มติเอกฉันท์! ส.ว.ฉลุยร่างพ.ร.บ.งบฯ64 แหยงไม่กล้าแตะ"กลาโหม" ด้าน"วันชัย"ติงรัฐทำไมไม่เอาเงินบังคับคดี"จำนำข้าว"มาฟื้นฟูหลังโควิด ขณะที่"นาวิน"ชี้ไม่พบตั้งงบฯซื้อวัคซีนต้าน ทำเสียโอกาส ส่วน"ครูหยุย"ท้วงปรับลดงบฯ"สภาเยาวชน พม."ไม่ตอบโจทย์แก้สารพัดปัญหาเด็ก
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2563 ที่รัฐสภา ตั้งแต่เวลา 10.10 น.มีการประชุมวุฒิสภา (ส.ว.) โดยมี นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 วงเงิน 3.28 ล้านล้านบาท หลังจากสภาผู้แทนราษฎร เห็นชอบและส่งมายังวุฒิสภาให้พิจารณา โดย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน เข้าชี้แจงหลักการการจัดทำงบประมาณต่อที่ประชุม
จากนั้นที่ประชุมเปิดโอกาสให้ ส.ว.อภิปรายแสดงความคิดเห็น บรรยากาศเป็นไปอย่างราบรื่น ส.ว.ตั้งข้อสังเกตอย่างกว้างขวางในหลายกระทรวง ยกเว้นงบประมาณกระทรวงกลาโหม ที่ไม่มี ส.ว.คนใดอภิปรายแตะต้อง
โดย นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ส.ว.อภิปรายท้วงติงการปรับลดงบประมาณกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ตัดลดงบอุดหนุนสภาเด็กและเยาวชนในการจัดกิจกรรมพัฒนาเด็กและเยาวชนสร้างสรรค์สังคม 41 ล้านบาท เหลือ 179 ล้านบาท จากที่ตั้งไว้ 220 ล้านบาท ทำให้มีงบประมาณไม่เพียงพอ ทั้งที่สภาเยาวชนเป็นกลไกแก้ปัญหาท้องไม่พร้อม การต่อยตี การติดยา เป็นการทอดทิ้งเด็กแล้วจะแก้ปัญหาได้อย่างไร
ขณะที่ พล.อ.นาวิน ดำริกาญจน์ ส.ว.อภิปรายว่า วงเงิน 3.28 ล้านล้านบาท ไม่พบตัวเลขที่ตั้งไว้เพื่อซื้อวัคซีนโควิด-19 ขณะที่ประเทศมหาอำนาจทุ่มเงินซื้อวัคซีนล่วงหน้ากับบริษัทเอกชนที่ผลิตวัคซีน ทั้งที่ยังไม่ทราบว่าจะสำเร็จหรือไม่ ทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสได้วัคซีนเป็นลำดับต้นๆ ในการแก้ปัญหา
ด้าน นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.อภิปรายว่า โควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่รัฐบาลไม่เคยให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับเรื่องการเงินเลย รัฐปล่อยปะละเลยหรือใส่ใจน้อยเกินไป นอกจากนี้ เงินที่รัฐควรได้จากการบังคับคดีกลับเพิกเฉย เช่น คดีจำนำข้าว ศาลพิพากษาว่า รัฐจะได้เงินหลายหมื่นล้านบาท แต่จนถึงขณะนี้ไม่มีความคืบหน้าเลย หลายคนเกษียณกันไป ปล่อยกันไปหรือที่ใช้คำว่า ช่างหัวมัน ถือว่าไม่ใช่เงินของตัวเอง ทั้งที่เงินเหล่านี้คือรายได้แผ่นดิน รัฐควรต้องเอาไปพิจารณา ส่วนงบประมาณเพื่อการปฏิรูปประเทศนั้น แม้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศแต่ละด้านเขียนแผนไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้สะท้อนถึงการปฏิรูปให้เห็นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการปฏิรูปการเมืองที่ยังจัดงบประมาณตามปกติ ไม่แสดงถึงการปฏิรูปเลย หรือการปฏิรูปจะสิ้นหวังแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ ส.ว.อภิปรายจนครบถ้วนทุกคนแล้ว โดยอภิปรายเกี่ยวกับงบกลาง , กระทรวงการต่างประเทศ , กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ , กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม , กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , กระทรวงมหาดไทย , กระทรวงศึกษาธิการ และงบประมาณอื่นๆ แต่ไม่มีการอภิปรายถึงกระทรวงที่ ส.ส.สงวนคำแปรญัตติและสงวนความเห็นไว้จำนวนมาก เช่น กระทรวงกลาโหม , สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นต้น ใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 6 ชั่วโมง จึงลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ด้วยคะแนน 218 ต่อ 0 งดออกเสียง 5 ไม่ลงคะแนน 1 ถือว่าที่ประชุมลงมติให้ความเห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.ฯ ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายสุพัฒนพงษ์ ได้กล่าวขอบคุณ และจะนำข้อสังเกตไปพิจารณาประกอบการใช้งบประมาณ โดยจะใช้งบประมาณอย่างโปร่งใสเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามนโยบาย ประชาชนมั่งคั่งและยั่งยืน หลังจากนี้นายกรัฐมนตรีจะนำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ขึ้นทูลเกล้าฯ ภายใน 20 วันนับแต่วันที่ได้รับร่าง พ.ร.บ.จากคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ลงพระปรมาภิไธย และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี