ตำรวจยันจัดปราศรัยมิบังควร
เช็คบิล4แกนนำ
พร้อมแนวร่วมอีกนับสิบผิดอื้อ
กรมศิลป์ตามแจ้งความซ้ำ
มัด‘รุ้ง-เพนกวิน-อานนท์’
บุกรุกปักหมุดสนามหลวง
บิ๊กตู่ขอบคุณเหตุการณ์สงบ
“เพนกวิน-รุ้ง-อานนท์”แกนนำกลุ่มปลดแอกหนาว จ่อโดนคดีเป็นหางว่าว หลังเหิมเกริมจัดชุมนุมปักหมุดคณะราษฎรที่ท้องสนามหลวง ล่าสุดหมุดดังกล่าวถูกถอดออกไปแล้ว ในขณะที่กรมศิลปากร รุดแจ้งความข้อหา เปลี่ยนแปลงโบราณสถาน ด้าน”นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์”แจ้งความ ม.112 ส่วนตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐานบันเชื่อดำเนินคดีได้ “บิ๊กตู่”ขอบคุณทุกฝ่ายที่ดูแลการชุมนุมไม่ให้เกิดความรุนแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หมุดคณะราษฎรที่ 2 ที่ผู้ชุมนุมกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กลุ่มปลดแอก ผสมคนเสื้อแดงปักไว้ในท้องสนามหลวงเมื่อวันอาทิตย์วันที่ 20 กันยายน ได้หายไปแล้ว เมื่อเช้าวันที่ 21 กันยายน โดยสื่อมวลชนได้ให้ความสนใจกับการล่องหนของหมุดคณะราษฎรเป็นอย่างมาก
ประเด็นดังกล่าว พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) คาดว่ามีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ดำเนินการ หลังเข้าไปตรวจสถานที่ร่วมกันระหว่าง เจ้าหน้าที่กรมศิลปกร (ศก.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) ตำรวจ สน.ชนะสงคราม และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) จากนั้นได้ส่งมอบหมุดให้พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม รับไปเก็บรักษาเพื่อประกอบการดำเนินคดีหากมีการแจ้งความ
ย้ำเอาผิดในการชุมนุมได้
ส่วนการพิจารณาดำเนินคดีกับแกนนำผู้ชุมนุม ที่จัดกิจกรรมชุมนุมช่วงระหว่างวันที่ 19-20 ก.ย.ที่ผ่านมา ยืนยันว่าพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ในความผิดส่วนที่เกี่ยวข้องเรามีข้อมูลแล้ว ทั้งภาพและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าจะสามารถเอาผิดได้
ทั้งนี้ มีรายงานว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.เรียกประชุมที่ศูนย์ปฏิบัติการ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ตามวงรอบ โดยเชิญผู้เกี่ยวข้องในคดี อาทิ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. บก.ป. กทม. กรมศิลปากร (ศก.) และพนักงานสืบสวนเข้าร่วมประชุม
ขณะที่ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.(รับผิดชอบด้านจราจร) กล่าวถึงการดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุม ว่า บช.น.ได้มอบหมายให้ตำรวจจราจร รวบรวมพยานหลักฐานในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.จราจรทางบก รวมถึงการจอดรถกีดขวางบริเวณรอบพื้นที่ชุมนุม โดยพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม จะพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ ก็เป็นในส่วนความผิดเรื่อง พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง และ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ
‘กรมศิลป์’แจ้งเอาผิดแกนนำม็อบ
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ สน.ชนะสงคราม นายสถาพร เที่ยงธรรม ผอ.กองโบราณคดี ในฐานะตัวแทนจากกรมศิลปากร กล่าวภายหลังให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน กรณีรับมอบอำนาจจากกรมศิลปากรมาแจ้งความเอาผิดกลุ่มบุคคลที่บุกรุกและทำลายโบราณสถานในท้องสนามหลวงเมื่อวันที่ 19-20 กันยายนที่ผ่านมา ว่า ได้นำเอกสารการขึ้นทะเบียนสนามหลวงเป็นโบราณสถาน และภาพการชุมนุมจากสื่อต่างๆ มาแจ้งความดำเนินคดีผู้กระทำผิดตาม ม.10 ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงขุดค้นโบราณสถานโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 มีความผิดตาม ม.85 จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งตำรวจรับเรื่องไว้เป็นคดีแล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะดำเนินคดีกับผู้ใดบ้าง ต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม
นายสถาพร กล่าวถึงกรณีมีการรื้อถอดหมุดคณะราษฎรที่ 2 โดยระบุทราบจากข่าวว่าหมุดหายไป แต่ไม่ทราบว่ามีผู้ใดไปขุดหรือทำลาย ซึ่งพื้นที่สนามหลวงมีหลายหน่วยงานมาดูแล โดย กทม.จะรับผิดชอบเรื่องการซ่อมแซม ส่วนกรมศิลป์รับผิดชอบการปรับปรุงพื้นที่โบราณสถานสำหรับใช้ประโยชน์ หากอะไรอนุญาตให้ดำเนินการใดได้ก็จะอนุญาต แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยมีการใช้พื้นที่นอกจากการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโบราณสถาน ยืนยันว่ามีบางเรื่องที่กรมศิลป์เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จะไปเข้าข้างใดข้างหนึ่งไม่ได้
“สิระ”แจ้งเอาผิดสส.
ขณะเดียวกัน นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อ ส.ส.มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ พรรคไทยศรีวิไลย์ ส.ส.พีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค พรรคไทยรักธรรม ส.ส.ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ พรรคก้าวไกล ในข้อหาร่วมชุมนุมในสถานที่ห้ามชุมนุม จากกรณีที่มีภาพของทั้ง 3 คนปรากฏระหว่างการเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โดยแสดงตัวด้วยการชูสามนิ้วในสถานที่ห้ามชุมนุม ทั้งที่เป็น ส.ส.ที่ถือเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ยังทำผิดกฎหมายเสียเอง
นายสิระกล่าวต่อว่า การชุมนุมที่เกิดขึ้นมีการโจมตีให้ร้ายต่อสถาบันอย่างต่อเนื่อง โดยส่อไปถึงการล้มล้างการปกครอง ซึ่ง ส.ส.ทั้ง 3 คน มีพฤติกรรมร่วมสนับสนุน โดยตนกำลังให้ทีมกฎหมายตรวจสอบอยู่ว่าจะยื่นศาลฯเพื่อให้ยุบพรรคการเมืองของทั้ง 3 คน
หมอตุลย์แจ้งคววาม”รุ้ง-เพนกวิน
ต่อมา เมื่อเวลา 13.00 น. . ที่ สน.ชนะสงคราม นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อหลากสี แจ้งความกับ พ.ต.ท.พิษณุ เกิดทอง สว.(สอบสวน) สน.ชนะสงคราม ให้ดำเนินคดีต่อ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง คณะสังคมวิทยา มธ.หัวหน้าพรรคปฏิวัติโดม และแกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน และนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ บุคคลทั้งสามในความผิดตามกฎหมายอาญา ม.112 กรณีการปราศรัยบนเวทีชุมนุม 19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร โดยนำหลักฐานเอกสารข่าว ไฟล์ภาพ และเสียงการปราศรัยบนเวทีของบุคคลทั้งสามมาประกอบการแจ้งความ
นพ.ตุลย์ กล่าวว่า ได้มาแจ้งความเอาผิด ทั้ง3 คนหลังเอ่ยถึงสถาบันด้วยถ้อยคำไม่เหมาะสม พร้อมเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันเป็นการดูหมิ่นสถาบัน เพราะคนไทยทั้งหลายต่างรู้สึกไม่สบายใจ
“ผมไตร่ตรองอย่างหนักแล้วว่า การแจ้งความครั้งนี้ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งบุคคลทั้งสาม เพราะกฎหมายนั้นมีไว้เพื่อความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง หากไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องสถาบัน แม้การใช้สถานที่ชุมนุมที่ไม่เหมาะสมก็เข้าข่ายความผิด ม.116” นพ.ตุลย์ กล่าว
“เพนกวิน”เเจกไฟล์หมุดคณะราษฎร์
วันเดียวกัน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำผู้ชุมนุมที่สนามหลวงกล่าวถึงกรณีหมุดคณะราษฏร 2563 ที่ถูกเจ้าหน้าที่ถอนออกไปจากสนามหลวงในช่วงกลางดึกที่ผ่านมาว่า ไม่แปลกใจ แต่เชื่อว่าสำหรับหมุดคณะราษฏร 2563 มันได้ถูกปักลงกลางใจกลุ่มผู้ชุมนุมทุกคน และต่อจากนี้จะทำการจะมีการแจกไฟล์แบบ หมุดคณะราษฏร 2563 เพื่อให้กลุ่มผู้ร่วมชุมนุม นำไปหล่อ และไปปักตามที่ต่างๆ ที่อยากปักซึ่ง ส่วนตัวต่อจากนี้ อาจจะมีการนำหมุดไปปักตามจุดสำคัญต่างๆทั่วกรุงเทพ
พร้อมเดินหน้าจัดชุมนุม24กย.
สำหรับการชุมนุมครั้งต่อไปที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 ก.ย.นี้ทราบว่าเป็นของกลุ่ม ประชาชนปลดแอกซึ่งส่วนตัวไม่ทราบเวลาแต่ทราบว่าสาเหตุที่ต้องมีการชุมนุมในวันดังกล่าวเพราะทางรัฐสภามีการพิจารณาญัตติการ แก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งต้องมีการแสดงพลังให้เห็นว่ามวลชนมีความตั้งใจที่ต้องการให้เกิดการแก้ไขและป้องกันการเพิกเฉย หรือทำให้ ญัตติตกลงไป
ส่วนในวันที่ 14 ต.ค.ตนเองอยากขอเชิญชวนให้ผู้ที่เห็นด้วยกับกลุ่มผู้ชุมนุมให้หยุดงานเพื่อแสดงพลังให้เห็นถึงความไม่เห็นด้วยกับการบริหารประเทศของทางรัฐบาลซึ่งการหยุดงานจะหยุดงานเพื่ออยู่บ้านเฉยๆ หรือจะออกไปเที่ยวก็ได้ทั้งหมดส่วนทางแกนนำจะมีการจัดกิจกรรมให้มวลชนเข้ามาร่วมหรือไม่ ขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการพูดคุยหารือร่วมกันระหว่างแกนนำซึ่งจะมีความชัดเจนต่อไป
“บิ๊กตู่”ขอบคุณทุกฝ่าย
ที่ศูนย์แสดงสินค้า และการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกภายหลังการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ว่า สถานการณ์การชุมนุมที่ผ่านมาต้องขอแสดงความยินดีที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บ้านเมืองกลับเข้าสู่ตวามสงบสุขและสันติอีกครั้งหนึ่ง ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนทีทำงานอย่างเสียสละ อดทน และอดกลั้น จึงขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
“บ้านเมืองสงบสุขอย่างนี้ก็สามารถจะแก้ไขปัญหาได้หลายๆ อย่างไปด้วยกัน ขอฝากไปถึงประชาชนโดยรวมด้วย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นหลักสำคัญยิ่งของคนไทยทั้งประเทศ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยุติเพียงแค่นี้ และประกาศเคลื่อนไหวอีกครั้งวันที่ 24 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ติดตามตอนต่อไป เมื่อถามว่า การปักหมุดคณะราษฎร 2563 ถือว่าผิดกฎหมายใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “จ่ะ”
สภาฯเข้มรปภ.ขั้นสูงสุดรับม็อบ24ก.ย.
ทางด้าน นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมภายหลังจะมีกลุ่มภาคประชาชนมาชุมนุมบริเวณหน้าอาคารรัฐสภาในวันที่ 24 ก.ย.ว่า ได้มีการหารือกับรองเลขาธิการสภาและฝ่ายรักษาความปลอดภัยรวมทั้งมีการประสานงานไปยังหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานีตำรวจนครบาลบางโพและหน่วยทหารที่ดูแลเรื่องความมั่นคง โดยจะมีการประชุมร่วมกัน จะประเมินสถานการณ์ว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมเท่าไหร่และทางสภาจะทำอย่างไร แต่เมื่อเราทราบว่าจะมีม็อบเกิดขึ้น ตนเองจะสั่งยกระดับการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด และจะเริ่มแผนนี้ในวันที่ 23 ก.ย. ซึ่งเป็นวันประชุมร่วมกันของรัฐสภา โดยจะให้มีเวรยามมากขึ้นและดูแลบริเวณโดยรอบรัฐสภาตลอด 24 ชั่วโมง หากมีอะไรเกิดขึ้นจะสามารถประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทันที
เมื่อถามว่า ได้เตรียมทางหนีออกจากรัฐสภาหรือไม่ หากเกิดสถานการณ์วุ่นวายและปิดล้อมทางเข้าออก นายสรศักดิ์ กล่าวว่า เราได้เตรียมไว้ทุกทาง 1.ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ ก็สามารถดำเนินการ โดยสามารถจอดได้บริเวณชั้นบนสุดของอาคารรัฐสภา 2.ตำรวจน้ำที่จะดูแลความปลอดภัยบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาตลอด 24 ชั่วโมง และ 3.เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาความปลอดภัยโดยรอบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี