ภท.ลุย kick off โครงการยางพาราเพื่อความปลอดภัยทางถนน เยือนถิ่น จ. บึงกาฬ “นครหลวงแห่งการปลูกยางพาราในภาคอีสาน” มั่นใจกันราคามีเสถียรภาพในระยะยาว
เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2563 นายอนุทินชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดโครงการนำการนำยางพารามาใช้เพื่อปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัยทางถนน (Kick Of) พร้อมด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย โพธิสุ รอง ประธานสภาผู้แทนราษฎร ภายใต้สังกัดพรรคภูมิใจไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ อธิบดี กรมทางหลวง อธิบดีกรมทางหลวงชนบท อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมงาน จังหวัดบึงกาฬ
โดยนายศักดิ์สยาม ระบุว่า การนำโครงการนำยางพารามาใช้เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยทางถนน ทั้งในส่วนของเครื่องกั้นถนนครอบยางพารา rubber fender berier และหลักนำทางอย่างธรรมชาติ หรือ rubber guide post เริ่ม kick off ที่จังหวัดบึงกาฬในวันนี้ ก็เนื่องจากจังหวัดบึงกาฬ ถือเป็นเมืองหลวงของการปลูกยางพาราในภาคอีสาน มีการปลูกยางพารากว่า 1 ล้านไร่ รองลงมาคือ จังหวัดนครพนม และจังหวัดเลย ซึ่งกระทรวงคมนาคมและกระทรวงเกษตรฯ ก็ได้เดินสายเริ่มต้นkick off โครงการในครั้งนี้
โดยการผลักดันโครงการให้เกิดขึ้นในพื้นที่จึงเป็นเรื่องจำเป็น ที่นอกจากโครงการจะมีส่วนสำคัญในการปรับปรุงความปลอดภัยบนท้องถนนแล้ว จะมีส่วนสำคัญในการนำยางพารา ซึ่งเป็นผลผลิตการเกษตรมาใช้ สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวสวน ซึ่งหลังจากเริ่มคิกออฟโครงการตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2563 พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ไปคิดเอาโครงการที่จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดสตูลก่อนหน้านี้ รวมทั้งการนำงบประมาณที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีก้อนแรก มาใช้ดำเนินโครงการในวงเงิน 2,700 ล้านบาท ก็ทำให้เกิดความเชื่อมั่นที่โครงการจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ในระยะยาว โดยหลังจากการใช้วงเงินดังกล่าวหมดลงในเดือนพฤศจิกายน 2563 กระทรวงคมนาคม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็จะมีการขออนุมัติงบประมาณดำเนินโครงการต่อในวงเงินใกล้เคียงกัน ซึ่งผลของโครงการในขณะนี้ได้ส่งผลดีต่อราคายาง โดยปัจจุบันเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ในส่วนของราคาแผ่นยางดิบธรรมชาติ มีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 61 บาท ปรับราคาจาากช่วงก่อนนี้ ที่ราคากิโลกรัมละ 43 บาท หรือราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 30% ส่วนราคายาง"ก้อนถ้วย" ซึ่งเกษตรกรชาวสวนยางในภาคอีสาน ทำเป็นผลผลิตแล้วเอาไปขายนั้น ปัจจุบันราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 13 บาท ปรับราคาขึ้นก่อนหน้านี้ ที่กิโลกรัมละ 20 บาท
“ยืนยันว่าในระยะยาวนั้น จะขับเคลื่อนการรับซื้อยางพารา ในพื้นที่โดยกลไกของสหกรณ์ในจังหวัด ที่กำกับโดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งที่ผ่านมาทราบว่า ราคาที่รับซื้อที่กิโลกรัมละ 21 บาท ชาวสวนยางต้องขาดทุน กิโลกรัมละ 25 บาทชาวสวนยางพออยู่ได้ อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะพยายามผลักดัน ให้มีการรับซื้ออยู่ที่ราคา 28 ถึง 30 บาทต่อกิโลกรัม รวมถึงการผลักดันโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง จะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพียงพออย่างยั่งยืน” นายศักดิ์สยาม กล่าว
สำหรับปริมาณการใช้ยางพาราในโครงการดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมระบุว่า ก่อนหน้านี้ในปี 2562 มีปริมาณการใช้น้ำอย่างพาราสดในโครงการของรัฐมากกว่า 129,000 ตัน แต่เมื่อมีโครงการนำร่องการนำยางพารามาผลิตใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยบนท้องถนนใน3เดือนนี้ พบว่า มีปริมาณการใช้ยางพารากว่า 50,000 ตัน ซึ่งถือว่า เป็นปริมาณการใช้ ที่เท่ากับปริมาณในปี 2561 ทีเดียว
นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวถึงการพัฒนาโครงการลงทุนสำคัญในจังหวัดบึงกาฬ โดยเฉพาะการพัฒนาท่าอากาศยาน จ.บึงกาฬ ที่อยู่ในการกำกับดูแลของกรมท่าอากาศยาน หรือ ทย.ซึ่งล่าสุด กระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. ดำเนินการศึกษารายละเอียด เกี่ยวกับจุดที่ตั้งที่เหมาะสม และรายละเอียดต่างๆ แต่ในเบื้องต้นกระทรวงคมนาคมเห็นถึงความจำเป็น เนื่องจากในอนาคต จังหวัดบึงกาฬจะมีการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาวแห่งที่ 5 จ.บึงกาฬ ซึ่งจะเริ่มงานก่อสร้าง ใช้งบประมาณ 2564 และแล้วเสร็จในปี 2566 ดังนั้นการพัฒนาสนามบิน จะช่วยให้เกิดการคมนาคมเชื่อมต่อ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาเส้นทางคมนาคม แนวเหนือ-ใต้ ,ตะวันออก- ตะวันตก ที่ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับการวิเคราะห์โครงการยางพาราในภาคอีสานนี้ กระทรวงคมนาคมและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมกันผลักดันโครงการ นอกจากการคิดเอาโครงการในจังหวัดบึงกาฬแล้วในวันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้ kick off โครงการในพื้นที่จังหวัดเลย และเมื่อวานที่ผ่านมาก็ได้ kick off โครงการ ที่จังหวัดนครพนมไปแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี