“ฝ่ายค้าน”จี้ “รัฐบาล”เปิดประชุมสมัยวิสามัญ ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ด้าน “เพื่อไทย” เผย“ชวน”เห็นด้วยด้าน”สุทิน”ขอ”บิ๊กตู่”เสียสละลาออก พร้อมกระทุ้งพรรคร่วมถอนตัวเปิดทางมีนายกฯ คนใหม่ ขณะที่"สมพงษ์"จี้นายกฯ ลาออก พร้อมเรียกร้อง 4 ข้อ ทางออกประเทศ
เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 63 ที่รัฐสภา ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ ร่วมแถลงข่าว
โดยนายประเสริฐ กล่าวว่า ยืนยันว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นเพื่อให้มีการเปิดประชุมวิสามัญ ซึ่งขณะนี้ฝ่ายค้านได้ลงรายชื่อแล้ว 211 รายชื่อ ขาดอีก 34 รายชื่อ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านจะนำญัตติที่ลงชื่อแล้วมาฝากไว้ที่สำนักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ได้มาช่วยลงชื่อ ให้ครบตามจำนวน 245 รายชื่อ ส่วนญัตติขอเปิดสมัยประชุมวิสามัญที่เราจะยื่นนั้น เรามีเหตุผลอย่างชัดเจน ว่าการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรงนั้น ได้ออกข้อความเป็นการจำกัดสิทธิ เสรีภาพของประชาชนในการดำเนินชีวิต ทั้งนี้ การชุมนุมของเยาวชนยังไม่ได้ยุติลง ดังนั้น ฝ่ายค้านมีความเห็นร่วมกันว่า หากรัฐบาลมีความจริงใจอย่างแท้จริง ต้องยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในทันที รวมถึงยกเลิกการจับกุม และปล่อยตัวแกนนำผู้ชุมนุม เพราะการชุมนุมของม็อบ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญโดยสงบ
“ส่วนเรื่องการยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อสักครู่ ในการประชุมร่วมส.ส.รัฐบาล ฝ่ายค้าน และตัวแทนครม. ได้มีการหารือกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ท่านก็เห็นด้วย ในการแนะนำรัฐบาลให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” นายประเสริฐ กล่าว
ด้านนายสุทิน กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีภารกิจต้องผลักดัน 1.ให้มีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญให้ได้ 2. การยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แม้ที่ประชุมจะไม่มีมติชัดเจน แต่ประธานรัฐสภา เห็นด้วย ซึ่งพวกเราก็จะผลักดันเรื่องนี้ โดยชี้ให้เห็นว่า การคงไว้ซึ่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่เกิดประโยชน์ เพราะยังมีการชุมนุมเช่นเดิม ดังนั้น การยกเลิกเป็นผลดีมากกว่า การปล่อยตัวก็เช่นกัน วันนี้เราทำทุกอย่างให้ประเทศชาติคลี่คลาย ให้บ้านเมืองเดินไปได้ ฉะนั้นมาตรการใด ๆ ที่ออกมาแล้ว ทำให้ผู้ชุมนุมเพิ่มมากขึ้น รัฐบาลต้องทบทวน ฝ่ายค้านยืนยันชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันให้เปิดการประชุมสมัยวิสามัญ ผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) และง่ายที่สุดในวันนี้คือ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเสียสละลาออก
ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรเป็นช่องทางหนึ่งที่จะผ่อนคลายปัญหาใหญ่ของประเทศ ซึ่งเราไม่มั่นใจว่าจะแก้ได้หรือไม่ได้ เพราะศูนย์รวมของปัญหาเกิดขึ้นจากที่ประชาชนไม่ไว้ใจนายกฯ ศูนย์รวมปัญหาอยู่ที่นายกฯ และเกิดจากรัฐธรรมนูญที่ประชาชนต้องการแก้ไข แต่กลับไปอยู่ที่กระบวนการของกรรมาธิการ และไม่มีกำหนดเวลาที่ชัดเจน หรือทำให้เห็นว่ามีความมุ่งมั่นที่จะแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่อยู่ที่นายกฯ
ด้านนายชัยธวัช กล่าวว่า สถานการณ์การออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ของรัฐบาลขณะนี้ เป็นการรัฐประหารเงียบ การใช้อำนาจขณะนี้ไม่ต่างจากสถานการณ์หลังการรัฐประหาร มีการออกข้อกำหนดให้อำนาจเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว หรือเรียกบุคคลใดมารายงานตัวก็ได้ รวมถึงตรวจค้นสถานที่ต่าง ๆ และใช้อำนาจกำหนดสถานที่ควบคุมตัวเพื่อรองรับการจับกุมตัว ล่าสุดไปกำหนดให้ค่ายทหารที่ชลบุรี เป็นสถานที่ควบคุมตัวอีกที่หนึ่ง ล่าสุดมีการเปิดเผยชัดเจนเเล้วว่า กองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.) ใช้อำนาจสั่งให้ตรวจสอบ และระงับการออกอากาศของสื่อมวลชนจำนวนหนึ่ง นี่เป็นรูปธรรมที่เราจะต้องต่อต้าน การใช้อำนาจตามสถานการณ์ฉุกเฉิน ละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และละเมิดสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนอย่างชัดเจน
"ถ้ายังไม่ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายเเรง จะมีการใช้อำนาจอย่างนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ และนี่เป็นสัญญาณที่บอกเเล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ หมดความชอบธรรมที่จะปกครองประเทศนี้เเล้ว ท่านจะต้องพิจารณาทบทวนตัวเอง เสียสละเพื่อให้สถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย ผมในฐานะเลขาธิการพรรคก้าวไกล ยังตั้งคำถามไปยังพรรคร่วมรัฐบาลว่า ต้องเเสดงท่าทีที่ชัดเจนว่า พวกท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการลุแก่อำนาจของนายกฯ ขณะนี้ ถ้าท่านไม่เห็นด้วยจะต้องมีจุดยืนชัดเจน ในการยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน หากยังไม่มีการยกเลิก ผมขอเรียกร้องให้ พรรคร่วมรัฐบาลทบทวน ถอนตัวจากการสนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ เพื่อเปิดทางให้มีนายกฯคนใหม่" นายชัยธวัช กล่าว
ขณะที่นายสงคราม กล่าวว่า ม็อบมาด้วยความสงบ ขณะเดียวกันก็มีการจัดม็อบชนม็อบกับม็อบนักศึกษา ซึ่งเป็นการกระทำที่เลวร้ายที่สุด หลายคนมีคำถามว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากใคร การที่ปิดสื่อบางสื่อนั้น มีคำถามว่านี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ต้องการปิดหูปิดตา และเป็นการสร้างสถานการณ์ม็อบอย่างรุนแรง พวกเราเป็นห่วงเยาวชนที่จะถูกทำร้ายเหมือนในอดีต ขอร้องรัฐบาลร่วมมือเปิดประชุมวิสามัญแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อลดความรุนแรงลง
ด้านนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมพรรคว่า พรรคได้เชิญส.ส.ของพรรคมาประชุม 4 ประเด็น คือ 1.ให้มาทำใบรับรองจากสภาฯ เพื่อนำไปใช้ประกันตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมตัวทั่วประเทศ 2.ขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเร่งด่วน 3.พรรคขอประกาศจุดยืนของพรรค ขอให้รัฐบาลยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่รัฐบาลกล่าวอ้าง และ4.ขอให้รัฐบาลปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมทุกคน
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนเดียวเท่านั้น ขอให้นายกฯ ประกาศลาออกไปเสียเลย หากเปิดสมัยประชุมสภาในเดือนพฤศจิกายน เราจะยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ เพียงคนเดียว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี