นางสาวศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ยกเลิกสัญญากับคลินิกชุนชนอบอุ่น และโรงพยาบาลเอกชนที่มีความผิดปกติในการเบิกจ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จำนวนทั้ง 3 ล็อต กว่า 188 แห่ง ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่เข้าใช้บริการกว่า 2 ล้านคนนั้นว่า
ถึงแม้ สปสช. จะอ้างว่า ได้วางแผนการรับมือผลกระทบด้วยการเปิดให้ประชาชนสามารถไปรับบริการที่สถานพยาบาลแห่งใหม่ที่เข้าร่วมกับ สปสช. ได้ทุกแห่งโดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่นั้น แต่ในความเป็นจริงสถานพยาบาลที่ สปสช. กล่าวถึงนั้นมีข้อจำกัดที่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาผลกระทบให้กับประชาชนได้ เพราะสถานพยาบาลแห่งใหม่ดังกล่าวไม่ได้ตั้งอยู่ในชุมชน หรือพื้นที่ใกล้เคียง
“สถานพยาบาลแห่งใหม่นั้นมีจำนวนผู้ป่วยที่อยู่ในการดูรักษาต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก และจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ไม่เพียงพออยู่แล้ว ทำให้ผู้ป่วยจากคลินิกชุมชนอบอุ่นที่ถูกปิดลงต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่เพิ่มมากขึ้น และไม่สามารถเข้าถึงการรักษาจากสถานพยาบาลได้จริง รวมไปถึงแพทย์ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลประวัติการรักษาและผลการตรวจวินิจฉัยจากสถานพยาบาลเดิมได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง และรวมถึงกลุ่มที่ผลการวินิจฉัยและข้อมูลเดิมมีความสำคัญ เช่น ผู้ป่วยกลุ่มโรคเรื้อรัง ผู้ป่วยที่ต้องฟอกไต และผู้ป่วยที่ต้องได้รับยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคิดเป็นจำนวนมากกว่าร้อยละ 30 ของจำนวนผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ
นอกจากนี้ นางสาวศิริภา ยังได้เสนอต่อ สปสช. ควรมีมาตรการในการช่วยเหลือผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบที่ได้ผลจริง ก่อนที่จะปิดคลินิกชุมชนอบอุ่น หรือควรแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ด้วยการวางระบบการเบิกจ่ายใหม่ให้มีประสิทธิภาพไม่ให้เกิดการทุจริตขึ้นอีก และลงโทษผู้ที่กระทำการทุจริต แทนการลงโทษผู้ป่วยและประชาชนด้วยการปิดคลินิกชุมชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี