"ไพบูลย์"งัดข้อ"ชวน" ขวางปมญัตติขอส่งศาลรธน.ตีความ4ญัตติฝ่ายค้าน ด้าน"เลขาฯสภา"ยันญัตติถูกตีตกแล้ว เหตุไม่เข้าเงื่อนไข
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2563 ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ยังไม่บรรจุวาระญัตติขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย 4 ญัตติของฝ่ายค้านว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เนื่องจากมีการลงชื่อซ้ำกัน ว่า ประธานรัฐสภาไม่มีอำนาจวินิจฉัยที่จะไม่บรรจุญัตติดังกล่าวของตนเข้าสู่วาระ เพราะการวินิจฉัยว่า 4 ญัตติ ของพรรคฝ่ายค้านขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น เป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะต้องผ่านการพิจารณาจากที่ประชุมรัฐสภา และไม่มีตรงไหนที่เป็นอำนาจของประธานรัฐสภา หรือผู้ใดที่จะมาวินิจฉัยก่อน เพราะเรื่องนี้เป็นอำนาจของรัฐสภาก็ต้องบรรจุวาระเข้าสู่ที่ประชุม ซึ่งเป็นอำนาจของที่ประชุมว่าจะส่งศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่
"เท่าที่ทราบเหตุผลที่ยังไม่บรรจุญัตติในวาระ เป็นเพราะทีมงานหน้าห้องประธานรัฐสภาซึ่งเป็นฝ่ายการเมืองดึงเรื่องเอาไว้ ทั้งที่ญัตติของฝ่ายค้านยื่นในวันเดียวกับที่ผมเสนอ คือ วันที่ 16 ก.ย.แต่ของฝ่ายค้านกลับได้รับการบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมรัฐสภา ผมรู้สึกติดใจ และไม่สามารถอ้างได้ว่า เหตุผลที่บรรจุล่าช้าเป็นเพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพราะกรณีของพรรคฝ่ายค้านที่ยื่นญัตติในวันเดียวกับผม มีผู้เข้าชื่อมากกว่า 100 คน แต่กลับได้รับการบรรจุ แต่ของผมมีผู้เข้าชื่อเพียง 45 คนเท่านั้น และเรื่องนี้ผมดำเนินการตามข้อบังคับตามกฎหมาย จะมาหยุดญัตติของผมได้ก็ต้องด้วยกฎหมายเท่านั้น ถ้ามาหยุดโดยวิธีอื่นก็จะมีปัญหา ดังนั้น ในวันที่ 23 ก.ย.ผมจะขอถามเหตุผลการไม่บรรจุญัตติดังกล่าวจากประธานรัฐสภา โดยจะใช้ข้อบังคับการประชุม ข้อ 32(1) และ (2) คือเรื่องที่ต้องปรึกษาหารือ และต้องเปลี่ยนวาระด้วย เพราะเห็นว่าวาระ 4 ญัตติของฝ่ายค้านมีปัญหาที่ต้องตรวจสอบว่าต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่" นายไพบูลย์ กล่าว
นายไพบูลย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ตั้งข้อสังเกตถึงการเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ที่ทั้งของพรรคร่วมฝ่ายค้านและพรรครวมรัฐบาลเห็นตรงกันว่าอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญเนื่องจากไม่มีการทำประชามติก่อนนั้น ตนมองว่ากรณีนี้เป็นข้อห่วงใยของทาง ส.ว.แต่ก็ต้องมาพิจารณากันว่ามีปัญหาจริงหรือไม่ ส่วนตัวมองว่า เป็นเรื่องที่มองได้หลายมุม ซึ่งในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลที่เสนอไป กรณีนี้ทำตามเงื่อนไขของมาตรา 256 ที่ต้องทำประชามติอยู่แล้ว
ด้าน นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวยืนยันว่า ญัตติของนายไพบูลย์ ได้ถูกตีตกแล้ว ไม่สามารถบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมรัฐสภาได้ เนื่องจากไม่เข้าเงื่อนไขตามมาตรา 156 ของรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ได้เป็นเรื่องที่จะเสนอให้รัฐสภาพิจารณาได้ ตามที่ฝ่ายกฎหมายของรัฐสภาได้มีความเห็นเสนอไปยังประธานรัฐสภา อย่างไรก็ตาม ตามมาตรา 156 ของรัฐธรรมนูญ กำหนดเงื่อนไขการประชุมรัฐสภา มีทั้งหมด 11 วงเล็บ พบว่า ไม่มีข้อใดที่ระบุให้รัฐสภาพิจารณาญัตติ เพื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในเรื่องใดที่เข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี