เมื่อเวลา 22:30 น. วันที่ 15 ตุลาคม 2563 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงสถานการณ์การชุมนุม
โดย พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกลุ่มผู้ถูกจับกุมตั้งแต่เมื่อเช้าที่ผ่านมา รวม 22 ราย แบ่งเป็น 18 ราย เป็นการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งมีหมายจับอยู่แล้ว โดย 2 ใน 4 ราย เป็นการจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ในข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฎแก่ประชาชนด้วยวาจา เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116, พ.ร.บ.คอมฯ มาตรา 14, พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ มาตรา 34 (6) และอื่น ๆ วันนี้ศาลจังหวัดธัญบุรีมีคำสั่งให้ฝากขังที่เรือนจำธัญบุรี 2 ราย ในส่วนอีก 2 ราย จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ในข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฎแก่ประชาชนด้วยวาจา มาตรา 116, ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่แจ้งการชุมนุม และอื่น ๆ โดยศาลอนุมัติให้ฝากขังที่เรือนจำจังหวัดเชียงใหม่ 2 ราย
ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุม 18 คน กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการจับกุม ซึ่งเป็นการกระทำความผิดซึ่งหน้า ซึ่งอยู่ในเขตท้องที่ศาลแขวงดุสิต ก็จะมีการนำตัวผลัดฟ้องฝากขังในวันพรุ่งนี้ ถือว่าเป็นการควบคุมตามกรอบเงื่อนเวลาที่กฎหมายให้อำนาจพนักงานสอบสวนเอาไว้
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า ส่วนของการชุมนุมช่วงบ่าย จนถึงปัจจุบัน มีการประกาศยุติชุมนุมตอนเวลา 22.00น. พบว่ามีบางส่วนทยอยออกนอกพื้นที่ บางส่วนยังไม่ออก ขอให้ออกจากพื้นที่ เพราะที่มาชุมนุมวันนี้ ถือว่าได้ทำกระผิดกฎหมายแล้ว โดยหลักๆ แล้ว การดำเนินคดีขึ้นกับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน สำหรับผู้ที่มาคืนนี้ ดำเนินคดีหรือไม่อย่างไร คำตอบคือขึ้นกับพนักงานสอบสวนในการรวบรวมพยานหลักฐาน ขณะนี้อยู่ในกระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ขอให้ผู้ที่มานั้นเดินทางออกจากพื้นที่
“อีกเรื่องในการมาชุมนุมครั้งนี้ หลายส่วนมีการทำผิดกฎหมาย เช่น การทำให้เสียทรัพย์ บนสกายวอล์ก มีการร่วมกันทำรั้วเสียหาย เอากระดาษปิดกล้องซีซีทีวี นี่หรือคือการชุมนุมโดยสงบ สิ่งใดที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย ท่านต้องระมัดระวังเอาไว้ ควรศึกษา เพราะถ้าถูกดำเนินคดี เมื่อเริ่มนับหนึ่งแล้วถอยหลังไม่ได้ เพราะฉะนั้นแล้ว อยากให้ศึกษาการถูกดำเนินคดีของกลุ่มบุคคลที่ผ่าน ๆ มา” พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนเรื่องที่เน้นย้ำ ข้อห้ามการเสนอข่าวสารที่ทำให้เกิดความไม่สงบ ตามที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ได้หมายถึงสื่อใดสื่อหนึ่ง เพราะในปัจจุบันทุกคนมีสื่อในมือของตัวเอง ฉะนั้นการกระทำใด ๆ ผู้ใดก็แล้วแต่ หากนำเสนอข้อมูลที่ทำให้เกิดความไม่สงบ ข้อมูลเท็จ ยุยงปลุกปั่น ถือว่าผิดหมด และจะมีการดำเนินการตามมาในอนาคต
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะจับกุมแกนนำในวันนี้หรือไม่ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ดูตามสถานการณ์ การชุมนุมยุติตอน 4 ทุ่ม บางส่วนกลับ บางส่วนยังอยู่ เราต้องประเมินสถานการณ์ แต่ผู้ที่มาชุมนุมทั้งหมด ได้มีการกระทำผิดกฎหมายแล้ว ส่วนจะมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวน การชุมนุมตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา แยกเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ กลุ่มแกนนำ ที่มีการยุยงปลุกปั่น ชักชวน ทำผิดข้อหาเดิม ๆ ซ้ำ ๆ กับกลุ่มคนที่มาชุมนุมตามปกติ ซึ่งดำเนินคดีแน่นอน แต่เมื่อไหร่ อย่างไร อายุความ ความเหมาะสมในการบังคับใช้กฎหมาย ก็จะเป็นตัวกำหนดเอง
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า วันนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสิ้น 15 กองร้อย มาปฏิบัติในพื้นที่ ในภาพรวมรักษาสถานการณ์เรียบร้อยด้วยดี อยากให้พี่น้องสื่อมวลชนได้ช่วยตักเตือนพี่น้องที่มาร่วมชุมนุม การชุมนุมเกิน 5 คนขึ้นไป ถือว่ากระทำผิดกฎหมาย ท่านต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายทุกราย
“กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้มีทีมงานบันทึกภาพ เสียง ผู้ร่วมชุมนุมทุกราย ผบ.ตร. - รอง ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำ ฝากเตือน โดยเฉพาะข้อห้ามการนำรถบรรทุกต่างๆ ตามที่ได้มีประกาศห้ามเข้า ไม่ว่าจะบรรทุกน้ำ เครื่องขยายเสียง บรรทุกอาหาร รถนำส่งผู้ร่วมชุมนุม พรุ่งนี้ (16 ต.ค.) ดำเนินการตามกฎหมายทุกราย อยากให้ช่วยเตือน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน การที่มาร่วมชุมนุมอาจมีผลกระทบต่อตัวเองในอนาคต การถูกดำเนินคดี การสมัครงาน หรือทำธุรกิจบางอย่าง อาจไม่สามารถทำได้" พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี