เช็คบิลม็อบสาดสีผิดกม.
บิ๊กตู่ชี้ทำเกินเลย
ลั่นประเทศชาติต้องสงบ
จนท.กำลังเร่งเก็บหลักฐาน
รบ.เคาะหนุน2ร่างแก้รธน.
แก้ม.256ไม่แตะหมวด1-2
เจ๊หน่อยยินดีหญิงอ้อช่วยพรรค
นายกฯ ระบุให้กฎหมายดำเนินการ ม็อบปาไข่-สาดสี หน้าค่ายทหาร ถ้าทำเกินเลย ถามเหมาะสมหรือไม่ชี้บางครั้งแค่อยากถ่ายรูปให้เห็นว่าเคลื่อนไหว ขออย่าไปขยายความ หวั่นเป็นชนวน ระบุแก้รธน.ต้องรอ กมธ.ศึกษาร่างฯ 30 วัน ก่อนโหวตรับร่างฯ ปัดสั่งสภา เชื่อยึดประโยชน์ชาติ “นายกฯ” เรียกแกนนำรัฐบาลหารือ โดยพรรคร่วม รบ.ส่งสัญญาณหนุน 2 ญัตติแก้รธน.“พรรคร่วมรบ.-ฝ่ายค้าน” แก้ ม.256ให้มีส.ส.ร.ห้ามแตะหมวด 1-2 “ทนายอานนท์”ประกาศลั่น
14 ต.ค.พร้อมลงถนนของจริง‘บิ๊กแดง’ร่วมพิธีส่งมอบหน้าที่ให้ผบ.ทบ.คนใหม่ ‘บิ๊กบี้’ประกาศลั่นสานต่อทุกภารกิจ ค้ำจุนชาติ-ราชบัลลังก์ ขณะที่’ชวน’ปัดตอบรัฐบาลแห่งชาติ ชี้ไม่มีใน รธน.อยู่ที่ฝ่ายบริหาร
เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)กรณีกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมบุกปาไข่และสาดสี ที่หน้ากองพันทหารม้าที่ 4รักษาพระองค์( ม.พัน 4 รอ.)เพื่อทวงถามความคืบหน้าการลงโทษพลทหารนอกเครื่องแบบที่ปรากฏภาพล็อกคอประชาชนที่มาให้กำลังใจกลุ่มไอลอว์เมื่อวันที่22 กันยายนที่ผ่านมา โดย พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่าสื่อว่าอย่างไร ทำได้หรือไม่ได้ ควรทำหรือไม่ควร
นายกฯม็อบทำเกินเลยให้เอาผิดกม.
“เป็นเรื่องของกฎหมายว่ากันไปและเรื่องทรัพย์สินราชการ บางครั้งประชาชนทุกคนต้องช่วยดูแลด้วย ไม่อยากเป็นชนวนทางการเมือง โดยวันนี้ได้สั่งให้หน่วยงานของรัฐ ระมัดระวังที่สุดในการปฏิบัติต่อประชาชนที่ประท้วงต่างๆถ้าเกินเลย ก็เป็นเรื่องกฎหมาย ผมไม่ต้องสั่งอะไร”นายกรัฐมนตรี ย้ำและเมื่อถามว่าจะต้องให้กองทัพอธิบายสังคมหรือไม่กับเหตุการณ์ที่ผู้ชุมนุมอ้างว่ามีนายสั่งทหารไปล็อก คอประชาชน นายกฯ ตอบว่า”ไม่มีหรอก”
เมื่อถามว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีเป้าหมายชัดเจนซึ่งเข้าข่ายผิดกฎหมายและสังคมมีคำถามเหตุใดรัฐบาลยังยอมเปิดพื้นที่ให้เคลื่อนไหวและใช้ถ้อยคำกร้าวร้าวพร้อมรอดูรัฐบาลจะเด็ดขาดอย่างไรพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าเปิดหรือไม่เปิด เขาก็เคลื่อนไหวอยู่แล้วซึ่งต้องนึกถึงกฎหมายที่จะตามมาด้วยโดยมีการเก็บหลักฐานไว้ทั้งหมด วันนี้ไม่อยากให้เป็นประเด็นขัดแย้งกันเรื่อยๆ ชักจูงคนไปร่วมมากขึ้นโดยที่ไม่ใช่ข้อมูลที่แท้จริง
อย่าไปขยายความหวั่นเป็นชนวน
“หลายๆอย่างเขาเพียงแค่อยากถ่ายรูปให้เห็นมีรูปของเขาเคลื่อนไหว แล้วเราก็ขยายไปเยอะๆก็เป็นเงื่อนไขไปเรื่อยๆผมต้องการจะลดความไม่สงบเรียบร้อยของสังคมและประเทศชาติให้มากที่สุด หลายเรื่องท่านทราบดีอยู่แล้ว ทั้งเรื่องกฎหมายและอะไรต่างๆและที่ผมกังวล คือ รัฐพยายามประคับประคองตรงนี้ให้ได้ แต่ประชาชนไม่เห็นด้วยจำนวนมากพอสมควร ก็ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ผมก็ทำอะไรไม่ได้เพราะทุกคนมีสิทธิ์ร้องทุกข์กล่าวโทษได้ทั้งหมด ต้องขอขอบคุณสื่อหลักๆที่เผยแพร่ข้อมูลและข้อเท็จจริงให้คนได้เห็น อะไรที่ไม่ควรได้ยินและเป็นการยั่วยุ ก็ไม่ต้องไปเผยแพร่ตอกย้ำ ถ้ามันผิดอยู่แล้วไม่ถูกต้องก็อย่าไปขยายความ”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
รอกมธ.ศึกษาแก้รธน.30วัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีกรณีร่างรัฐธรรมนูญที่ยังความคิดเห็นไม่ตรงกันและดูเหมือนส.ว.เปิดโอกาสอยากให้ส่งร่างฉบับ ครม.เข้าไปร่วมพิจารณาในสมัยหน้าว่าขณะนี้รอคณะกรรมาธิการศึกษา ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญภายในเวลา 30 วัน ก่อนจะมีการนำเข้ามาพิจารณาวาระแรก เมื่อมีการเปิดสภาก็จะดำเนินการต่อและสรุปออกมาว่าคณะกรรมการศึกษาฯ มีความคิดเห็นอย่างไร ซึ่งมองว่าเป็นการทำให้เกิดการพิจารณาร่วมกันระหว่าง 2 สภา
ปัดสั่งสภา/เชื่อยึดประโยชน์ชาติ
พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า“ยืนยันว่าผมจะไปกำกับดูแลหรือสั่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ จะเห็นว่าที่ผ่านมาทุกคนก็แสดงความคิดเห็นของตัวเองอย่างอิสระ โดยทุกคนยึดมั่นในผลประโยชน์ของชาติและประชาชน ทั้งนี้มีหลายร่างด้วยกันก็ขึ้นอยู่กับ กมธ.จะพิจารณา โดยขอให้ทุกคนมองผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลักก็แล้วกันว่าอะไรได้ไม่ได้ อะไรควรทำหรือไม่ควรทำซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะกรรมาธิการที่จัดตั้งขึ้นมา”
บ่นเจอถามเรื่องตั้งพรรคใหม่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่ามีนักการเมือง ที่เคยเป็นอดีตทหารระดับสูง 2 ป.สั่งให้ ปลัด ฉ. ตั้งพรรคการเมืองเพื่อสำรองไว้ โดยพล.อ.ประยุทธ์ แสดงอารมณ์หงุดหงิดทันที ถึงกับขมวดคิ้ว ย้อนถามผู้สื่อข่าวกลับว่า“ป.ไหน.”เมื่อผู้สื่อข่าวระบุว่าเป็น ป.ประยุทธ์ กับ ป.ป็อก พล.อ.ประยุทธ์ได้ตัดบทตอบเสียงเข้มว่า“สวัสดี”พร้อมเดินออกจากโพเดียมการให้สัมภาษณ์ทันที แล้วผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเชิงบ่นว่า“แค่พรรคเดียว ก็ปวดหัวแย่อยู่แล้ว”
ป้อมชี้จนท.ดูม็อบทาสีค่ายทหาร
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงที่กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมบุกทาสีหน้ากองพันทหารม้าที่ 4 กองพล1 รอ.ฝั่งตรงข้ามรัฐสภา จะมีการดำเนินคดีหรือไม่ว่า ไม่รู้ ก็ผู้ชุมนุมเขาจะไป ต้องดูว่ามันผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าไม่ผิด ก็ไม่เป็นไรส่วนการทาสี ทำให้เกิดความเสียหาย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าก็ไม่เสียหายอะไร ตนว่ามาคุยกันดีกว่า พูดกันให้รู้เรื่องดีกว่า เมื่อถามว่า มีหลายฝ่ายเรียกร้องให้เอาจริงเอาจังกับการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ชุมนุม พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เขาดูอยู่แล้ว
เมินไม่ตอบรัฐบาลแห่งชาติ
พล.อ.ประวิตรยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ระบุจะได้รมว.คลังคนใหม่ สัปดาห์หน้าได้มีการพูดคุยกันบ้างหรือไม่ว่า ไม่ได้คุย เมื่อถามถึงกระแสข่าวรัฐบาลแห่งชาติยังคงมีต่อเนื่อง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ที่ไหน คุณต้องไปถามกับคนที่ให้ข่าว มาถามตนๆ ไม่ได้ให้ข่าว จะไปรู้ได้อย่างไร เมื่อถามย้ำว่า อนาคตข้างหน้ามีโอกาสจะเป็นไปได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร เมินหน้าหนีและไม่ตอบคำถามดังกล่าว พร้อมกับเดินออกจากวงผู้สื่อข่าวทันที
‘นายกฯ’เชิญแกนนำรัฐบาลถก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมได้เชิญแกนนำรัฐบาล หัวหน้าพรรค และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เข้าไปนั่งดื่มกาแฟและหารือ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ทำให้การประชุม ครม.ต้องเริ่มขึ้นล่าช้าไปเล็กน้อย
พรรครบ.เคาะโหวตหนุน2ญัตติ
โดยวงดังกล่าวมีการหารือกันในหลายเรื่องรวมถึงสอบถามความคืบหน้างานในความรับผิดชอบแต่ละพรรค อาทิ เรื่องงบประมาณ, การความคืบหน้าเรื่องการผลิตวัคซีนโควิด-19 และเรื่องไทยแลนด์ลองสเตย์, การแก้ปัญหาไฟป่า รวมถึงเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้กำชับพรรคร่วมรัฐบาลให้รับญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ญัตติ ที่มีหลักการเดียวกัน คือ ญัตติของพรรคร่วมรัฐบาลกับญัตติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ให้แก้ไขมาตรา 256 เพื่อเปิดทางให้มีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) แต่ทั้งญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญของทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้านจะต้องไม่แตะต้องหมวด 1 และหมวด 2
นายกฯไม่ห่วงม็อบเดือนตุลา
ขณะที่ในช่วงท้ายการประชุม ครม.พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาล ที่ทำงานในสภาฯโดยที่ไม่มีความขัดแย้ง ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ปล่อยให้เป็นเรื่องของรัฐสภาไปและคอยไปติดตามที่รัฐสภา ส่วนที่จะมีการเคลื่อนไหวของหลายกลุ่มที่จะมีขึ้นในเดือนตุลาคมนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ไม่ได้มีความกังวลใดๆทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้มีการพูดถึงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในนามของรัฐบาลแต่อย่างใด
ศรีฯชี้ม็อบบุกสาดสี/ผิด4ข้อหา
ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงที่มีแกนนำ
กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม แสดงความไม่พอใจ ด้วยการขว้างปาไข่และนำสีไปละเลงป้ายกองพันทหารม้า ที่ 4 รักษาพระองค์ ฝั่งตรงข้ามรัฐสภา เมื่อวันที่ 28 ก.ย.เพื่อทวงถามความคืบหน้าการลงโทษพลทหารนอกเครื่องแบบ ที่ปรากฏภาพล็อกคอประชาชนที่มาให้กำลังใจกลุ่มไอลอว์ เมื่อวันที่ 22 ก.ย.
การกระทำดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ มีความผิดตามกฎหมายหลายข้อหา อาทิ ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ตาม ป.อาญา ม.358ที่บัญญัติไว้ว่า“ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”และยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง 2535 ม.12 ที่บัญญัติไว้ว่า “ห้ามมิให้ผู้ใด ขูด กระเทาะขีด เขียน พ่นสี หรือทำให้ปรากฏด้วยประการใด ๆ ซึ่งข้อความ ภาพ หรือ รูปรอยใด ๆ ที่กำแพงที่ติดกับถนน บนถนน ที่ต้นไม้ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของอาคารที่อยู่ติดกับถนนหรืออยู่ในที่สาธารณะ” และถ้าฝ่าฝืนจะมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ตาม ม.56 อีกด้วย
ส่วนการที่มีผู้ร่วมเดินทางไปชุมนุมกันหลายคนในพื้นที่ด้านหน้าขวางทางเข้า-ออกที่ทำการหน่วยงานของรัฐ(ค่ายทหาร) ถือเป็นการฝ่าฝืนม.8(1) ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ2558 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเรียกร้อง สนับสนุน คัดค้าน หรือแสดงความคิดเห็นในเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยแสดงออกต่อประชาชนทั่วไปและบุคคลอื่นสามารถร่วมการชุมนุมด้วยได้นั้นเรียกว่าเป็นการชุมนุมสาธารณะ ต้องมีการแจ้งต่อหัวหน้าหรือผู้บังคับการตำรวจเจ้าของพื้นที่ก่อนอย่างน้อย 24 ชม.หากไม่ดำเนินการถือว่าเป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตาม ม.10 มีความผิดตาม ม.27 ม.28 และม.31ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
“อันที่จริง การชุมนุมดังกล่าว เป็นความผิดซึ่งหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าจับกุมได้ทันทีหรือหลังจากนี้ ผบ.ม.พัน 4 พล.1 รอ.อาจมอบหมายให้นายทหารเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษแกนนำม็อบดังกล่าวได้ตามข้อหาข้างต้นหากไม่ดำเนินการใดๆ ผบ.ม.พัน 4 พล.1 รอ.ก็อาจมีความผิด ตาม ป.อาญา ม.157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร ต้องเอาจริงต่อผู้ที่มีเจตนาฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่าว เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีต่อสังคมนั่นเอง”นายศรีสุวรรณ กล่าว
อานนท์ลั่น14ต.ค.พร้อมลงถนน
ด้านนายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนและเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง แกนนำประชาชนปลดแอก โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก เผยว่า“ตอนนี้กำลังเคลียร์คดีทั้งหมดที่รับว่าความ จากวันนัดหลัง 14 ตุลาคม จนถึงสิ้นปี มอบให้เพื่อนทนายรับไปจัดการแทน เป็นคดีชาวบ้านที่ไม่ได้มีค่าตอบแทนใดๆ คงมีค่าใช้จ่ายค่าเดินทางเล็กน้อย ขอบคุณ(ล่วงหน้า) สำหรับเพื่อนทนายที่เข้ามาช่วยเหลือในช่วงนี้ และมีความสุขที่ได้ร่วมงานในช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญนี้ ทั้งนี้ นับจาก 14 ตุลาคม จะเป็นการลงถนนอย่างแท้จริงและไม่มีอะไรต้องห่วงอีกต่อไป”
ชวนสั่งเร่งตรวจรายชื่อร่างไอลอว์
นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรเผยว่าได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เร่งรัดตรวจสอบรายชื่อและความถูกต้องของร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน หรือไอลอว์ ให้เสร็จภายในกรอบเวลา 45วัน จะต้องตรวจสอบทั้ง100,000 กว่ารายชื่อ แล้วประกาศเพื่อให้มีการคัดค้านว่าเป็นจริงหรือไม่ ส่วนจะทันพิจารณาร่วมกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ร่าง ในสมัยประชุมหน้าหรือไม่ จะต้องรอผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาร่างรัฐธรรมนูญ 6 ฉบับก่อนรับหลักการก่อน เท่าที่ดูร่างของไอลอว์กับร่างแก้ไขทั้ง 6ร่าง ก็เห็นว่ามีทั้งส่วนที่เหมือนกันและแตกต่างกัน จึงยังตอบไม่ได้ว่าเป็นหลักการเดียวกันหรือไม่ เพราะยังไม่ได้วินิจฉัย เนื่องจาก ยังไม่มีเงื่อนไขและข้อเท็จจริงว่ากฎหมายที่เสนอแล้วตกไปหรือไม่ ถือเป็นการคาดการณ์กันล่วงหน้า จึงไม่อยากให้กังวลไปก่อน หากกรอบเวลาพิจารณาไม่ทัน30วัน ก็สามารถขอขยายเวลาได้
ปัดตอบรัฐบาลแห่งชาติ ชี้ไม่มีรธน.
อย่างไรก็ตาม นายชวน ได้ปฏิเสธแสดงความเห็นข้อเสนอเรื่องรัฐบาลแห่งชาติว่าไม่ขอวิจารณ์และไม่อยู่ในฐานะที่จะแสดงความเห็นเพราะไม่เกี่ยวกับสภา เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร แต่ในรัฐธรรมนูญ ไม่มีเรื่องของรัฐบาลแห่งชาติ ดังนั้น หากจะตั้ง ก็ถือเป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร
พิธีมอบตำแหน่ง-ธง‘ผบ.ทบ.ใหม่
ที่ กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกและพล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก(คนใหม่)ร่วมกระทำพิธีรับ-ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการทหารบก โดยได้กระทำพิธีสักการะศาลพระชัยมงคลภูมิ วางพานพุ่มถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 พร้อมลงนามเอกสารรับ-ส่ง หน้าที่ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมขึ้นแท่นรับการเคารพ จากกองผสมสวนสนามจากนั้น พล.อ.อภิรัชต์ส่งหน้าที่พร้อมธงผู้บัญชาการทหารบก ให้กับ พล.อ. ณรงค์พันธ์ ผู้บัญชาการทหารบกใหม่
ขณะ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่าจากการที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ตนดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม2563 เป็นต้นไปนั้นนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ ตนขอน้อมรับหน้าที่อันมีเกียรตินี้ด้วยความสำนึกในความรับผิดชอบเป็นอย่างยิ่ง ในการเป็นทหารอาชีพที่มีอุดมการณ์แน่วแน่ ทุ่มเท เสียสละในการทำหน้าที่เพื่อส่วนรวมอย่างเต็มกำลังความสามารถและมีความจงรักภักดีอย่างมั่นคงต่อสถาบันชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
บิ๊กบี้ประกาศค้ำจุนชาติ-ราชบัลลังก์
“ผมขอยืนยันจะสานต่อภาระหน้าที่ นโยบายและอุดมการณ์การทำงานของท่านผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์อย่างเต็มความสามารถที่จะปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความเป็นธรรมดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดและพร้อมจะนำพากำลังพลในกองทัพบกปฏิบัติภารกิจบนพื้นฐานของความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจดูและพัฒนากองทัพบกให้มีความเจริญก้าวหน้าสามารถยืนหยัด เป็นสถาบันหลักด้านความมั่นคง ที่ค้ำจุนประเทศชาติและราชบัลลังก์อย่างยั่งยืนตลอดไป”พล.อ.ณรงค์พันธ์ ย้ำ
ภายหลังเสร็จพิธี พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่าจะให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายและแนวทางการทำงานในกองทัพบก เป็นครั้งแรก ภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ในวันที่ 6 ต.ค. เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรบ้างรับมอบตำแหน่งวันแรก พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า เรียบร้อยดี พร้อมชูนิ้วโป้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี