เปิดรายละเอียด‘คำฟ้อง’เพื่อไทย ยื่นศาลแพ่งขอยกเลิก‘พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-คุ้มครองผู้ชุมนุม’
เมื่อเวลา 10.00น. วันที่ 20 ต.ค. ที่ศาลเเพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นพ.ชลน่าน ศรีเเก้ว ส.ส.น่านพรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กับพวกรวม 4 คน พร้อมด้วยนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความฯได้ยื่นฟ้องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาเพิกถอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครฯ
โดยฟ้องโจทก์ระบุว่า คดีนี้โจทก์ขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี เพิกถอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครลงวันที่ 15 ต.ค.2563 และ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 16ต.ค.2563 รวมทั้งข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 แห่งพ.ร.ก.การหมายเหตุ
บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ลงวันที่ 15 ต.ค.48 และคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 36/2563 เรื่องแต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงานหัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงลงวันที่ 15 ต.ค. 2563 โดยที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวมิได้เป็นไปตามเงื่อนไขของพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
แต่ข้อกำหนดที่จำเลยออกตามเงื่อนไขของกฎหมายดังกล่าวข้างต้นซึ่งมีผลเป็นการ จำกัด สิทธิและเสรีภาพของโจทก์และปวงชนชาวไทยที่รัฐธรรมนูญให้การคุ้มครองเช่นข้อกำหนดข้อละเมิดต่อเสรีภาพในการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญมาตรา 44 ข้อกำหนดข้อ 2 ละเมิดต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเสรีภาพสื่อมวลชนและเสรีภาพในการติดต่อสื่อสารตามรัฐธรรมนูญมาตรา 34,35และ 36 ข้อกำหนดข้อ 3 และข้อ 4 ละเมิดต่อเสรีภาพในการเดินทางและเลือกถิ่นที่อยู่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 38 เป็นต้น
ทั้งนี้หากข้อกำหนดดังกล่าวยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปจะก่อความเสียหายและละเมิดต่อสิทธิและเสรีภาพของโจทก์และปวงชนชาวไทยตลอดเวลาตราบเท่าที่ข้อกำหนดยังคงมีผลบังคับ ดังนั้นเพื่อป้องกันความเสียหายมีให้สิทธิและเสรีภาพของโจทก์และปวงชนชาวไทยต้องถูกละเมิดในระหว่างการพิจารณาของศาลโจทก์จึงขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของโจทก์และปวงชนชาวไทยในระหว่างการพิจารณาของศาล
และขอให้ศาลมีคำสั่งดังต่อไปนี้ (1) งดการบังคับใช้ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 และมาตรา 11 แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 15 ต.ค. 2563 และคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 36/2563 เรื่องแต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงานหัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงลงวันที่ 15 ต.ค. 2563 ไว้เป็นการชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
- ห้ามจำเลยออกคำสั่งหรือข้อกำหนดใด ๆ อันเนื่องจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงดังกล่าวข้างต้นอันมีผลเป็นการ จำกัด สิทธิและเสรีภาพของโจทก์และปวงชนชาวไทยในระหว่างการพิจารณาของศาลจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
- ห้ามจำเลย ผู้กำกับการปฏิบัติงาน และหัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ดำเนินการตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 36/2563 ลงวันที่ 15 ต.ค. 2563 ที่มีผลเป็นการจำกัดและละเมิดสิทธิและเสรีภาพของโจทก์และปวงชนชาวไทยที่รัฐธรรมนูญให้การคุ้มครองไว้เป็นการชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาจนกว่าศาลจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษา
ศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณา
ภายหลัง นพ.ชลน่าน เปิดเผยว่า วันนี้มาเพื่อร้องขอต่อศาลให้พิจารณา ยกเลิกเพิกถอนประกาศและคำสั่งรวมทั้งข้อกำหนดที่ออกมาทั้ง 2 ฉบับ โดยฉบับแรกคือประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในกรุงเทพมหานครฯ อีกฉบับที่ออกในลักษณะแบบเดียวกัน และมีคำสั่งนายกรัฐมนตรีให้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่เพื่อระงับยับยั้งเหตุการณ์ เพราะไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อไม่ให้ประกาศและคำสั่งทั้งหมดมีผลบังคับใช้ เรื่องที่สองคือการร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองชั่วคราวผู้ที่ถูกกระทำ ผู้ที่จะได้รับสิทธ์การชุมนุม เมื่อมีการชุมนุมขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆและอาจจะมีลักษณะเข้าไปคุกคามสลายการชุมนุม ถ้าได้รับความเมตตาจากศาลวินิจฉัยเพิกถอน เราก็มีเหตุอันควรมีผลรับรองว่าการกระทำของ นายกรัฐมนตรี มติ ครม.ที่ออกมาก็ไม่ชอบ ดังนั้นจึงเข้าข่ายจงใจละเมิดบทบัญญัติของกฎหมาย และปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เป็นหลักฐานชัดเจนที่จะยื่นเสนอต่อ ป.ป.ช. หรือศาลรัฐธรรมนูญ
ด้านนายจิรายุ กล่าวว่า ในประเด็นเรื่องของการเตรียมเอกสารที่เป็นหนังสือรับรองจากสภาผู้แทนราษฎรอัตราค่าตอบแทนที่จะใช้ประกันตัว ส.ส.พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมในการช่วยนักเรียน นักศึกษาที่ได้ผลกระทบจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทุกคนจะมีเอกสารติดตัว สามารถยื่นช่วยเหลือได้ทันที
ส่วนนายนรินท์พงศ์ ทนายความ เปิดเผยว่า ขณะนี้ศาลยังไม่มีคำสั่งอย่างไร คาดว่าน่าจะเป็นช่วงบ่าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี