อย่าฟังแค่‘บิ๊กตู่’คนเดียว
สว.เสียงแข็ง
ตั้งส.ส.ร.ต้องทำประชามติ
‘ชวน’หวังวุฒิสภา1ใน3หนุน
เตือนอย่าหักด้ามพร้าด้วยเข่า
ไพบูลย์ปัดนายกฯส่งสัญญาณ
เลือกวิรัชนั่งปธ.กมธ.แก้รธน.
เชื่อเสร็จทันกรอบเวลา30วัน
ประชุม กมธ.ศึกษาร่างแก้ไขรธน.นัดแรก เลือก “วิรัช” นั่ง ปธ. เตรียมเรียก“ผู้เสนอญัตติ-พีระพันธุ์”ให้ข้อมูล เชื่อเสร็จทันกรอบ 30 วันรับร่าง “ไอลอว์” ยังไม่ได้ดึงพิจารณา “ไพบูลย์” ปัด“บิ๊กตู่” ส่งสัญญาณโหวตผ่านแก้ไขรธน.ดับฝันร่างภาคปชช.เหตุยังไม่บรรจุส่อขัดกม. เล็งตั้งคณะทำงานศึกษาปม’ทำประชามติ’ขณะ‘จุรินทร์’ปัดถกนายกฯตั้ง รัฐบาลแห่งชาติ รับแก้ รธน.สัญญาณดี ทำพร้อมแก้ปัญหาปากท้องได้ ด้าน ปธ.รัฐสภา ‘ชวน’หวังเสียง ส.ว.1ใน 3โหวต แค่สส.ไม่พอ เตือน‘อย่าหักด้ามพร้าด้วยเข่า’ ด้าน สว.ทั้ง‘เสรี-สมชาย’เสียงแข็ง อย่าฟัง‘นายกฯ’คนเดียวไม่ได้ ต้องทำประชามติก่อนมี สสร.
เมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่รัฐสภานายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.)พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่...) พ.ศ....ก่อนรับหลักการ แถลงภายหลังการประชุม กมธ.นัดแรกว่า ที่ประชุม กมธ.มีมติเลือกให้ นายวิรัช รัตนเศรษฐ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เป็น ประธานกรรมาธิการฯและ มีรองประธานกรรมาธิการ 6คน ได้แก่ นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ สมาชิกวุฒิสภา รองประธานฯคนที่1 นายไพบูลย์ นิติตะวัน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ รองประธานฯคนที่2 นายศุภชัย ใจสมุทร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย(ภท.)รองประธานฯคนที่3นายชินวรณ์ บุญเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รองประธานฯคนที่4 นายวิเชียร ชวลิต สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร.รองประธานฯคนที่ 5และนายนิกร จำนง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา รองประธานฯคนที่6
มีที่ปรึกษากรรมาธิการฯ 4คน ได้แก่ นายกล้าณรงค์ จันทิก สมาชิกวุฒิสภา นายอิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา และนายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา โฆษกกรรมาธิการฯ 2คน ได้แก่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรคปชป.และนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย เป็นเลขานุการกรรมาธิการฯ
เชื่อพิจารณาเสร็จทันกรอบ30วัน
นายชัยวุฒิกล่าวต่อว่า เบื้องต้นกรรมาธิการฯ ได้มีการหารือร่วมกันว่า ควรให้ผู้เสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งหมด มาชี้แจงข้อมูล เพื่อให้กรรมาธิการได้พิจารณาในช่วง 2 สัปดาห์แรกควรเร่งพิจารณาก่อน เชื่อว่ากรอบระยะเวลา30 วัน จะเพียงพอต่อการพิจารณาซึ่งกมธ.เตรียมที่จะเชิญนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมาธิการศึกษาหลักเกณฑ์ และวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เข้ามาให้ข้อมูลผลการศึกษาของคณะกรรมมาธิการฯด้วย
‘การประชุมจะพิจารณาญัตติรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ฉบับ พร้อมกัน ไม่ได้เน้นญัตติใดเป็นพิเศษ ส่วนที่มองกันว่าในกรรมาธิการฯไม่มีฝ่ายค้านร่วมด้วยนั้น ที่ประชุมเห็นว่าไม่เป็นปัญหา เพราะยังต้องเชิญผู้เสนอร่างเข้ามาให้ข้อมูลอยู่แล้ว ซึ่งร่าง5ฉบับก็มาจากฝ่ายค้าน สำหรับร่างของกลุ่มไอลอว์ กรรมาธิการฯยังไม่นำมารวมด้วย เพราะต้องพิจารณา6ญัตติที่เข้าสภามาก่อน โดยญัตติที่เหมือนจะพิจารณาไปพร้อมกัน ขณะที่ญัตติในรายมาตราจะพิจารณาลำดับต่อไป’นายชัยวุฒิ กล่าว
‘ไพบูลย์’ชี้ต้องทำประชามติก่อน
นายไพบูลย์ นิติตะวัน สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร.ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า มีประเด็นข้อกฎหมายที่สำคัญ คือการทำประชามติก่อนสภาฯแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ เป็นประเด็นที่ได้มีการเสนอกันว่าเนื่องจากมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่มีบรรทัดฐานว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่นำไปสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับจะต้องมีการทำประชามติเพื่อฟังเสียงจากประชาชนก่อน อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องนี้ แต่อาจจะมีการตั้งคณะทำงานศึกษาเรื่องนี้อีกครั้ง เพราะเป็นปัญหาของข้อกฎหมาย
ปัดบิ๊กตู่ส่งสัญญาณผ่านแก้รธน.
เมื่อถามถึงกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ส่งสัญญาณให้พรรคร่วมรัฐบาลรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะมีผลต่อการพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯ ชุดนี้หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพล.อ.ประยุทธ์ เนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของของรัฐสภา อีกทั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.) ไม่ได้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสภาฯ แต่เท่าที่ดูจากคณะกรรมาธิการฯทุกคนก็มีแนวโน้มและทิศทางที่ดีที่จะรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป
‘ชวน’ติง‘อย่าหักด้ามพร้าด้วยเข่า’
ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการประชุมของคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6ฉบับ ก่อนรับหลักการ ว่า การลงมติรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ หากมีร่างใดร่างหนึ่งตกไป จะไม่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์การเมือง เพราะทุกร่างที่มีการเสนอเข้ามา ก็มีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ถือเป็นเรื่องธรรมดา ทุกฝ่ายต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณให้ผ่านร่างเห็นชอบ 2ฉบับ ที่ให้แก้ไขใน มาตรา 256 ทั้งในส่วนของฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลนั้น เห็นว่าทั้งหมดขึ้นอยู่กับสมาชิก
ประธานรัฐสภา กล่าวอีกว่า การลงมติเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้จะมีเสียงของ ส.ส.ลงมติเป็นเอกฉันท์ ร่างดังกล่าว ก็จะผ่านความเห็นชอบไม่ได้ หากไม่มีเสียงของ ส.ว.จำนวน 1 ใน 3 ร่วมลงมติด้วย ดังนั้น จึงคาดหวังว่า ในกมธ.พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 6ฉบับ ก่อนรับหลักการ จะมีการหารือพูดคุยกัน เจรจาเพื่อเกิดทางออกที่ดีของทั้งสองฝ่าย ซึ่งตนเองเคยแจ้งก่อนหน้านี้แล้วว่า การดำเนินการใด ๆ ก็แล้วแต่ “อย่าหักด้ามพร้าด้วยเข่า”
พรเพชรเสียดายฝ่ายค้านไม่ร่วม
ด้าน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาที่คณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมก่อนรับหลักการ 6ฉบับ ต้องกลับไปพิจารณา ว่า การที่มีกรรมาธิการฯไม่ครบทุกฝ่าย และต้องเข้าใจว่ามีหน้าที่ในการศึกษาในกรอบระยะเวลาสั้นๆเพียง 30วัน ซึ่งผลการศึกษาที่ออกมา ต้องไม่ใช่การจะล้มร่างใดร่างหนึ่ง แต่การหารือในคณะกรรมาธิการฯจะได้ผลดีกว่าการถกเถียงในห้องประชุมรัฐสภา ส่วนตัวรู้สึกเสียดายที่พรรคการเมืองบางพรรค ไม่ได้เข้าร่วมในคณะกรรมาธิการฯ ชุดนี้ เพราะหากได้เข้าร่วมก็จะได้เห็นจุดอ่อนและจุดแข็งในแต่ละร่างและนำไปสู่การแก้ไข ทั้งนี้ การที่พรรคร่วมรัฐบาลเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการฯก็เพื่อต้องการให้เคลียร์ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนจะมีการลงมติรับหลักการ แม้จะไม่มีพรรคฝ่ายค้านมาร่วมด้วย แต่ร่างก็ไม่ตกไป เนื่องจากต้องรอการลงมติรับหลักการวาระแรก ซึ่งในตอนนั้นก็จะเห็นเค้าลางว่าร่างใดจะได้รับความเห็นชอบและมีข้อสังเกตอย่างไร
‘เสรี’สวนฟังนายกฯคนเดียวไม่ได้
ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.ในฐานะกมธ.พิจาณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6ฉบับก่อนลงมติรับหลักการ กล่าวถึงกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม สั่งให้พรรคร่วมรัฐบาลลงมติรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา256 จำนวน2ญัตติของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะเป็นการส่งสัญญาณให้สว.ลงมติรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า ไม่เกี่ยวกัน อย่านำนายกฯมาโยง การแก้รัฐธรรมนูญต้องพูดคุยด้วยเหตุผล นำความเห็นต่างมาพูดคุยเพื่อหาจุดร่วมที่ลงตัวให้เห็นพ้องต้องกัน ไม่ใช่การมุ่งเอา ชนะคะคานกัน การที่สว.จะตัดสินใจอะไร ไม่ใช่แค่ยึดนายกฯคนเดียว แต่ต้องฟังทุกฝ่ายทั้งสส.รัฐบาล ฝ้ายค้าน ไอลอว์ โดย สว.15คนที่เป็นกมธ.ชุดนี้ถือเป็นตัวแทนสว.ในการตัดสินใจ
สมชายลั่นทำประชามติก่อนมีสสร.
นายสมชาย แสวงการ สว.กล่าวว่าจุดยืนเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญของตนคือ สามารถแก้ไขมาตรา 256ได้ แต่ถ้าจะตั้งส.ส.ร.มายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ควรทำประชามติสอบถามความเห็นประชาชนก่อนจะเห็นชอบหรือไม่ เรื่องนี้ต้องนำมาหารือในกมธ.ฯว่า ตามกฎหมายแล้วจะต้องทำประชามติหรือไม่ เพราะเคยมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญปี2555 วินิจฉัยการแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา291ที่ให้ยกร่างใหม่ทั้งฉบับในในลักษณะเดียวกันนี้ ระบุชัดเจนว่า ต้องทำประชามติสอบถามประชาชนก่อน
‘จุรินทร์’ย้ำไม่ตั้งรัฐบาลแห่งชาติ
นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายกฯเชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลหารือก่อนประชุมครม.เมื่อวันที่ 29ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า ไม่มีคุยเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ ซึ่งความเห็นตนรัฐบาลแห่งชาติในโลกจะเกิดได้ก็ต้องอยู่ในภาวะสงครามหรือในภาวะวิกฤติที่ระบบปกติไม่มีทางไป แต่สถานการณ์ประเทศขณะนี้ระบบรัฐสภายังเดินหน้าไปได้ตามปกติ จึงไม่เห็นความจำเป็นและไม่ทราบที่มาที่ไปของข่าว การหารือกับนายกฯและพรรคร่วมเมื่อวาน(29กันยายน)ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีเรื่องแก้ รธน.เพราะมีความเห็นไปทางเดียวกัน สิ่งที่ตนเห็นว่าต้องเร่งทำต่อไปคือ เร่งหารือและหาจุดร่วมกับ สว.เพราะถ้า 3ฝ่ายคือ พรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายค้าน สว.เห็นร่วมกันได้ รธน.ก็แก้ได้ ตนสั่งการให้กรรมาธิการของพรรคผลักดันอย่างเต็มที่ในการประชุมกรรมาธิการพิจารณาก่อนรับหลักการในช่วง 1เดือนนี้ เพราะเป็นจุดยืนพรรคและนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลและให้สนับสนุนร่างแก้ไขของพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน ที่แก้ ม.256 ให้ตั้ง สสร.โดยไม่แตะหมวด1หมวด2
ส่วนที่บางฝ่ายเห็นควรแก้ปัญหาปากท้องก่อนแก้รธน.ตนเห็นด้วยว่าเรื่องปากท้องสำคัญมากแต่การบ้านของประเทศมีหลายข้อและสามารถทำพร้อมกันได้ การแก้ปัญหาปากท้องเป็นหน้าที่รัฐบาล ส่วนการแก้ รธน.เป็นหน้าที่รัฐสภา ส่วนร่างแก้ไขรธน.ของไอลอว์ ต้องรอบรรจุวาระก่อนจึงจะพิจารณาได้ เพราะฉะนั้นขณะนี้ถือว่า ร่างที่กมธ.ฯพิจารณาก่อนรับหลักการจะต้องนำมาพิจารณายังมีแค่ 6ร่าง
ปชป.เชื่อพรรคร่วมคุยแก้รธน.ได้
นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคปชป.กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ตามหลักการแม้ ครม.จะไม่มีมติส่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เป็นความเห็นพ้องในนามพรรคร่วมรับบาล จึงเชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลยังพูดคุยกันได้ ขณะนี้ยังไม่มีบรรยากาศที่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลและเห็นว่า เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นปัญหาที่พูดคุยได้ หลักเบื้องต้น สส.เมื่อเซ็นต์ชื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วก็ควรลงมติตามที่เสนอญัตติไป ขณะเดียวกัน จุดยืนพรรคปชป.สนับสนุนให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา256 เพื่อให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลสามารถทำความเข้าใจและนำไปสู่การรับหลักการวาระแรกได้สำเร็จ
ผบ.ตร.คนใหม่ลั่นยึดกม.ดูแลม็อบ
วันเดียวกัน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)คนใหม่กล่าวหลังพิธีส่งมอบตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติโดยยืนยันว่าจะปฎิบัติหน้าที่กับองค์กรที่มีคนจำนวนมากให้ดีที่สุด ยอมรับว่าใจหายที่หายกันไปทีละคนสองคน เคยไปไหนมาไหน ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน แต่ไม่เป็นไร เพราะเป็นวิถีการทำงาน ส่วนตัวไม่รู้สึกหนักใจเรื่องใดเป็นพิเศษและพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร.ไม่ได้ฝากเรื่องอะไรพิเศษ มีเพียงปัญหาสังคมที่มีความท้าทาย เพราะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งจะต้องปรับให้เข้ากับทุกสถานการณ์ ยืนยันว่า ตำรวจไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมยึดหลักกฎหมาย ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ตำรวจต้องดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งตนติดตามสถานการณ์ข่าวสารอยู่ตลอดและจะพยายามทำความเข้าใจ ใช้กฎหมายควบคู่กับหลักสิทธิมนุษยชนไปพร้อมกัน
สมช.ไม่หนักใจเรื่องม็อบชุมนุม
ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ส่งมอบหน้าที่ให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก(รอง ผบ.ทบ.) ว่าที่เลขาธิการสมช.คนใหม่ เนื่องจากเกษียณอายุราชการ โดยมีข้าราชการสภาความมั่นคงแห่งชาติร่วมในพิธี
โดย พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า งานสมช.มีความสำคัญและส่วนตัวตั้งใจจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด ให้เท่ากับ พล.อ.สมศักดิ์ ที่ได้ทำไว้และไม่หนักใจกับสถานการณ์ที่มีการชุมนุม เพราะพล.อ.สมศักดิ์ ได้วางรูปแบบการทำงานไว้ดีแล้ว จากนี้ไปต้องรอรับมอบนโยบายจากนายกรัฐมนตรีก่อนและจากนี้ภายหลังได้รับมอบปฎิบัติหน้าที่พิเศษก็จะทำงานให้สำเร็จอย่างลุล่วง
ผบ.เหล่าทัพเทิดทูน-รักษาสถาบัน
ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ทำพิธีรับ-ส่งหน้าที่ให้กับ พล.อ.เฉลิมชัย ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทสส.คนใหม่ โดยมี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก,พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ,พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมพิธี
พล.อ.พรพิพัฒน์กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมากองบัญชาการกองทัพไทย เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่างมุ่งมั่นในการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ ทั้งด้านการเตรียมและการใช้กำลังและพัฒนาความเคารพรวมถึงพัฒนาขีดความสามารถ อาวุธยุทโธปกรณ์อย่างต่อเนื่อง สามารถปฏิบัติงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังทำหน้าที่ปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์และสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาที่เป็นภัยต่อประเทศชาติ ตนเชื่อมั่นว่าภายใต้การบังคับบัญชาของ ผบ.ทสส.ท่านใหม่ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ จะนำพากองทัพไทย เป็นหน่วยงานหลักด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงที่มีการพัฒนาและเจริญก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในทุกมิติและทำหน้าที่ในการปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพของรัฐบาลในการร่วมแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองได้อย่างดีเยี่ยม ตนขอมอบหน้าที่และการบังคับบัญชาให้ พล.อ.เฉลิมพล ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ด้าน พล.อ.เฉลิมพล กล่าวว่า ตนและเพื่อนข้าราชการทุกคนขอให้คำมั่นว่า จะร่วมการปฏิบัติหน้าที่เพื่อธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และช่วยเหลือประชาชน ในทุกโอกาสและเสริมสร้างเกียรติภูมิของกองทัพไทยตลอดจนจะมุ่งมั่นทุ่มเท เสียสละและยึดถือพระราชพิธีนิทาน 5 และนโยบายของรัฐบาลเป็นแนวทางในการปฏิบัติ
ผบ.ทอ.ลั่นทหารไม่ยุ่งการเมือง
พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผบ.ทอ.คนใหม่และว่าที่ สว.กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองว่า ไม่มีอะไร ขณะนี้ทุกอย่างเรียบร้อยดี ส่วนภารกิจที่อยากสานต่อในส่วนของกองทัพอากาศนั้น เรามียุทธศาสตร์ 20 ปีอยู่แล้วที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ในช่วงเวลาเดียวกันเราก็เดินตามนั้น อีกทั้งกองทัพอากาศมีสมุดปกขาวที่ได้เขียนแผนงานว่ากองทัพอากาศจะทำอะไรต่อไป
เมื่อถามถึงการทำหน้าที่ สว.จะโหวตร่างญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญในเดือนพฤศจิกายน พล.อ.อ.แอร์บูล กล่าวว่า ตนปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญที่ระบุเช่นใดก็ทำเช่นนั้น เพราะมีขั้นตอนและกติกา ส่วนข้อเรียกร้องกลุ่มผู้ชุมนุมที่ต้องการปิดสวิตช์สว.ถือเป็นขั้นตอนหนึ่งของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าจะลดอำนาจสว.ก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง พร้อม ยังย้ำจุดยืนว่า ทหารไม่เกี่ยวกับการเมืองตามรัฐธรรมนูญกองทัพอากาศมีหน้าที่เตรียมพร้อมกำลังรบ ป้องกันราชอาณาจักรและช่วยเหลือประชาชน ส่วนการเมืองไม่ยุ่งเกี่ยว ใครมีหน้าที่อะไรก็ทำตามนั้นทุกอย่างจะดีเอง ความเป็นพี่น้องก็ดำเนินการต่อไป เพราะเราถูกปลูกฝังเอาไว้เช่นนั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี