประมาณ 40 คน ในนามกลุ่ม “ปิดมธ. พอกันทีวีรชน” ได้นัดรวมตัวและให้กำลังใจต่อนางเกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมนำรายชื่อที่รวบรวมได้ทั้งหมด 2,966 คน ยื่นต่อผู้บริหารมหาวิทยาลัย เพื่อยื่นหนังสือสนับสนุนการคัดค้านการใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในการชุมนุมของกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มประชาชนปลดแอก ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:'แก้วสรร'หอบ 2,924 รายชื่อศิษย์เก่ามธ.บอกความคับแค้นขอ'ปิด..มธ.พอกันที..วีรชน')
โดยกลุ่มศิษย์เก่า มธ.ได้นำดอกไม้ไปวางยังอนุสรณ์นายปรีดี พนมยงค์ หน้าตึกโดม และนายแก้วสรร กล่าวระหว่างนั้นว่า “เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริงของธรรมศาสตร์ ธรรมศาสตร์ต้องพ้นเงื้อมมือของเผด็จการ” ท่ามกลางฝนที่โปรยปรายลงมา ทำให้ต้องเข้าไปจัดกิจกรรมภายในตึกโดม
โดยนายแก้วสรร ให้สัมภาษณ์ว่า ใช้เวลา 3 วันในการรวบรวมรายชื่อ ซึ่งเป็นในนามศิษย์เก่ามธ.ทั้งหมด คำขอดังกล่าวว่าด้วยเรื่องการออกคำสั่งอนุญาต หรือไม่อนุญาต และสนับสนุนอธิการบดีมธ. ที่จะสั่งไม่อนุญาต ส่วนการบังคับตามคำสั่งก่อนหน้านี้ถ้าจะสั่งไม่อนุญาตแล้ว หากมีการเข้ามาในมหาวิทยาลัยอีก ตนไม่ไปก้าวล่วง เกิดอะไรขึ้นอธิการบดีมธ. เป็นคนรับผิดชอบ ตนจะไปถ้าพูดแบบชาวบ้านคือจะไปเสือกไม่ได้ เพราะท่านเจ็บตัว ตนไม่ได้เจ็บตัว เรามาด้วยความเคารพอำนาจของผู้บริหาร ที่เห็นว่าอะไรควรไม่ควร
นอกจากนี้ พวกเราไม่มีการจัดตั้งกลุ่มอะไรทั้งสิ้น ที่เห็นจำนวนเกือบ 3,000 ชื่อในวันที่ 20 ก.ย.นี้จะหายตัวไปเลย ไลน์กลุ่มจะปิดตัวในวันดังกล่าว แต่ช่วงระยะเวลาต่อจากนี้ไปจนถึงก่อนวันที่ 20 ก.ย.หากมีอะไรเราก็จะแจ้งข่าวสารให้ทราบ อย่าไปบอกว่าเราจัดตั้งโน่นนี่ ที่ไปบอกว่าเราจะนอนในมหาวิทยาลัย เป็นข่าวเท็จทั้งสิ้น
“เราไม่ได้ปฏิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของนักศึกษา แต่เราปฏิเสธเสรีภาพในการชุมนุม ต้องแยกให้ออก เพื่อความชัดเจนผมบอกเลยว่าไม่เห็นด้วยที่จะให้นายกฯลุงตู่จะอยู่ต่อไป ควรมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น แต่จุดยืนร่วมกันของเราคือการชุมนุมใช้สิทธิ์ใช้ชื่อธรรมศาสตร์ ใช้สถานที่ ใช้เกียรติภูมิของธรรมศาสตร์เพื่อการชุมนุม มันเป็นการใช้ธรรมศาสตร์เพื่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สุ่มเสี่ยงสูงสุด” นายแก้วสรร กล่าว
นายแก้วสรร กล่าวต่อว่า ถ้าอยากอภิปราย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องนายกฯ ไม่มีความชอบธรรม เรื่องปฏิรูปสถาบันอะไรก็ตามแต่ ก็จัดอภิปรายที่หอประชุมใหญ่ แต่ไม่ใช่การชุมนุมมา 2 วัน 1 คืนแล้วเทใส่ทำเนียบรัฐบาล เผด็จการจะได้เรียนรู้อย่าลึกซึ้ง มีบาดแผล ไม่รู้ลืม ท่านจะไม่กลับมือเปล่า พวกตนปรึกษากันแล้ว ถ้าชุมนุมแบบนี้ จำเหตุการณ์พฤษภาทมิฬได้หรือไม่ ที่ควบคุมไม่ได้ เขาเรียกว่าพาคนไปตาย
"ดังนั้นนี่คือการชุมนุมเพื่อเคลื่อนไหวสุ่มเสี่ยงมาก มันคือการซ่องสุม สตาร์ทเครื่องแล้วบุกเข้าไป ไม่ใช่การแสดงความคิดเห็น และไม่เห็นว่า เหล่าแกนนำจะรับผิดชอบดูแลได้ นำ ควบคุม คุ้มครองได้หรือไม่ มีการปลุกปั่นกันมาจากไซเบอร์ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แล้วทำไมเขากล้าทำ ทำเพื่ออะไร ผมตอบไม่ได้ นอกจากมีคนอีกกลุ่มร่วมมือด้วยก็เปิดเผยตัวออกมา นี่ไม่ใช่การหวาดวิตกแต่เป็นความน่าจะเป็น เราจึงไม่เห็นด้วยที่จะใช้ธรรมศาสตร์เพื่อการชุมนุมในลักษณะที่สุ่มเสี่ยง ต่ำกว่ามาตรฐานประชาธิปไตย ไม่รับผิดชอบ ไม่โปร่งใส และมีคนกลุ่มหนึ่งเห็นเป็นช่องทางในการเลี่ยงกฎหมายที่จะใช้ประวัติศาสตร์ของธรรมศาสตร์ ใช้เด็กธรรมศาสตร์ ใช้พื้นที่ธรรมศาสตร์ทำร้ายบ้านเมือง และคนรับผิดชอบคือธรรมศาสตร์” นายแก้วสรร กล่าว
นายแก้วสรร กล่าวต่อว่า ตนได้แต่เป็นห่วง ว่าจะเขาจะเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง แล้วผู้ใหญ่ก็จะใช้ความละมุ่นละม่อม แต่ในแง่หลักการมันไม่เกี่ยวว่าเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ธรรมศาสตร์ไม่เคยชุมนุมโดยมีใครก็ไม่ทราบ ไม่เคยมีใคร 2-3 คนทำแบบนี้ ลับๆล่อๆ แล้วสุ่มเสี่ยง ถ้าอยากเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ต้องเปิดเผย อย่าเลี่ยงกฎหมาย ทำตัวให้ได้มาตรฐาน
ต่อมาเวลา 15.30 น. ทางอธิการบดี มธ. ได้ส่งตัวแทนลงมารับหนังสือ แต่ทางนายแก้วสรร ได้ปฏิเสธที่จะยื่นหนังสือผ่านตัวแทน โดยกล่าวว่า ตนได้นัดหมายอธิการบดีไว้แล้ว และบอกว่า ลงมารับหนังสือเถอะ การจะลงมารับหนังสือของอธิบการบดี มธ. ครั้งนี้จะไม่ใช่การแสดงความไม่เป็นกลาง เป็นเรื่องของการนัดหมายเท่านั้น อย่าไปมองว่าทำไมที่อธิการบดี มธ.ลงมารับหนังสือครั้งนี้ ทำไมกลุ่มอื่นๆไม่ยอมลงมา ที่ไม่ลงมาเพราะไม่ได้นัดหมายไว้ และอธิการบดี มธ. ติดราชการ
“ผมได้ยืนยันกับท่านอธิบการบดีมธ. ว่าจะชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า อย่าไปพูดว่าไม่เป็นกลาง และอธิการบดีมธ. จะไม่มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน” นายแก้วสรร ระบุ
จากนั้นทางนายแก้วสรร ได้พยายามประสานกับตัวแทนเจ้าหน้าที่ของทางมหาวิทยาลัย เพื่อให้อธิการบดีมธ. ลงมารับหนังสือด้วยตัวเอง โดยกล่าวว่า ตนนัดไว้แล้ว อธิการบดี มธ.เป็นคนบอกตนด้วยวาจา และตนถือตามเวลาที่นัดไว้คือ 16.00 น. ให้ไปแจ้งกับอธิการบดี มธ. ให้ลงมารับหนังสือ ประมาณ 5 นาทีได้หรือไม่ ไม่เจ็บตัวอะไร
เวลา 15.45 น. นายศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ รองอธิการบดีมธ. ฝ่ายบริหารทรัพยากรมนุษย์ เป็นตัวแทนลงมาชี้แจงกับนายแก้วสรร และทางศิษย์เก่ามธ.ว่า เนื่องจากวันนี้มีหลายกลุ่มที่มายื่นหนังสือถึงอธิการบดีมธ. แต่ทางอธิการบดีมธ. ได้บอกว่า เพื่อรักษาความเป็นกลางของมหาวิทยาลัย ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้มีจุดยืนชัดเจนไปแล้ว ในเรื่องของการขอใช้พื้นที่ แต่เพื่อเป็นการให้เกียรติกับทางนายแก้วสรร และศิษย์เก่ามธ. จึงขอให้เฉพาะนายแก้วสรร ขึ้นไปพบอธิการบดีมธ. และขอไม่ให้สื่อมวลชนตามเข้าไปสังเกตการณ์ ยืนยันว่าไม่ได้แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ในวันนี้ก็ไม่ได้พบใครทั้งหมด แต่ทางนายแก้วสรรได้นัดไว้เอง
จากนั้นนายแก้วสรร พร้อมด้วยศิษย์เก่ามธ. บางส่วนได้ขึ้นไปพบอธิการบดีมธ. โดยไม่ให้สื่อมวลชนตามขึ้นไป และได้หารือกันเป็นเวลาประมาณ 10 นาที
เวลา 16.00 น. นายแก้วสรร ลงมาเปิดเผยภายหลังเข้าหารือกับอธิการบดีมธ.ว่า ตนมาให้กำลังใจอธิการบดี ในฐานะศิษย์เก่า รุ่นพี่ รุ่นน้อง และเห็นด้วยกับการตัดสินใจของอธิการบดี ส่วนคำสั่งบังคับเรื่องการใช้พื้นที่ที่ทางมหาวิทยาลัยออกมานั้น เราไม่ขอก้าวล่วง เพราะเป็นการตัดสินใจ และเป็นความรับผิดชอบของท่าน โดยทางอธิการบดีมธ. ก็ได้ขอบคุณ และไม่ได้กล่าวอะไรเพิ่มเติม เนื่องจากไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะดูท่าทางอธิการบดีมธ. จะเหนื่อยมากๆ น่าเห็นใจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี