ค้านแก้รธน.
หมอวรงค์นัดไทยภักดีบุกสภา
ฉบับปัจจุบันดีอยู่แล้ว
ผ่านประชามติ16.8ล.เสียง
“ชวน หลีกภัย” รับเสียดายญัตติแก้ รธน.ฉบับภาคปชช.ไม่ทัน 23-24 กันยายน ม็อบบุกสภาฯเรื่องปกติกำชับจนท.ดูแลความปลอดภัย-ป้องกันติดโควิด ด้าน“สุทิน”จี้สว. เลือกระหว่างชาติ กับกลุ่มคนให้เป็นสว.เห็นชอบร่างแก้ไขรธน.เชื่อม็อบ19ก.ย.มีผลต่อการลงมติ ปัจจัยหลักอยู่ที่’บิ๊กตู่’ตัดสินใจ เผยร่างกลุ่มไอลอว์เข้าสภาฯไม่ทัน เตรียมเสนอเป็นกมธ.คนนอก ขณะที่‘หมอวรงค์’นัด‘กลุ่มไทยภักดี’บุกสภาค้านแก้รธน.ซัดม็อบเจตนาล้มล้างสถาบัน จี้รบ.เร่งดำเนินคดี ‘ไพบูลย์’คาใจ’ชวน’บรรจุ4ญัตติแก้รธน.ฝ่ายค้าน แต่ไม่บรรจุญัตติสภาฯส่งศาล รธน.วินิจฉัย จ่อถามเลือกปฎิบัติหรือไม่23ก.ย.นี้
เมื่อวันที่ 21กันยายน ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร กล่าวถึงกรณีกลุ่มไอลอว์จะยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2564 ฉบับประชาชนในวันที่ 22กันยายน จะสามารถนำมาบรรจุวาระเพื่อพิจารณาร่วมกับอีก 6ญัตติทันหรือไม่ ว่า หากทันก็ดี เพราะอยากให้พิจารณาไปพร้อมกัน แต่ญัตติที่ยื่นจะต้องตรวจสอบรายละเอียด เพราะหากเกิดความผิดพลาดสภาฯต้องรับผิดชอบ ตนได้นั่งดูรายละเอียดฉบับที่ นายจอน อึ้งภากรณ์ ยื่นมาก่อนหน้านี้ อ่านแล้วก็อยากให้นำเข้าพิจารณาได้ทัน แต่เจ้าหน้าที่รายงานมาว่าไม่สามารถทำได้ทันกำหนดเวลา เนื่องจาก นายจอน เพิ่งเสนอเข้ามา จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ
‘ชวน’เผยแก้รธน.ไอลอว์เข้าไม่ทัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนำเข้าสู่วาระพิจารณาสภาฯไม่ทัน จะนำเข้าพิจารณาในชั้นคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ได้หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องทำตามกฎหมาย เพียงแต่ประชาชน5หมื่นรายชื่อมีสิทธิ์เสนอได้ แต่เมื่อเข้าสมัยประชุมนี้ไม่ทันและเมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วก็บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระต่อไป เสียดายที่ส่งมาช้าไปหน่อย เพราะอยากให้พิจารณาไปพร้อมๆกัน เพื่อให้ทุกฝ่ายได้มีโอกาสอภิปรายร่วมกัน ซึ่งตนพยายามจะช่วยเต็มที่ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งมาว่า ทำไม่ทัน
เมื่อถามถึงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมจะมาปักหลักหน้ารัฐสภาในวันที่ 24กันยายน นายชวน กล่าวว่า เขาก็มาปกติไม่มีปัญหาอะไร เพราะสภาฯมีคนอยู่ทุกวัน ยิ่งวันประชุมมีมาหลายกลุ่ม สภาฯต้องดูแลอำนวยความสะดวกอย่าให้มีปัญหา ทั้งการรักษาความปลอดภัยและการระมัดระวังไม่ให้เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19
เมื่อถามว่าจะมีผลกระทบต่อการตัดสินใจลงมติรับหลักการแก้ไขรัฐธรรมนูญวันที่ 24กันยายนหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า เขามาตามปกติ ไม่ได้มาคุกคาม มาแสดงความเห็นและความประสงค์ เป็นเรื่องปกติเหมือนแต่ละกลุ่มที่มา ส่วนเรื่องลงมติญัตติทั้ง 6ฉบับ ต้องประชุมร่วมวิป 3ฝ่ายในวันที่ 22กันยายนนี้
ฝ่ายค้านพร้อมถกแก้รธน.22กย.
ด้าน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงแนวทางการหารือในที่ประชุมร่วมวิป 3ฝ่าย ระหว่างฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านและวุฒิสภา ในวันที่ 22กันยายน เพื่อเตรียมความพร้อมพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า มีญัตติเยอะ แต่เวลาที่ให้น้อย จึงกังวลถึงวิธีบริหารการประชุมและการลงมติในเวลาที่จำกัด ส่วนเรื่องท่าทีก็คงจะมีการพูดคุยกันบ้าง สิ่งใดที่พอจะเป็นไปได้ หรือมีการติดใจในประเด็นใด หรือเคลือบแคลงในเจตนาอะไร ก็จะพูดคุยกัน โดยชักชวนให้คิดถึงเสียงเรียกร้องของประชาชน ทั้งส่วนที่มาชุมนุมและไม่มาชุมนุม
“เชื่อว่าทุกคนที่คิดได้ก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ถึงเวลาหรือไม่ที่จะต้องเอาประเทศออกจากความขัดแย้ง เดินหน้าสู่ความเป็นประชาธิปไตย หรือจะจมอยู่อย่างนี้ และถึงเวลาที่ทุกฝ่ายจะต้องเสียสละแล้วหรือไม่ ก็ต้องร่วมกันคิดว่าหากเสียสละแล้วแต่อาจจะไม่ถึงกับต้องเสียเกียรติ หากมีความพร้อม มีเป้าหมายที่จะทำให้ทุกคนไปกันได้ ก็น่าจะมีการพูดคุยกัน” นายสุทิน กล่าว
ชี้ม็อบมีส่วนผลักดันให้แก้ไข
นายสุทิน กล่าวอีกว่า ส่วนการชุมนุมวันที่ 19กันยายนที่ผ่านมา จะมีผลต่อการตัดสินใจของ สว.ในการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น การชุมนุมที่เกิดขึ้น แม้การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะดูไม่ได้เป็นประเด็นหลักที่มีการปราศรัย แต่หากแยกแยะออกก็คงเห็นว่ารัฐธรรมนูญเป็นเรื่องหลัก เพราะข้อเรียกร้องใดๆก็ตามรัฐธรรมนูญคือกุญแจ หากไม่จัดการที่รัฐธรรมนูญ เสียงเรียกร้องต่างๆก็เดินไปไม่ได้ จึงเชื่อว่ามีผลต่อการตัดสินใจแก้ไขรัฐธรรมนูญและอยากให้ตระหนักว่าหากไม่รับข้อเสนอหรือไม่ทำอะไรเลย อาจจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นบ้าง นอกจากนี้การชุมนุมในวันที่ 24 กันยายน นี้ ที่หน้ารัฐสภา ยิ่งเป็นโอกาสดีของสมาชิกรัฐสภาที่ประชาชนมาแสดงความต้องการแบบทางตรงให้เห็น
เชื่อความเห็น’บิ๊กตู่’คือตัวตัดสิน
เมื่อถามว่าการลงมติของ สว.ที่อาจมีการควบคุมเสียงโดย สว.ที่เป็นผู้นำเหล่าทัพ นายสุทิน กล่าวว่า เมื่อได้โอกาสดีที่ได้เข้ามาทำงานกำหนดทางเลือกให้กับประเทศ ไม่มีมากนักในชีวิตคนคนหนึ่ง สว.ก็ควรมีความเป็นอิสระ ตนยังเชื่อว่าปัจจัยหลักอยู่ที่รัฐบาลและจุดที่น่าสนใจอยู่ที่การตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมและรัฐบาล ดังนั้นไม่ว่าพล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาลคิดอย่างไรก็ตามอยากฝาก สว.ว่าทุกคนรักชาติบ้านเมืองอยู่แล้ว แต่พอถึงจุดหนึ่งท่านจะต้องเลือกเอาระหว่างชาติบ้านเมืองกับกลุ่มคนที่อยากจะให้ สว.ทำอะไรให้
เมื่อถามถึงร่างฉบับประชาชนที่กลุ่มไอลอว์จะมายื่นวันในวันที่ 22กันยายน นายสุทิน กล่าวว่า คงไม่สามารถเข้าสู่ระเบียบวาระได้ทันวันที่ 23-24กันยายนนี้ แต่เบื้องต้นมีความคิดกันว่า จะเอาภาคประชาชนมาร่วมเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญฯและยังมีโอกาสอีกครั้งในกระบวนการสรรหาสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่เปิดกว้างอยู่ หรือหากมีเหตุพลาดพลั้งยังมีโอกาสยื่นญัตติซ้ำได้ หรืออาจนำเอาประเด็นความคิดต่างๆ ที่อยู่ในร่างภาคประชาชนกลุ่มไอลอว์เข้าไปเติมในชั้นกรรมาธิการฯได้ หากสอดคล้องในหลักการ
‘หมอวรงค์’ซัดม็อบจ้องล้มสถาบัน
ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า“ขออนุญาตนัดหมายพี่น้องประชาชน ไปร่วมส่งรายชื่อ 130,000รายชื่อ มอบแด่ท่านประธานสภาผู้แทนและประธานวุฒิสภา เพื่อแสดงเจตนารมณ์ คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ประชาชนเป็นผู้สถาปนา พบกันวันที่ 23กันยายน2563 เวลา 9.00น.หน้าอาคารรัฐสภาใหม่”
นพ.วรงค์ ยังกล่าวถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มแกนนำธรรมศาสตร์และการชุมนุมเมื่อวันที่ 19-20 กันยายน ที่ผ่านมา ว่า การที่แกนนำกลุ่มชุมนุมอ้างเรื่องการปลดแอก อ้างปัญหาประเทศเรื่องการกดขี่และประชาธิปไตย โดยยื่นข้อเรียกร้อง 3ข้อ คือ 1.ให้นายกรัฐมนตรีลาออก 2.ให้ตั้ง สสร.เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ 3.ขอให้มีการปฏิรูปสถาบันฯ ผ่าน ผบช.น.ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องการเมืองควรมายื่นที่รัฐสภา หรือทำเนียบรัฐบาล ไม่ใช่ไปยื่นที่สำนักองคมนตรี จึงสะท้อนถึงเจตนาบ่งบอกถึงความต้องการจาบจ้วง ลดความน่าเชื่อถือของสถาบันพระมหากษัตริย์และมีการเปลี่ยนชื่อเรียกสนามหลวงเป็นสนามราษฎร์ มีการปักหมุดคณะราษฎร์หมุดที่2 แสดงเจตนารมณ์ชัดว่า ต้องการล้มล้างสถาบันฯที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจของคนไทย
จี้รบ.ดำเนินคดีทุกฝ่ายที่สนับสนุน
‘ยังดีที่คนไทยทั้งประเทศไม่เอาด้วย เพราะสื่อต่างประเทศระบุยอดผู้ชุมรุมมาร่วมราว 2หมื่นคน จากคนไทยกว่า 70ล้านคน จึงถึงเวลาที่รัฐบาลต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดทางคดีตามกฎหมายโดยเฉพาะบรรดาแกนนำที่ขึ้นเวที ผู้สนับสนุนทุกคน รวมถึงนักการเมืองที่แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนในการเข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้ รวมถึงสื่อมวลชนบางสำนักข่าว ที่ตั้งใจทำคลิปโดยตัดต่อและนำออกเผยแพร่เท่ากับว่ามีพฤติกรรมสนับสนุน ผมจึงขอเรียกร้องรัฐบาลต้องดำเนินคดีกับคนเหล่านี้ เพราะประชาชนจะไม่อดทนอีกต่อไปแล้ว’นพ.วรงค์ กล่าว
นัดรวมตัวสภา23กย.ค้านแก้รธน.
นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้กลุ่มแกนนำการชุมนุมนี้ยังเรียกร้องให้คนมาชุมนุมในวันที่ 24 กันยายน2563 ที่มีการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญที่รัฐสภา โดยต้องการให้ตั้ง สสร.เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อตอบสนองนักการเมืองบางกลุ่มบางคน แต่คนส่วนใหญ่ของประเทศได้ผ่านประชามติรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาแล้ว 16.8ล้านเสียง เท่ากับประชาชนเป็นผู้สถาปนารัฐธรรมนูญฉบับนี้ จึงขอให้คนไทยทุกคนมาร่วมกับกลุ่มไทยภักดีในการร่วมส่งรายชื่อคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี60 โดยมาเจอกันในวันที่ 23 กันยายน เวลา 09.00น.หน้าอาคารรัฐสภา มาร่วมเป็นตัวแทนคนไทยคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยกัน
‘ไพบูลย์’คาใจไม่บรรจุญัตติสภาฯ
นายไพบูลย์ นิติตะวัน สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ตามที่ได้ยื่นญัตติขอให้รัฐสภามีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยกรณีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ4ฉบับของพรรคร่วมฝ่ายค้านมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญต่อประธานรัฐสภา เมื่อวันที่ 16กันยายนที่ผ่านมา เป็นญัตติด่วนซึ่งคาดว่าจะบรรจุญัตติดังกล่าวในระเบียบวาระการประชุม แต่พบว่าประธานรัฐสภาไม่บรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมครั้งนี้ แต่ญัตติร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งเพิ่งถอนเรื่องไปแก้ไขลงลายมือชื่อกันใหม่ เพื่อแก้ปัญหาก่อนหน้าอาจมีการลงลายมือชื่อเสนอญัตติแทนกัน เมื่อพรรคฝ่ายค้านเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ต่อประธานรัฐสภาในวันที่ 16 ก.ย.ประธานรัฐสภากลับบรรจุระเบียบวาระเฉพาะญัตติของพรรคฝ่ายค้านเป็นเรื่องด่วนที่ 6 ซึ่งตนเห็นว่าการบรรจุญัตติเข้าระเบียบวาระการประชุมว่า มีการเลือกปฏิบัติหรือไม่
รอถาม’ชวน’เลือกปฎิบัติหรือไม่
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมรัฐสภา วันที่ 23กันยายน ตนจะขอทราบเหตุผลที่มีการไม่บรรจุญัตติให้รัฐสภาพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ยื่นประธานรัฐสภาในวันเดียวกับเรื่องด่วนที่ 6 และจะเสนอในที่ประชุมรัฐสภาตามข้อบังคับการประชุม ข้อ 32(1)และ(2)ให้นำร่างรัฐธรรมนูญเรื่องด่วนที่ 1 และเรื่องด่วนที่ 2 มาพิจารณาด้วยกันเพราะ มีหลักการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 และให้จัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญเหมือนกัน ไม่มีการโต้แย้งเรื่องความชอบด้วยรัฐธรรมนูญในการเสนอญัตติทั้งสอง แต่เรื่องด่วนที่3ถึง6 เป็นญัตติร่างแก้ไขเพิ่มที่มีข้อโต้แย้งว่า มีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มีการยื่นญัตติต่อประธานรัฐสภาเป็นญัตติด่วนเพื่อขอให้รัฐสภาส่งปัญหาของญัตติตามเรื่องด่วนที่3ถึง6 ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ตามข้อบังคับที่ 31 จึงควรรอไปพิจารณาพร้อมกันในสมัยประชุมหน้า เพราะหากที่ประชุมรัฐสภามีมติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 4ฉบับตามเรื่องด่วนที่3ถึง6ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยก่อนว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ จึงค่อยดำเนินการขั้นตอนต่อไปได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี