วันที่ 21 กันยายน วรวรรณ ธาราภูมิ อดีตประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (บลจ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ความคาดหวังกับความจริงเรื่องม็อบ 19 กย 63
ก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าคาดหวังว่าจะได้รับฟังแนวคิดที่มีประโยชน์และอาจจะแตกต่าง จากคนรุ่นหลาน อยากรู้จริงๆ ว่าเขาต้องการอะไรถึงได้ก่อม็อบ และคาดหวังว่าแนวคิดเหล่านั้นจะนำพาไปสู่การปรับปรุงแนวปฏิบัติของชนชั้นปกครองได้
ข้าพเจ้าคาดหวังว่าจะได้เห็นนักศึกษาขึ้นเวที แสดงวิสัยทัศน์ของตนต่ออนาคตของประเทศซึ่งต่อไปก็จะอยู่ในมือของพวกเขา เพื่อให้คนรุ่นเราไม่ว่ารัฐบาล / ส.ส. ทุกพรรค / ส.ว. / นักธุรกิจทั้งหลาย / รวมไปถึงพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ จะได้รับรู้ว่าลูกหลานกำลังมีปัญหาที่ตรงไหน และเขามองพวกเราอย่างไร
ข้าพเจ้าคาดหวังว่าจะมีหลานๆ สักคนขึ้นเวทีแล้วถามถึงแนวทางของรัฐในการรับมือกับอนาคตที่ตนเองจะไม่มีงานทำเพราะเทคโนโลยีที่มาทดแทนได้ … เพื่อให้รัฐบาลนำไปเป็นโจทย์ที่ต้องแก้ไข ป้องกันล่วงหน้า อย่างจริงจังข้าพเจ้าคาดหวังว่าจะมีใครที่ตอกย้ำถึงความไม่เสมอภาคในกระบวนการยุติธรรม และความอ่อนแอขององค์กรอิสระที่น่าจะทำตัวไม่อิสระแล้วในหลายๆ กรณี ข้าพเจ้าคาดหวังว่าหลานๆ จะเสนอแนวคิดในการเดินหน้าอนาคตไทยอย่างสร้างสรรค์ ในมุมมองของเขา
ข้าพเจ้าคาดหวังว่าจะมีคนพูดเรื่องข้อดีข้อเสียของการมี ส.ว. แบบปัจจุบัน รวมไปถึงการนับคะแนนเลือกตั้งที่เอามาหารด้วยสูตรประหลาดที่ข้าพเจ้าไม่เข้าใจ ข้าพเจ้าคาดหวังว่าจะมีนักศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์สักคน ที่สามารถชี้แนวทางใหม่ที่ปฏิบัติได้จริงในเรื่องทุนนิยม การผูกขาด และความเหลื่อมล้ำ
ข้าพเจ้าคิดเรื่อยเปื่อยไปจนถึงว่าจะมีนักเรียน นักศึกษา สักคน มาพูดถึงภัยอันตรายที่วัยรุ่นต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคุกคามทางเพศ เวบการพนัน และยาเสพย์ติด แล้วข้าพเจ้าก็พบว่าความจริงที่ได้จากม็อบ ว่ามันคือความตั้งใจในการโจมตี บั่นทอนคุณค่าสถาบัน แล้วก็จบด้วยคำขู่ตามภาพแรกที่เป็นตอนท้ายคำปราศรัยของคุณทนาย อานนท์
ถ้านี่คือเป้าหมายของม็อบ ข้าพเจ้าก็ไม่หวังอะไรจากลูกหลานที่ชูสามนิ้วอีกแล้ว เนื่องข้าพเจ้าไม่เห็นคุณค่าของการจัดม็อบตามที่คาดหวังเลย รวมถึงไม่เห็นประโยชน์ของการจะสนับสนุน เพราะการปักหมุดคณะราษฎร์ การย่ำยีสถาบันสูงสุดในแบบที่ทำ มันมิได้ทำให้คนกินดีอยู่ดี มิได้ลดความเหลื่อมล้ำ มิได้ทำให้เกิดความสามัคคีในคนไทยด้วยกันเลยสักนิด แถมยังไปช่วยผลักดันคนที่กำลังหงุดหงิดกับรัฐบาล ทำให้เขาจำต้องเลือกข้างนายกฯ อีกครั้ง เพราะทนรับฟังพวกท่านก้าวร้าวไม่ไหว
ก็แปลกใจที่คนรุ่นใหม่ยังฝังใจกับพิธีกรรม ถึงขั้นตอกหมุดคณะราษฎร์อีกครั้ง … ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะทำอะไรไร้สาระแบบนี้
สรุปคือผิดหวังมาก ใครจะโกรธเกลียดที่ข้าพเจ้าคิดเห็นอย่างนี้ก็ตามใจท่าน แต่ก่อนคิด ก่อนออกความเห็น ข้าพเจ้าได้รับฟัง ได้ศึกษาข้อมูลจริงด้วยตนเอง แล้วคิดอย่างไร ก็แสดงออกมาตรงๆ ตามนี้
ข้าพเจ้าก็คงต้องแสวงหาแนวทาง แนวร่วม ที่คิดแบบเดียวกัน เพื่อทำให้เราพ้นจากวังวนอุบาทว์ทั้งหลาย ต่อไป เพราะไม่สามารถฝากอนาคตประเทศไว้กับพวกท่านได้ตามที่เคยคิดหวัง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี