ภท.โต้"สมชัย" ยันไม่เคยกู้ แจงยิบเงินทดรองจ่ายกว่า30ล้านบาท เป็นงบการเงินต่อเนื่องยกมาตั้งแต่ละปีหลังมีรัฐประหาร ชี้กก.พรรคต้องทดรองเงินเพื่อใช้จ่ายจำเป็น
เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2563 นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัวเปิดเผยรายชื่อพรรคการเมืองที่ปรากฏประกาศเงินกู้ในเอกสาร รวมถึงเงินทดรองจ่าย ซึ่งมีการอ้างถึงเงินทดรองจ่ายของพรรคภูมิใจไทยจำนวน 30 ล้านบาท ว่า ข้อสังเกตของนายสมชัย ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย เป็นคนละกรณีกัน เนื่องจากเป็นเงินทดรองจ่ายของพรรคสะสมมาตั้งแต่ปี 2557 โดยภายหลังจากที่มีการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 มีการห้ามพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ห้ามไม่ให้มีการประชุม รวมถึงห้ามไม่ให้อุดหนุนเงินจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ซึ่งกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองได้เรียกเงินที่ได้จัดสรรและเงินเหลือจ่ายจากพรรคคืนแก่กองทุนด้วย
ทั้งนี้ ในการคงอยู่ของพรรคการเมืองจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะรายจ่ายประจำที่เกิดขึ้น แต่เมื่อห้ามดำเนินกิจกรรมทางการเมือง รวมถึงห้ามหารายได้ และรับบริจาคจากสมาชิกและบุคคลทั่วไป กรรมการของพรรคจึงได้ทดรองเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว ในช่วงที่อยู่ระหว่างภายใต้บังคับของประกาศของ คสช.ฉบับที่ 57/2557 และหลังจากหัวหน้า คสช.ได้ยกเลิกประกาศฉบับดังกล่าว ทำให้พรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้เป็นปกติ พรรคภูมิใจไทย จึงไม่ได้มีเงินทดรองจากกรรมการอีกแต่อย่างใด
"จากข้อเท็จจริงที่ปรากฎว่าในงบการเงินปี 2560 มีเงินทดรองจากกรรมการ 23 ล้านบาทนั้น เป็นยอดเงินที่ยกมาจากปี 2559 ถึง 20 ล้านบาท ซึ่งในปี 2560 มีเงินทดรองจากกรรมการอีกเพียง 3.5 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งเมื่อรวมกับยอดเงินที่ยกมาจากปี 2559 จึงเป็นจำนวนเงินรวม 23 ล้านบาท และปี 2561 ปรากฏในงบการเงิน มีเงินทดรองจากกรรมการ 30 ล้านบาทนั้น เป็นยอดเงินที่ยกมาจากปี 2560 จำนวน 23 ล้านบาท ซึ่งในปี 2561 มีเงินทดรองเพียง 6.2 ล้านบาท เมื่อรวมกับยอดเงินที่ยกมาจากปี 2560 จึงเป็นจำนวนเงินรวม 30 ล้านบาท ดังนั้นจึงไม่ใช่ว่าในปี 2560 มีเงินทดรองจากกรรมการจำนวน 23 ล้านบาท และในปี 2561 ก็ไม่ได้มีเงินทดรองจากกรรมการ 30 ล้านบาทแต่อย่างใด แต่เป็นยอดเงินที่ยกมาในแต่ละปี" โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว
นายภราดร กล่าวด้วยว่า เงินทดรองจากกรรมการของพรรคภูมิใจไทยเป็นเงินทดรองที่จำเป็นต้องนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารพรรคที่จำเป็น และมีจำนวนไม่มาก ในแต่ละปีไม่เกิน 10 ล้านบาท เพื่อการดำรงอยู่ของพรรคการเมืองภายใต้สภาวการณ์ที่อยู่ภายใต้บังคับของประกาศ คสช.ยืนยันว่า ไม่ได้มีการกู้ยืมเงิน จึงไม่ได้มีสัญญากู้ยืมเงินแต่อย่างใด และเรื่องนี้ทางพรรคภูมิใจไทยก็ได้ชี้แจงต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งไปแล้วตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี