13 ต.ค. 2563 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และอดีต รมว.คลัง เขียนบทความ "Work From Thailand ทางรอดเศรษฐกิจไทย กับการต่อลมหายใจผู้ประกอบการ" เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว "กรณ์ จาติกวณิช - Korn Chatikavanij" ช่วงดึกคืนวันที่ 12 ต.ค. 2563 เสนอแนะให้รัฐบาลไทยออกมาตรการจูงใจให้ชาวต่างชาติที่สามารถทำงานอยู่กับบ้าน (Work From Home) ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามาพักอาศัยในประเทศไทยได้ในระยะยาว เพราะจะดึงเม็ดเงินเข้าประเทศได้มาก ดังนี้
วิกฤตจากโควิดส่งผลทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทยสูญเสียรายได้การท่องเที่ยวมหาศาล
ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยมีความน่าอยู่มากที่สุดประเทศหนึ่ง และมีจุดเด่นทางสาธารณสุขต่อการรับมือโควิดติดระดับท็อปของโลก
ในช่วง lock down ผมมีเพื่อนฝรั่งเป็นที่ปรึกษาการลงทุนให้กับสถาบันการเงินระดับโลก เข้ามาประเทศเราก่อนเราปิดประเทศ และนั่งทำงานอยู่หัวหินเป็นเวลาเกือบ 3 เดือน โดยที่เพื่อนร่วมงานเขาที่ลอนดอนไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ต่างประเทศ ความต่างคือในขณะที่เพื่อนๆ เขา ‘อยู่ยาก อยู่ลำบาก’ ด้วยสถานการณ์โควิดที่ต่างประเทศ เขากลับมีชีวิตที่สุขสบาย และค่าครองชีพที่ตํ่ากว่าในบ้านเรา ซึ่งในช่วงนั้นเขาก็ยังจับจ่ายใช้สอยเป็นหลักหลายแสนจากผู้ค้าและกิจการไทย
ตัวอย่างนี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้คนทั่วโลกมีความคุ้นเคยกับการทำงานแบบ Work From Home
ซึ่งสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพเสมือนการไปออฟฟิศ และเมื่อไม่ต้องเข้าออฟฟิศ หลายคนก็เริ่มคิดว่า ‘ไปอยู่ที่อื่นเลยดีไม๊’
ประเทศไทย เราควรใช้โอกาสนี้ ‘คิดนโยบายนอกกรอบ’
ชักชวนให้เหล่า ‘Digital NoMads’ (ผู้ที่ทำงานจากที่ไหนก็ได้ด้วยดิจิตอลเทคโนโลยี’)
รวมไปถึง Expats ในวงการเทค วงการสตาร์ทอัพ วงการการเงิน วงการครีเอทีฟ หรือแม้แต่ทุกวงการที่ทำงานออนไลน์ได้จากทั่วโลก มาใช้ไทยเป็นฐานในการทำงานแห่งใหม่ ด้วยศักยภาพที่ประเทศไทยพร้อมรองรับ
ไทยเรามีความพร้อมทุกด้าน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมภาคบริการทั้งระบบ
ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร ระบบประกันสุขภาพ และโรงพยาบาลเอกชน
ที่พร้อมดูแล “คนทำงาน” กำลังซื้อสูง จากต่างประเทศกลุ่มนี้ได้อย่างแน่นอน
สำคัญที่สุด ไทยเรามีระบบอินเตอร์เน็ตครอบคลุมทั่วประเทศ
มีโครงข่ายทันสมัย แถมค่าครองชีพในการใช้ชีวิตในเมืองไทย คุ้มค่าที่สุดในโลก
[ สิ่งประเทศไทยต้องทำ เพื่อรองรับ Work From Thailand ]
1- สร้างระบบ Visa ทำงานระยะยาวแบบใหม่ 2 ปีเต็ม
โดยปัจจุบันรัฐบาลมีเพียง Special Tourist Visa (STV) อยู่ไทยได้แค่ 90 วัน
ต่อได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 90 วัน แบบมีค่าใช้จ่าย ซ้ำยังมีอุปสรรคระเบียบราชการเดิม
ที่ทำงานไม่ได้ และการเตรียมเอกสารขั้นตอนต่างๆ ไม่ง่ายต่อกันจูงใจคนทำงาน
2- เปิดโอกาสให้เอกชนเสนอโปรโมชั่นแพคเกจ เพื่อครอบคลุมในการดูแล
คนทำงานกำลังซื้อสูงจากต่างประเทศทั้งระบบ ที่พัก อาหาร เลขานุการ
โรงพยาบาลเอกชน เครือข่ายโทรศัพท์มือถือและอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงการให้
“ท้องถิ่น” แต่ละจังหวัดพื้นที่โปรโมต Work From Anywhere
3- ขยายโรงแรมสำหรับ State Quarantine ตามเกณฑ์ปกติ เพื่อให้ครอบคลุมไปต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น
4- เตรียมระบบประกันสุขภาพ เชื่อมโยงกับโรงพยาบาลไทยที่ได้มาตรฐาน
[เม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจไทยมหาศาล]
เมื่อคำนวณเม็ดเงินจาก Digital NoMads และ Expats “กำลังซื้อสูง” กลุ่มนี้
ค่าเช่าบ้าน ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายประจำวัน การขยายการจ้างงาน
มุ่งสู่การสร้างระบบนิเวศน์ในการทำงานแก่ผู้มีรายได้สูงในไทย
คาดการณ์เฉลี่ยค่าใช้จ่ายต่อคนต่อเดือนสูงถึง 1-2 แสนบาท
หากวางเป้าที่ปีแรกที่ 1 แสนคนจะมีรายได้ 2 แสนล้านต่อปี
และเรามองว่านโยบายนี้มีโอกาสนำไปสู่การสร้าง ‘hub’ ธุรกิจใหม่ๆในไทย
จากการที่มีผู้เชี่ยวชาญมารวมตัวกันที่นี่ และทำงานอย่างใกล้ชิดกับคนไทย
เมื่อเราคิดและลงมือทำ “นอกกรอบ” โอกาสในการดึงเม็ดเงิน
หารายได้เข้าประเทศมีอีกหลายช่องทาง เรื่องนี้ต้องเร่งทำ
และเป็นโอกาสสำคัญ เพราะโควิดจะอยู่กับเราไปอีกนาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี