“ไพบูลย์”เผยไม่ถึงขั้นส่งศาลชี้ส.ส.ร.มีอำนาจแก้ รธน.หรือไม่ ชี้ รธน.ปี 60 ให้แค่อำนาจแก้ รายมาตราเท่านั้น ไม่ให้อำนาจ “รัฐสภา” ยกร่างใหม่ทั้งฉบับ
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2563 ที่รัฐสภา เวลา 14.00 น. มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.)พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พุทธศักราช..ก่อนรับหลักการ รัฐสภา โดยมีนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม โดยมีวาระพิจารณารายงานของคณะอนุกรรมการธิการ (กมธ.) พิจารณาเสนอความเห็นในประเด็นข้อกฎหมาย ที่มีนายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เป็นประธาน อาทิ ประเด็นการจัดทำประชามติ การแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญปี60 หรือไม่ เป็นต้น
ทั้งนี้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะรองประธาน กมธ.พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมก่อนรับหลักการ รัฐสภา ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า การประชุมกมธ.วันนี้ก็คงไม่มีการลงมติเกี่ยวกับคณะอนุกมธ.ด้านกฎหมาย แต่จะรับฟังความเห็นของกมธ.แต่ละท่านว่า เป็นอย่างไร ซึ่งอาจจะมีความเห็นแตกต่างจากคณะอนุกมธ.ก็ได้ เพราะความเห็นของกมธ.ชุดใหญ่ อาจจะมองเห็นต่างจากอนุกมธ.ก็ได้ ซึ่งตนก็มองเห็นแตกต่าง แต่ก็คงจะไม่มีการลงมติ แต่จะทำบันทึกไว้เพื่อเสนอรายงานต่อที่ประชุม ซึ่งส่วนตัวมองว่า รัฐธรรมนูญปี 60 ไม่มีบทบัญญัติใดที่มีอำนาจหน้าที่ในการจัดทำรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ได้ โดยในหมวดที่ 15 ว่าด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 255 มาตรา 256 ก็มีเจตนารมณ์ที่จะแก้ไขเพิ่มเติม แก้ไขเป็นรายมาตรา และระบุไว้ชัดเจนว่า จะยกเลิกมาตราใด และจะเปลี่ยนไปใช้ข้อความใด เป็นหลักการของรัฐธรรมนูญ มาตรา 256
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ส่วนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น ในส่วนตัวมองว่า รัฐสภาไม่มีอำนาจ ถ้าจะมีต้องมีการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ เท่าที่ตรวจสอบพบว่า ไม่ได้บัญญัติไว้ ซึ่งเมื่อไปเปรียบเทียบกับรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) ปี 57 ซึ่งรัฐธรรมนูญนั้นมีบัญญัติเอาไว้ในส่วนที่ให้จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งบัญญัติไว้หลายมาตรา และก็จะมีในส่วนที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งตรงนี้เมื่อพบว่ามีปัญหาก็ให้แก้ไขซึ่งจะตรงกับรัฐธรรมนูญปี 60 มาตรา 256 แต่รัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว)ปี 57 ให้จัดทำรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ โดยมีกรรมาธิการการร่างรัฐธรรมนูญ (กมธ.ยกร่างฯ) หรือ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เพราะสาเหตุเป็นรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว แต่รัฐธรรมนูญปี 60 เมื่อบัญญัติแล้ว หลังจากตนดูรายละเอียดแล้วก็เชื่อว่าการที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนั้น จะต้องเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมรายมาตราเท่านั้น ซึ่งเมื่อแก้ไขแล้วก็ต้องเป็นรัฐธรรมนูญปี 60 อยู่เช่นเดิม แต่เป็นเพียงแค่ว่าการแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่เท่าไหร่ และแก้ไขมาตราใด ก็จะปรากฏอยู่ถ้าหากมีผลบังคับใช้
เมื่อถามว่า การให้ส.ส.ร.มาแก้ไขรัฐธรรมนูญเกือบทั้งหมดโดยไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 ถือว่าเป็นการขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ในส่วนของการตั้งส.ส.ร.นั้น ไม่ได้เป็นส่วนที่กำหนดอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญ ที่แท้จริงรัฐธรรมนูญก็ให้เขียนองค์กรย่อยของสภาไว้อยู่แล้ว เขียนในมาตรา 129 ว่าด้วยการตั้งกรรมาธิการของสภา ดังนั้นหากจะมีการให้ยกร่างรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา เพื่อที่จะเสนอเป็นญัตติเข้าไปก็สามารถใช้กลไกของรัฐธรรมนูญมาตรา 129 ได้ในการที่จะตั้งสภาขึ้นมาซ้อนสภา ส่วนตัวมองว่าตรงนี้ไม่มีช่องที่จะเปิดให้ทำได้
เมื่อถามย้ำว่า จำเป็นต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่หากกมธ.ไม่ได้ข้อสรุป นายไพบูลย์ กล่าวว่า ในชั้นนี้ยัง เป็นเพียงการพิจารณาข้อกฎหมายร่วมกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี